ทนายตั้ม ชี้คดี “ดารุมะ” โดนหนักกว่า “แหลมเกต ที่ศาลสั่งจำคุก1,446ปี

Advertisement จากกรณีร้านบุฟเฟต์แซลม่อนชื่อดัง ดารุมะ ปิดตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งพบว่าก่อนหน้ามีการขายคูปองหรือเวาเชอร์ในราคา 199 บาท และมีผู้บริโภคซื้อไปเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะปิดร้านลง ลอยแพพนักงานทั้งหมดโดยไม่ทราบอนาคต ทำให้บรรดาลูกค้าและผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น Advertisement สำหรับความคืบหน้า เพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า “ผมอ่านในข่าวและเห็นมีผู้เสียหายจำนวนมากจากกรณี “ดารุมะ ซูชิ” (Daruma Sushi) ร้านบุฟเฟต์แซลมอนชื่อดัง เปิดจำหน่ายเวาเชอร์ (Voucher) ในราคาใบละ 199 บาท มีเงื่อนไขต้องซื้อ 5 ใบขึ้นไป ทำให้ลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างมาก Advertisement มันน่าแปลกใจตั้งแต่ตรงนี้ เพราะแซลมอนราคาตลาดกิโลละ 500-600 ขึ้นไป แต่มาขายในราคาแค่ 199 มันจะเป็นไปได้ยังไง ผมว่ากรณีนี้ มีความใกล้เคียง แหลมเกต ซีฟู้ด ที่ขายบุฟเฟต์ราคาถูก ชักชวนให้คนหลงเชื่อซื้อ แต่กลับยกเลิกและไม่คืนเงิน ศาลอาญาลงโทษจำคุกกรรมการบริษัท 1,446 ปี ในข้อหาหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน แต่คดีของดารุมะอาจจะโดนมากกว่านั้น เพราะไม่ใช่แค่ขายเวาเชอร์ […]

ทนายตั้มเปิดตัว พี่ชายแตงโม ลั่นไม่สนเงิน ขอลุยหาความจริงทวงยุติธรรมให้น้อง

ความสูญเสีย แตงโม นิดา เป็นสิ่งที่ประชาชนยังให้ความสนใจ ถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ว่า เป็นอุบัติเหตุ 100% หรือไม่ โดยก่อนหน้า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้ออกมาประกาศว่าจะติดตามค้นหาความจริงในเรื่องนี้ ถือว่าเป็นการทำเพื่อแตงโม เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมเปิดแชท และระบุว่า มีบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับน้องแตงโมมาคุยกับตน จันทร์นี้รู้เรื่อง เมื่อเวลา 09.00 น. ทนายตั้ม ได้โพสต์ ว่า “ถึงแม้แม่น้องแตงโมจะไม่ติดใจสาเหตุการตายของลูกสาวแล้ว แต่วันนี้พี่ดายศซึ่งเป็นพี่ชายน้องแตงโม และเป็นผู้เสียหายคนหนึ่งทนไม่ไหว ขอร่วมตามหาความจริงกับผม เพื่อหาสาเหตุการตายของน้องสาว พรุ่งนี้เวลา 9.00 น. ผมกับพี่ดายศจะเข้าไปพบตำรวจ เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดี และขอให้สอบประเด็นที่ยังสงสัยอยู่ พี่ดายศบอกกับผมว่า “ผมไม่สนใจเรื่องเงิน ผมขอทำเพื่อน้องเป็นครั้งสุดท้าย เราจะสู้ไปด้วยกัน” แล้วfcน้องแตงโมพร้อมจะสู้ไปกับพวกเราไหมครับ #หยุดโฟกัสเรื่องแม่รับตังค์แล้วกลับมาทวงความยุติธรรมให้น้องแตงโม!!”   ข่าวจาก : ข่าวสด

ได้คลิปหลักฐานสำคัญชิ้นใหม่ ถึงคิวทนายตั้ม ตำรวจเรียกสอบปากคำเย็นวันนี้

ถึงคิวทนายตั้ม ตร.เรียกสอบปากคำเย็นวันนี้ หลังได้หลักฐานสำคัญชิ้นใหม่ เป็นคลิปที่เห็นภาพคนเดินจากหัวเรือไปท้ายเรือ คลี่คดีแตงโม นิดา ตกเรือ กรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เดินทางมาที่อู่เก็บเรือ พร้อมเปิดเผยข้อสงสัยว่า บาดแผลของแตงโม น่าจะเกิดจากหางเสือใต้จากใบพัดลงไป แต่การจะโดนจุดนั้น อาจโดนดูดลงไปข้างใต้ ซึ่งเป็นไปได้ยาก เพราะเรือเคลื่อนไปข้างหน้า ส่วนวัตถุคือตัวของแตงโมอยู่ด้านหลังต้องพัดออกไป ไม่น่าจะถูกดูดลงไปได้ ซึ่งต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 4 มี.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เตรียกเรียกตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยาน โดยมีการนัดให้ปากคำในช่วงเย็นของวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลสำคัญจากแหล่งข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายนี้ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัทแห่งหนึ่งที่บันทึกภาพเหตุการณ์ระหว่างที่เรือสปีดโบ๊ตล่องกลับมาจากสะพานพระราม 8 จนกระทั่งเรือวิ่งมาถึงช่วงสะพานพระราม 7 ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มีคนในเรือลุกจากหัวเรือเดินไปยังท้ายเรือ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าภาพบุคคลที่ลุกเดินจากหัวเรือเดินไปท้ายเรือคือใคร เนื่องจากความละเอียดของกล้องที่บันทึกภาพได้ในระยะไกล บวกกับความมืดจึงทำให้เห็นภาพไม่ชัดเจน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายนี้นำหลักฐานวงจรปิดชิ้นดังกล่าวส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อระบุตัวบุคคลดังกล่าวที่ลุกเดินไปท้ายเรือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ แตงโม นิดา พลัดตกจากเรือในช่วงเกิดเหตุหรือไม่   ข่าวจาก : ข่าวสด

ตำรวจติดป้าย กันพื้นที่ อายัดเรือ หลังทนายตั้มบุกพิสูจน์หาความจริง

อู่เรือเก็บเรือโคบอลลำหรู โดนเจ้าหน้าที่ติดป้ายประกาศ อายัด ห้ามเคลื่อนย้าย และไม่ให้เข้าใกล้เรือ หลังจากช่วงบ่ายวันนี้ทนายตั้ม เดินทางไปบุกพิสูจน์เรือ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ อู่เรือ NBC BOAT CLUB ภายหลัง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้เดินทางมาที่อู่สถานที่เก็บเรือ พร้อมเดินสำรวจบริเวณเรือ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าแผลของ แตงโม อาจจะโดนหางเสือเรือที่อยู่ใต้ลงไปจากใบพัดเรือ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ต้องหาว่า แตงโม ตกเรือจากจุดใดแน่ เพราะการตกจากท้ายเรือ ความเร็วของเรือที่วิ่งอยู่น่าจะกระชากให้แตงโมพลัดห่างไปจากเรือ ไม่ใช่ดูดลงใต้เรือนั้น ล่าสุดพบว่าภายหลังจากทนายตั้ม เดินทางเข้าไปดูเรือลำดังกล่าว เจ้าหน้าที่ ได้นำเทปล้อมเรือที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งนำหนังสือแจ้งอายัดเรือ โคบอล มาติดเอาไว้ บริเวณภายในอู่เรือ และกันไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งกับวัตถุพยานที่เกิดเหตุอีกได้ โดยระบุว่า ห้ามจำหน่าย จ่าย โอน เคลื่อนย้ายเรือ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นลายลักษณ์อักษร   ข่าวจาก : ข่าวสด

ซีอีโอสาวปรึกษาทนายตั้ม สามีอยู่กิน 10 ปี-มีลูก 1 คน แอบจดทะเบียนกับผญบ.สาว

ซีอีโอสาวปรึกษาทนายตั้ม สามีอยู่กิน 10 ปี-มีลูก 1 คน แอบจดทะเบียนกับผญบ.สาวคนดัง ถามภรรยาไม่ได้จดทะเบียน จะมีสิทธิดำเนินร้องเรียนอะไรได้บ้าง เป็นอีกเรื่องราวในครอบครัวที่กำลังเป็นกระแสพูดถึง เกี่ยวกับประเด็นการเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสทางกฎหมาย ก่อนสามีจะไปจดทะเบียนสมรสกับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง เมื่อเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เผยถึงเรื่องราวของซีอีโอสาวบริษัททีวีช่องเคเบิ้ลแห่งหนึ่ง ที่มาปรึกษาและขอความรู้ทางกฎหมายกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เรื่องราวที่ซีอีโอสาวมาปรึกษาทางกฎหมายกับทนายตั้มครั้งนี้ ได้เผยถึงเหตุการณ์ที่สามี ซึ่งอยู่กินกันมา 10 ปี และมีลูกด้วยกัน 1 คน แอบไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ใหญ่บ้านสาวสวยคนดัง ทางซีอีโอสาวจึงต้องการทราบว่า ภรรยาไม่ได้จดทะเบียนสมรส จะมีสิทธิหรือดำเนินการร้องเรียนอะไรได้บ้าง โดยทนายตั้มโพสต์ระบุว่า “ซีอีโอสาวบริษัทแห่งหนึ่งมาปรึกษาสามีที่อยู่กันมา 10 กว่าปี มีลูกด้วยกัน 1 คน แอบไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ใหญ่บ้านคนดังสุดสวย ภรรยาไม่ได้จดทะเบียนสมรส จะมีสิทธิหรือดำเนินการร้องเรียนอะไรได้บ้าง รอฟังกันครับ”   ข่าวจาก : ข่าวสด

ตร. สั่งฟ้อง ทนายตั้ม ! คดีปลอมเอกสารช่วย เอมี่ อาเมเรีย หลุดคดียาเสพติด

ตำรวจสั่งฟ้อง ทนายตั้ม คดีปลอมเอกสารยื่นศาลช่วย เอมี่ อาเมเรีย จาคอป หลุดคดียาเสพติด ตำรวจผู้เสียหายเผย ถูกนำเอกสารบัตรข้าราชการตำรวจไปปลอมแปลงลายเซ็น จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ถูกตำรวจออกหมายจับเมื่อปี 2563 ในคดีปลอมเอกสาร เพื่อใช้ยื่นต่อศาลในการขอลดโทษให้นักแสดงสาว เอมี่ อาเมเรีย จาคอป ที่ตกเป็นจำเลยในคดียาเสพติด ซึ่งทนายตั้มยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนนั้น ล่าสุด (10 มิถุนายน 2564) เดลินิวส์ รายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้สรุปสำนวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ให้กับพนักงานอัยการจังหวัดมีนบุรี คดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.ศาลาแดง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ว่า ถูกนำเอกสารบัตรข้าราชการตำรวจไปปลอมแปลงลายเซ็น เพื่อใช้ในการยื่นต่อศาลในการขอลดโทษ พ.ร.บ.ยาเสพติด มาตรา 100/2 ในคดี น.ส.อาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ อดีตนางเอกสาวชื่อดัง ตกเป็นจำเลย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนเรื่อยมา […]

‘ทนายตั้ม’ประกาศพรุ่งนี้พาผู้เสียหายร้องกองปราบ ดำเนินคดี’อัจฉริยะ’ข้อหาทำพยานหลักฐานเท็จ

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค.62 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า “หลังจากที่คุณรักชนก เจริญมากสุวรรณ ไปแจ้งความดำเนินคดีนายอัจฉริยะฯ เรื่องคัดทะเบียนราษฎร์โดยมิชอบ ที่ สภ.บางปะอิน ได้มีกลุ่มบุคคลสมคบคิด และร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จ โดยการปลอมแปลงเอกสารราชการ เพื่อปกปิดความผิดของตัวเองนั้น ในวันพรุ่งนี้ 7 มกราคม 2562 เวลา 10.00 น. ผู้เสียหายจะเดินทางไปร้องทุกข์ที่กองปราบ ดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กับพวกที่ร่วมขบวนการทุกคน ในข้อหาร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จ ปลอมแปลงเอกสารราชการ แล้วจะแถลงพร้อมเปิดหลักฐานบางส่วนให้ประชาชนทราบถึงพฤติกรรมของบุคคลกลุ่มนี้ ว่าสามารถทำได้ทุกอย่าง #แม้แต่การทำหลักฐานเท็จก็ตาม   ข่าวจาก : ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ

มติสภาทนายความฯ เป็นเอกฉันท์ ส่งชื่อ’ทนายตั้ม’ สอบมรรยาททนายความ ปมคลิปหลุดเรียกเงินช่วยคดี

  สภาทนายความฯ มีมติส่งชื่อ ‘ทนายษิทรา’ ให้คณะกรรมการมรรยาททนายตรวจสอบ หลัง ‘อัจฉริยะ’ ร้องเรียน กรณีเรียกเงินช่วยคดี 500,000 บาท จากสามีภรรยา ใน จ.สมุทรสาคร วันนี้ (28 ก.ย.61) นายสรัลชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยที่ประชุมมีมติส่งรายชื่อ นายษิทรา เบี้ยบังเกิดทนายความที่ปรากฏในคลิปร้องเรียนของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เกี่ยวกับการแอบอ้างเรียกเงินช่วยคดี 500,000 บาท ของสามีภรรยาคู่หนึ่งใน จังหวัดสมุทรสาคร โดยที่ประชุม มีมติเป็นเอกฉันท์ 23 ต่อ 0 เสียง เห็นว่า ให้ส่งรายชื่อนายษิทรา ให้คณะกรรมการมรรยาททนาย ตรวจสอบโดยจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเรียกผู้ถูกล่าวหาและผู้กล่าวหามาสอบสวน เพื่อดูว่าบทลงโทษจะหนักหรือเบา และทันทีที่ผลตรวจสอบออกจะต้องส่งมาให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณามีความเห็น ภายใน 30 วัน ข่าวจาก : PPTV36

ปิดเกมคดีหวย30ล้าน!! ทนายลุงจรูญเผย ครูปรีชารับสารภาพแล้ว!!

  เป็นอีกคดีที่สังคมให้ความสนใจและต้องการทราบถึงข้อเท็จจริงว่า แท้จริงแล้วใครกันแน่คือเจ้าของหวย 30 ล้านตัวจริง ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ กับ ครูปรีชา ใคร่ครวญ โดยตอนนี้คดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลจังหวัดกาญจนบุรี ตามมาด้วยคลิปเสียงที่หลุดออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยถูกอ้างว่าเชื่อมโยงกับคู่กรณีของคดีนี้ ล่าสุด นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และทนายความของลุงจรูญ โพสต์เฟซบุ๊กเคลื่อนไหวของคดีนี้ โดยระบุว่า ปรีชารับสารภาพแล้ว!! คลิปคนก้มเก็บหวยได้ไม่ใช่ลุงจรูญ ใครก็ไม่รู้เป็นเงาตะคุ่มๆ ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร เลยไม่ขอยื่นเป็นพยานหลักฐานในศาล ส่วนคลิปที่เคยกล่าวหาว่า ลุงจรูญรับสารภาพที่สภ.เมืองกาญจนบุรี ในวันที่ 28 พย.2560 ก็ไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินมาก่อน #ปิดเกมส์ปรีชา #หวย30ล้าน ขอบคุณที่มา ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ  

ทนายครูปรีชา ถาม’ษิทรา’ โดดช่วย’จรูญ’ คิดเงินหรือฟรี? ยันครูจำแม่น 31ต.ค. มีคนเก็บหวยไป!! (มีคลิป)

  จากกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” ทนายความของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ผมมองว่าเกมส์ฟ้องดะของฝ่ายตรงข้าม แค่เป็นการพยายามเรียกความมั่นใจจากลูกความ หลังจากที่โดนวิจารณ์ว่าเดินเกมส์ผิด มือไม่ถึง และจะข่มขวัญผม ให้ไม่มีสมาธิกับคดีหลัก เลยขอเอาคำพูดท่าน ผบช.ก. สอบสวนกลางมาใช้ ผมไม่ตกใจอะไรง่าย กับจิตวิทยาแค่นี้ ฟ้องมา 10 กว่าคดีชนะให้ได้สักคดีแล้วกันนะครับ”     28 เม.ย.61 นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความครูปรีชา ใคร่ครวญ กล่าวว่า การฟ้องร้องดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิ์ตามกฏหมาย ไม่ได้มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า คำฟ้องที่อีกฝ่ายฟ้องร้องมาเป็นความเท็จ ก็ต้องฟ้องกลับ ซึ่งการที่สังคมมองว่า เป็นการฟ้องกันไปมาก็สามารถมองได้ แต่ทุกอย่างก็เพื่อพิสูจน์ ตามที่ตนเคยกล่าวไว้ว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ซึ่งต้องพิสูจน์กันในชั้นศาลว่า ใครพูดจริง และใครพูดเท็จ     ส่วนคำถามที่ตนฝากถามทนายษิทราว่าวันขึ้นศาลจะไปในฐานะใดนั้น ตนคิดว่าทนายษิทราอาจจะเข้าใจผิด เพราะสิ่งที่ตนถามคือ จะไปในนามทนายอาชีพด้วยการว่าจ้างไป หรือไปในนามทนายมูลนิธิ ซึ่งเป็นลักษณะของการช่วยเหลือกันแบบไม่มีค่าจ้าง ซึ่งทั้ง 2 แบบ ไม่ได้มีผลต่อรูปคดี แต่เพียงอยากทราบว่าไปเพราะ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล […]

1 2 3
error: