กรมการจัดหางาน รับสมัครหญิงไทย 50 อัตรา ฝึกงานเทคนิคที่ญี่ปุ่น 3 ปี

Advertisement 23 มี.ค. 67 นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ระบุว่า กรมการจัดหางาน ประกาศรับสมัครคัดเลือกผู้ฝึกงานเทคนิคคนไทยไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่นผ่านองค์กร IM Japan ปี 2567 ครั้งที่ 5 (เพศหญิง) ในตำแหน่งผู้ฝึกปฏิบัติงานทางเทคนิค ประเภทงานอุตสาหกรรมการผลิตและงานบริการ จำนวน 50 อัตรา Advertisement อาทิ งานหล่อกลึงโลหะ งานพ่นสี งานปั๊มขึ้นรูปโลหะ งานหล่อพลาสติก งานทำขนมปัง และงานบริการ เป็นต้น โดยรับสมัครระหว่างวันที่ 1 – 3 เมษายน 2567 ไม่เว้นวันหยุดราชการ สำหรับสวัสดิการและค่าตอบแทน จะได้รับฟรีค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เมื่อฝึกปฏิบัติงานครบ 3 ปี โดยผู้ผ่านการคัดเลือก เดือนแรกจะได้รับเบี้ยเลี้ยง 80,000 เยน หรือประมาณ 19,115 บาท ฟรี ค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ เดือนที่ […]

รับสมัครฝึกงานโครงการ IM Japan ปี’67 ยื่นออนไลน์ไม่มีค่าใช้จ่าย

(24 กุมภาพันธ์ 2567) นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า กกจ.ประกาศรับสมัครคัดเลือกผู้ฝึกงานเทคนิคคนไทยไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่นผ่านองค์กร IM Japan ปี 2567 ครั้งที่ 4 ในตำแหน่งผู้ฝึกปฏิบัติงานทางเทคนิค ประเภทงานอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมก่อสร้าง ฟรีค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เมื่อฝึกปฏิบัติงานครบ 3 ปี โดยผู้ผ่านการคัดเลือก เดือนแรกจะได้รับเบี้ยเลี้ยง 80,000 เยน หรือประมาณ 19,000 บาท ค่าที่พัก ค่าน้ำ – ค่าไฟ ฟรี เดือนที่ 2 ถึงเดือนที่ 36 จะได้ค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่กฎหมายญี่ปุ่นกำหนด หรือประมาณ 41,000 บาทต่อเดือน ไม่รวมค่าทำงานล่วงเวลา เมื่อฝึกครบตามกำหนด จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองการฝึกงาน และเงินสนับสนุนการประกอบอาชีพ จำนวน 600,000 เยน หรือประมาณ 145,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 10 […]

ญี่ปุ่นเตรียมออกวีซ่าให้ ผู้ที่ประกอบอาชีพแบบ “Digital Nomad” อยู่ยาวได้ 6 เดือน

นับตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด-19 เทรนด์การทำงานแบบ Work From Anywhere (ทำงานจากที่ไหนก็ได้) ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ทำให้กลุ่มอาชีพที่เรียกว่า “Digital Nomad” หรือ ผู้เร่ร่อนทางดิจิทัล ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น Digital Nomad คือคนที่ประกอบอาชีพซึ่งสามารถทำงานผ่านทางออนไลน์ได้ ทั้งที่เป็นพนักงานบริษัทที่ไม่มีกฎว่าต้องเข้าออฟฟิศ ฟรีแลนซ์ที่รับจ็อบต่าง ๆ เจ้าของธุรกิจ รวมถึงนักลงทุน แต่ในความหมายส่วนใหญ่มักเป็นอาชีพด้านดิจิทัลและออนไลน์ที่มีอิสระและความยืดหยุ่นสูง ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยว A Brother Abroad ทั่วโลกขณะนี้มีผู้ทำงานแบบ Digital Nomad อยู่ประมาณ 35 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับเทรนด์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะพิจารณาออกวีซ่ารูปแบบใหม่ให้กับกลุ่ม Digital Nomad ซึ่งจะทำให้โปรแกรมเมอร์ วิศวกรไอที คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ฯลฯ สามารถพำนักอยู่ในญี่ปุ่นได้ง่ายและนานขึ้น วีซ่าดังกล่าวจะอนุญาตให้แรงงานทักษะสูงทำงานในญี่ปุ่นโดยทำงานทางไกลได้นานถึง 6 เดือนในขณะที่สามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นไปด้วยได้ ญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถดึงดูดแรงงานและเจ้าของธุรกิจในต่างประเทศรวมถึงบรรดายูทูบเบอร์ให้เข้ามาพำนักในญี่ปุ่นได้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นอย่ระหว่างรับฟังความคิดเห็น และวางแผนว่าจะเปิดตัววีซ่านี้อย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน มี.ค. […]

คนญี่ปุ่นเผยสิ่งที่อยากทำเมื่อมาไทย คือจัดระเบียบ “ขนไม้กวาด” รู้สึกค่อนข้างกระจัดกระจาย ยาวไม่สม่ำเสมอ

4 ส.ค. ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความว่า สิ่งหนึ่งอยากทำเมื่อมาถึงประเทศไทยคือ “จัดการขนไม้กวาดไทย” หลังรู้สึกว่าขนไม้กวาดค่อนข้างกระจัดกระจายและความยาวไม่สม่ำเสมอ โดยสาวเจ้าของโพสต์ได้จัดระเบียบขนไม้กวาดขึ้นมาใหม่ ดูเรียบร้อยและยาวเท่ากันทุกเส้น ซึ่งหลังจากจัดระเบียบแล้ว เธอรู้สึกฟินมาก แถมยังกล่าวว่า มันใช้งานง่ายขึ้นและทำให้การทำความสะอาดกลายเป็นเรื่องน่าสนุก เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงทำเช่นนี้ สาวเจ้าของโพสต์ได้ตอบกลับอย่างร่าเริงว่า เพราะเธอเป็นคนญี่ปุ่นจึงหยุดจัดระเบียบไม่ได้ เรียกเสียงเอ็นดูได้ทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นเลยทีเดียว   ข่าวจาก : ข่าวสด

ของดีไทยแลนด์! ชาวญี่ปุ่นมาไทย ตั้งใจไปซื้อ “กระบอกตั๋วรถเมล์” เผยเป็นของฝากไม่เหมือนใคร

8 ก.ค. 66 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @Kouhei50 ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นได้โพสต์ภาพที่ตนเองถือกระบอกตั๋วรถเมล์ พร้อมอธิบายว่า เขามากรุงเทพฯเพื่อซื้อกระบอกตั๋วรถเมล์โดยเฉพาะ ซึ่งร้านค้าอยู่แถวเทเวศร์ ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและการออกแบบ เขาได้มาในราคา 650 บาท “ในที่สุดก็ได้แล้ว! ฉันมากรุงเทพก็เพื่อซื้อสิ่งนี้ ราคา 650 บาท (ประมาณ 2,600 เยน) แพงกว่าที่คิดไว้ แต่คิดซะว่าซื้อเป็นของฝากให้ตัวเอง นี่คือกระบอกเก็บค่าโดยสารที่พนักงานรถเมล์ถือไว้” เรียกได้ว่าหลังจากโพสต์ถูกเผยแพร่ มีชาวเน็ตญี่ปุ่นแสดงความสนใจ อยากได้กระบอกตั๋วรถเมล์กันเพียบ“น่าสนใจ! มันเหมือนเครื่องดนตรี? คุณกำลังเก็บเงินด้วยจังหวะที่ดี~♪”, “ฉันรู้สึกทึ่งกับกระบอกตั๋วรถเมล์ตั้งแต่ที่ไปกรุงเทพฯครั้งแรก ฉันไม่ได้ไปกรุงเทพฯสักพักแล้ว แต่ก็ยังใช้ไอนี่อยู่ใช่มั้ย“   ข่าวจาก : ข่าวสด

ชายญี่ปุ่นวัย45 ใช้ชีวิตสุดประหยัด ออมเงิน20ปี เก็บได้22.8ล้าน เหตุอยากเกษียณไวๆ

เป็นกระแสไวรัลในโลกทวิตเตอร์เลยทีเดียว หลังชายวัย 45 ปีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งมาแชร์ประสบการณ์ชีวิต บอกต่อเส้นทางเศรษฐีด้วยวิธีการอดออม ซึ่งใช้เวลากว่า 20 ปีมีเงินเกิน 94.7 ล้านเยน (ราว 22,883,866 บาท) โพสต์ที่ได้รับความสนใจเป็นโพสต์แรกของชายญี่ปุ่นคนนี้ถูกโพสต์ใน 絶対仕事辞めるマン โดยระบุข้อความว่า “อาหารเย็นวันนี้ค่อนข้างธรรมดาเหมือนเคย แต่ไข่ก็เป็นของฟุ่มเฟือยไปแล้ว~ ผมใช้ชีวิตแบบนี้มากว่า 20 ปีและประหยัดเงินได้มากกว่า 94.7 ล้านเยน ตอนนี้ผมกินอะไรก็ได้ อร่อยหมด” พร้อมแนบภาพอาหาร 1 มื้อที่เขาทาน แน่นอนว่ามีผู้คนเข้ามารับชมมากถึง 20.2 ล้านและกลายเป็นประเด็นร้อนที่พูดถึงทั่วประเทศจนกระทั่งมีสื่อญี่ปุ่นเข้าไปสัมภาษณ์ โดยชายเล่าว่า หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาที่ไม่เอื้ออำนวยของยุคน้ำแข็งของการจ้างงาน ในขณะที่ทำงานในบริษัท เขาเก็บเงินอย่างต่อเนื่องด้วยการเก็บออมและลงทุนตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีในอาชีพของเขา ซึ่งชายตั้งเป้าหมายที่จะเกษียณอายุก่อนกำหนด โดยบรรลุเป้าหมาย 100 ล้านเยนภายในสิ้นปีนี้ ทำให้หลาย ๆ คนอยากรู้ว่าชายคนนี้เก็บเงินได้อย่างไร โดยแสดงวิถีชีวิตสุดมัธยัสถ์และประหยัดเงิน มื้ออาหารในภาพนั้นประหยัดจริง ๆ บนเสื่อทาทามิไม่มีอะไรมากไปกว่าข้าวโรยด้วยผงสาหร่าย ไข่เจียว และบ๊วยดอง 1 ลูก ซึ่งไม่มีเนื้อสัตว์หรือปลา ชายคนดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า “อาหารเย็นมีหลากหลาย […]

ทะลุ20ล้านวิว!! จนท.ญี่ปุ่นวาดรูป “ขอโทษนะ” ก่อนโค้งคำนับ หลังไฟลต์ดีเลย์

คลิปวิดีโอเหตุการณ์จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวอาทิตย์อุทัยได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า “บริการจากเจ้าหน้าที่สนามบินนาฮะ (โอกินาวา) เมื่อไฟลต์ดีเลย์” ซึ่งคลิปต้นฉบับมาจากติ๊กต็อกของผู้ใช้ชื่อว่า @kanetomo0331 ซึ่งในคลิปวิดีโอปรากฏภาพของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งได้ถือถังพ่นน้ำวาดภาพ ชีซ่า (Shisa) เทพเจ้าผู้ปกปักษ์คุ้มครอง อันเป็นสัญลักษณ์ของโอกินาวา อย่างชำนาญ พร้อมข้อความเป็นภาษาญี่ปุ่นระบุว่า おくれて ごめんね ซึ่งมีความหมายว่า “ขอโทษที่เลตน้าาาาา” ก่อนจะยืนโค้งให้กับผู้โดยสารบนเครื่อง งานนี้ทำเอาชาวญี่ปุ่นหลายๆ คนเข้าไปแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง เช่นว่า “เขาเคยทำงานที่ดิสนีย์แลนด์มาก่อนหรือเปล่านะ?” ซึ่งผู้โพสต์ทวิตเตอร์ก็เข้าไปตอบกลับว่า “หลายๆ บ้านในเมืองโอกินาวาก็จะมีชีซ่าแปะอยู่ ฉันคิดว่าเขาอาจจะฝึกวาดมันตั้งแต่ยังเป็นเด็กเลย” ขณะเดียวกันก็มีผู้เข้าไปชื่นชมว่า “เป็นบริการที่ดีมาก” ผู้โพสต์ก็ได้ตอบกลับว่า “เมื่อได้รับบริการที่เต็มไปด้วยความจริงใจ และมีจิตสาธารณะ ฉันก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม และแทบไม่ได้สนใจแล้วว่าจะสายหรือไม่สาย” 出発の遅れている那覇空港でスタッフのサービス pic.twitter.com/h22sfD11jT — 黒崎シティ2 (@Q9vY43s1CA7qV68) April 7, 2023   ข่าวจาก : มติชน

ส.ส.พรรครัฐบาลญี่ปุ่นจ่อชงสภา ห้ามแอพติ๊กต่อกแพร่ข่าวปลอม

27 มี.ค. รอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือแอลดีพี เตรียมเสนอญัตติต่อสภาพิจารณาแบนแอพพลิเคชั่นที่เข้าข่ายถูกใช้เผยแพร่ข่าวปลอม โดยติ๊กต็อกจากประเทศจีนเป็นหนึ่งในแอพที่ถูกเพ่งเล็งในชาติตะวันตก ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องความพยายามของสส.ในสภาคองเกรสที่สหรัฐอเมริกาอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ สั่งห้ามใช้แอพดังกล่าว และนักวิจารณ์มองว่า โอกาสที่สหรัฐฯจะแบนแอพดังกล่าวมีสูงมาก สาเหตุที่บรรดาสส.สภาคองเกรสเรียกร้องนั้นเนื่องจากมองว่าติ๊กต็อก แอพที่มีชาวอเมริกันนิยมใช้เป็นจำนวนมากถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ อาทิ การเซ็นเซอร์ข้อมูล การเก็บข้อมูลส่วนตัวที่สามารถเข้าถึงได้โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน และส่งผลเสียต่อสภาพจิตของเด็ก นายโนริฮิโระ นาคายามะ สส.พรรคแอลดีพี วิปรัฐบาล กล่าวว่า หากตรวจสอบแล้วพบแอพใดกำลังถูกกลุ่มใดๆ ก็ตาม เจตนานำมาใช้เพื่อเผยแพร่ข่าวปลอม การสั่งระงับใช้แอพนั้นควรได้รับการพิจารณา “การดำเนินการนี้เพื่อแสดงเป็นการตรวจสอบการดำเนินการของแอพต่างๆ หากผู้บริหารของแอพเหล่านี้เห็นว่าสามารถถูกลงโทษได้ก็จะเคร่งครัดมากขึ้น เช่น ติ๊กต็อกที่มีชาวญี่ปุ่นใช้กว่า 17 ล้านคน หากถูกสั่งระงับจะส่งผลให้ผู้ใช้ทั้งหมดเข้าถึงแอพนี้ไม่ได้ทันที” นายนาคายามะ ระบุ อย่างไรก็ตาม นายนาคายามะ ระบุว่า การพิจารณาข้างต้นมีขึ้นเพื่อยกระดับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติ และยืนยันว่าไม่ได้เจาะจงเล่นงานแอพใดแอพหนึ่งเป็นพิเศษ ทั้งนี้ กระแสการแบนติ๊กต็อกกำลังเกิดขึ้นในสถาบันและชาติตะวันตกหลายประเทศตลอดหลายนสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ รัฐสภาอังกฤษ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และนิวซีแลนด์   ข่าวจาก : ข่าวสด

ชายชาวญี่ปุ่นแต่งตัวเป็น “เซเลนสกี” เข้ารับปริญญา-ขอแสดงออกหนุนยูเครน

บีบีซี รายงานกระแสฮือฮาในประเทศญี่ปุ่น หลังจากบัณฑิตหนุ่มแต่งตัวเลียนแบบเป็น ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ในพิธีรับปริญญาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกียวโตซึ่งมีธรรมเนียมอันเป็นเอกลักษณ์ในวันรับปริญญา เปิดโอกาสให้บัณฑิตใหม่แต่งชุดอะไรก็ได้ที่ต้องการ โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมามีบัณฑิตป้ายแดงแต่งชุดตามธรรมเนียมญี่ปุ่นไปจนถึงคอสตูมสุดแปลกแหวกแนว อาทิ ตัวละครในหนังสือ “Where’s Wally” โปเกมอน หรือแม้แต่พระเยซูก็มี นายอามิกิเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์โยมิอูริว่า ชื่นชอบประธานาธิบดีเซเลนสกี เลยได้ไอเดียแต่งตัวตามอย่างผู้นำไอดอลด้วยการสวมเสื้อยืดแขนยาวสีเขียวขี้ม้ากับกางเกงเข้าชุด แถมยังทุ่มเทไว้หนวดเคราเพื่อให้ดูเหมือนนายเซเลนสกีมากที่สุด นายอามิกิกล่าวอีกว่าต้องการแต่งตัวเป็นประธานาธิบดีเซเลนสกีเพื่อแสดงน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับยูเครน ตนเริ่มไว้หนวดไว้เคราตั้งแต่เดือนธ.ค.2565 นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ชายหนุ่มยังถือป้ายข้อความสนับสนุนและข้อความบางส่วนจากสุนทรพจน์ของผู้นำยูเครนที่กล่าวต่อรัฐสภาสหรัฐอเมริกาด้วย สำหรับพิธีรับปริญญาปีนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ให้บัณฑิตเข้าร่วมรับปริญญาบัตรด้วยตัวเอง หลังจากต้องว่างเว้นไปนานเพราะวิกฤตโรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก ข่าวจาก : ข่าวสด

รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอเงินครอบครัวละ 1ล้านเยนให้ออกจากโตเกียว ลดแออัดในเมือง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอเงิน 1 ล้านเยน (7,700 ดอลลาร์)หรือราว 262,000 บาทแก่ครอบครัวที่ย้ายออกจากมหานครโตเกียวตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป โดยระบุว่า ครอบครัวที่จะได้รับเงินต้องเป็นครอบครัวที่มีลูกอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือผู้ที่อยู่ในความอุปการะตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปหากยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เพื่อลดจำนวนประชากรในเมืองนี้ และต้องการฟื้นฟูเมืองในชนบท รวมถึงเพิ่มอัตราการเกิดที่ลดลงของประเทศ ตามสถิติของรัฐบาลที่เปิดเผยในปี 2564 ระบุว่า โตเกียวเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ โดยมีประชากรประมาณ 37 ล้านคน ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด จำนวนผู้ที่ย้ายเข้าโตเกียวมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ออกจากเมืองมากถึง 80,000 คนในแต่ละปี ขณะเดียวกัน จากการสำรวจสำมะโนประชากรแห่งชาติ เผยว่า รูปแบบการย้ายถิ่นฐานนี้ ประกอบกับจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของญี่ปุ่น ทำให้เมืองในชนบทมีผู้อยู่อาศัยน้อยลงเรื่อยๆ รวมถึงมีบ้านว่างหลายล้านหลัง มากกว่าครึ่งหนึ่งของเขตเทศบาลของประเทศ คาดว่าจะถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่มีประชากรน้อยในปี 2565 ยกเว้นเขตการปกครองระดับเทศบาลในมหานครโตเกียวซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 23 เขต ที่เป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก โดยอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลกในปี 2565 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ปัจจัยหลายประการอย่าง ค่าครองชีพสูง พื้นที่จำกัด และการขาดการดูแลเด็กในเมือง ทำให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องยาก หมายความว่าคู่รักมีลูกน้อยลง […]

1 2 3
error: