ทำเนียบส่งหนังสือด่วน 5 หน่วยงาน จ่อเลิกจ่ายเงินอุดหนุนช่วยเกษตรกร

Advertisement แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ขณะนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 0505/ว(ล)25288 แจ้งถึงกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ถึงการจัดทำมาตรการ/โครงการเพื่อสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือเกษตรกร Advertisement หนังสือราชการดังกล่าวมีสาระสำคัญ โดยระบุมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ขอให้การช่วยเหลือเกษตรกรและภาคเกษตรต่อจากนี้ไป ขอให้ทุกหน่วยงานหลีกเลี่ยงการดำเนินการในลักษณะการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือประกันราคาสินค้าเกษตรโดยตรงแก่เกษตรกร ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เพื่อยกระดับขีดความสามารถของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจต่าง ๆ ของประเทศ เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์ม และอ้อย รวมถึงพัฒนาภาคเกษตรให้มีความเข้มแข็งและเกิดความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ทำให้เกษตรกรที่เพาะปลูกพืชดังกล่าวสามารถประกอบอาชีพของตนได้อย่างมีศักยภาพ มีรายได้พอเพียงแก่การดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน โดยไม่เป็นภาระต่อภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือดูแล และชดเชยเกินจำเป็น คณะรัฐมนตรีจึงมีมติกำหนดเป็นหลักการว่า ในการจัดทำมาตรการ/โครงการเพื่อสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและภาคเกษตรต่อจากนี้ไป ให้ทุกหน่วยงานหลีกเลี่ยงการดำเนินการในลักษณะการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือประกันราคาสินค้าเกษตรโดยตรงแก่เกษตรกร Advertisement พร้อมทั้งให้พิจารณาดำเนินมาตรการ/โครงการในลักษณะที่เป็นการสนับสนุนการเพิ่มระดับผลิตภาพ (Productivity) ของภาคการเกษตรการพัฒนาภาคเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทาน หรือเป็นการยกระดับกระบวนการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้ของตนเองได้อย่างเพียงพอได้ในระยะยาวและดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและมีความยั่งยืนต่อไป ท้ายหนังสือด่วนฉบับนี้ยัง […]

ยอมเหนื่อยเพื่อส่วนรวม! สองผัวเมียชาวไร่อ้อยที่ขอนแก่น เชื่อฟังทางราชการ ไม่ยอมเผาไร่อ้อย ใช้วิธีตัดไปเรื่อยๆจนเกลี้ยง

  สองผัวเมียชาวไร่อ้อยที่ขอนแก่น เชื่อฟังทางราชการ ไม่อยากเพิ่มมลพิษทางอากาศ ไม่ยอมเผาไร่อย่างรายอื่น ส่งผลให้แรงงานหายเกลี้ยง ไม่มีใครมารับจ้างตัด ต้องช่วยกันตัดเอง บอกก็ทำไปเรื่อยๆ เวลา 09.30 น. วันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวไทยรัฐลงพื้นที่สำรวจการตัดอ้อยของชาวไร่อ้อยที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พบ นายประเสริฐ แก้วพิพรม อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 4 บ้านทรัพย์สมบูรณ์ ต.ทุ่งโปร่ง อ.เขื่อนอุบลรัตน์ และภรรยา กำลังช่วยกันตัดอ้อยในไร่ของตัวเองที่มีอยู่กว่า 10 ไร่ เนื่องจากหาจ้างแรงงานมาตัดอ้อยในไร่ให้ไม่ได้ ด้วยเหตุที่สามีภรรยาคู่นี้ไม่ยอมจุดไฟเผาอ้อยของตัวเอง จึงไม่มีแรงงานในหมู่บ้าน หรือหมู่บ้านใกล้เคียงมาตัดให้ นายประเสริฐ กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่ยอมเผาอ้อยในไร่นั้น เนื่องจากตนได้ติดตามข่าวจากสื่อว่าการตัดอ้อยได้สร้างมลพิษทางอากาศเป็นอย่างมาก มีผลกระทบต่อคนในพื้นที่ถึงขั้นเจ็บป่วย ประกอบกับทาง ผู้ใหญ่บ้านก็ประกาศทางหอกระจายข่าวว่าทาง ผวจ.ขอความร่วมมือไม่ให้จุดไฟเผาอ้อยในไร่ จึงปฏิบัติตาม และการที่ไม่ยอมเผาอ้อย จึงจำเป็นต้องตัดเอง เนื่องจากหาแรงงานไม่ได้ แรงงานส่วนใหญ่นั้น เมื่อรู้ว่าอ้อยยังไม่ได้เผาก็ไม่รับจ้าง อ้างว่าตัดยาก เพราะต้องฝ่าดงใบอ้อยเข้าไปเกิดอาการคันตามผิวหนังร่างกาย […]

ชาวไร่อ้อยเผย จำเป็นต้อง ‘เผาอ้อย’ แม้มีมลพิษ ชี้เพราะตัดสดราคาสูง

  เกษตรกรชาวไร่อ้อย จ.สระแก้ว ระบุสาเหตุที่ต้องเผาต้นอ้อยเพราะเขมรไม่ตัด และหากต้องตัดสดราคาจะสูงถึงมัดละ 3 บาท ล่าสุด พบปัญหาหมอกควันในพื้นที่ อ.วังสมบูรณ์ หนาแน่ปกคลุมทั้งพื้นที่ เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 17 ม.ค.62 หลังจากผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบการเผาในพื้นที่ปลูกอ้อยเขต อ.คลองหาด วังสมบูรณ์ และวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ซึ่งพบการเผาเกือบอ้อยทุกพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แรงงานชาวกัมพูชาที่เข้ามารับจ้างตัดอ้อย โดยส่วนใหญ่จะเผาช่วงเย็นถึงค่ำเวลาประมาณ 17.00-21.00 น.ของทุกวันนั้น โดยแปลงปลูกอ้อยเกือบทุกแปลงใช้วิธีการตัดอ้อยด้วยการเผาทั้งสิ้น ยกเว้นแปลงที่ต้องการตัดอ้อยสดเพื่อนำไปเป็นพันธุ์ปลูกใหม่ หลังตออ้อยอายุครบ 3-4 ปีเท่านั้น แรงงานชาวกัมพูชารายหนึ่ง ซึ่งกำลังตัดอ้อยในพื้นที่ ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว บอกว่า การที่นายจ้างเผาต้นอ้อยให้เพื่อให้แรงงานสามารถตัดได้ง่ายและรวดเร็ว ได้ค่าตัดไม่มาก เพียงมัดละ 1.30 บาทเท่านั้น แต่วันหนึ่ง ๆ ก็ตัดได้ประมาณ 200-300 มัดเป็นอย่างน้อย ส่วนการตัดอ้อยสดมักจะเป็นการตัดเพื่อเอาไปทำพันธุ์มากกว่า ทั้งนี้ ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวตระเวนตรวจสอบการเผาอ้อยในพื้นที่ 3 อำเภอดังกล่าว พบว่า ไร่อ้อยแต่ละแปลงใช้วิธีการเผาต้นอ้อยรอบแรก เพื่อให้แรงงานกัมพูชาตัดได้ง่าย […]

เด้ง ผกก.พบพระ!! เซ่นปมลูกน้องไม่อยู่รับร้องทุกข์ชาวไร่อ้อย!!

  "ปลัดเกษตรฯ สั่งการช่วยชาวไร่อ้อยถูกนายทุนฟ้องร้องค่าเสียหาย 1.3 พันล้านบาท ด้านผู้การตาก มีคำสั่งเด้ง “ผกก.สภ.พบพระ”เข้าศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดเหตุตร.ไม่อยู่โรงพักรับเรื่องร้องทุกข์ชาวไร่อ้อย เมื่อวันที่ 2 ก.พ.นายพีรพันธ์ คอทอง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากกรณีเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยจังหวัดตากได้แจ้งความร้องเรียนว่าถูกบริษัท แม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด ฟ้องร้องดำเนินคดีให้ชำระหนี้จากกรณีการทำสัญญาร่วมโครงการปลูกอ้อยเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอล จำนวน 53 ราย เป็นมูลหนี้รวมประมาณ 1,300 ล้านบาทนั้น ล่าสุดนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา  ซึ่งอยู่ภายใต้สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ จัดส่งเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และรายงานสรุปข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการวางแผนในบริหารจัดการและแก้ไขปัญหา รวมทั้งนำเรียนรมว.เกษตรและสหกรณ์อย่างเร่งด่วนแล้ว  ส่วนข้อเท็จจริงปรากฏว่ากลุ่มเกษตรกรที่ปลูกอ้อยและมีหนี้สินกับบริษัทฯ รวมจำนวนทั้งสิ้น 53 รายมูลค่าหนี้ 46 ล้านบาท ได้ดำเนินการฟ้องร้องคดีอาญากับทางบริษัทฯ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและอยู่ระหว่างไกล่เกลี่ย       ข้อพิพาทระหว่างบริษัทฯ กับเกษตรกรดังกล่าวในชั้นศาล โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการเจรจาฯ ไปแล้ว 2 ครั้ง และจะมีการนัดเจรจาฯ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 […]

error: