ส.ป.ก.สั่งดำเนินคดี ‘ชัยวัฒน์’ พร้อมพวก ถอนหลักหมุดของ ส.ป.ก. ในโคราช

Advertisement 3 มีนาคม ที่สถานีตำรวจภูธรหมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายวัฒนา มังธิสาร รองเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นายอำมวิต คงแก้ว ปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.โยธิน วรรณทวี ผกก.สภ.หมูสี โดยมี ว่าที่ พ.ต.ต.ประยงค์ หวังกุลกลาง พนักงานสอบสวน รับแจ้งความ เพื่อกล่าวโทษ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งซาติ กับพวก Advertisement โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. ได้ลงพื้นที่บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และได้กระทำการซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยเลขาธิการ ส.ป.ก. ด้สั่งการให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.นครราชสีมา) ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้ 1.ที่ดินที่เกิดเหตุตั้งอยู่บ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 […]

‘ชัยวัฒน์’ ฟาดข้อมูลช็อกป่าไทยไม่ใช่หาย 3 พันไร่

กรณี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ออกมายืนยันกรณีหมุดนิรนาม ส.ป.ก. รุกเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ว่า “เป็นขบวนการ ยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ โดยเจตนา” หลังทำรายงานชี้แจง พร้อมเปิดภาพแฉยับปมกว่า 2,933 ไร่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวดังกล่าว ผ่านรายการ “THE STANDARD NOW” ระบุว่า ที่มีการคาดว่าราคาพื้นที่ตรงนั้น ไร่ละประมาณ 30 ล้าน เพราะว่ามันติดสนามกอล์ฟ รีสอร์ท โรงแรม พื้นที่ดีๆ ทั้งนั้น ต้องบอกว่า พื้นที่ ส.ป.ก. ทั่วไป ราคาอยู่ที่ 2-3 แสนบาทอยู่แล้ว แต่ตรงนี้อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีความสมบูรณ์ ผมตีไว้ว่าราคาพื้นที่อยู่ที่หลักสิบล้านบาท ในแบบที่ยังไม่เปิดพื้นที่ แต่ถ้าถูกเปิดแล้วเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. 30 ล้านก็ยังดูน้อยไปด้วยซ้ำ “ผมพูดเลยว่าการออกที่ดิน ส.ป.ก. […]

ทส.แต่งตั้งโยกย้ายซี9เพียบ “ชัยวัฒน์” นั่งผอ.สำนักอุทยานฯ คุมป่าอนุรักษ์ทั่วไทย

17 ก.พ. 2566 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ลงนามคำสั่งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 (อำนวยการสูง) ในกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) หลายตำแหน่ง ได้แก่ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 9 อุบลราชธานี เป็น ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานฯ นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.สำนักอุทยานฯ เป็น ผอ.สำนักบริหารกลาง กรมอุทยานฯ, นายไกรวัล ไทยปาล ผอ.สำนักบริหารกลาง เป็นผู้ตรวจราชการ กรมทรัพยากรน้ำ, นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผู้ตรวจราชการ กรมทรัพยากรน้ำ เป็นผอ.สำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ กรมอุทยานฯ, นายณัฐ โก่งเกษร ผอ.สำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ เป็น ผอ.ทสจ.ระยอง, นายกรัณย์พล แสงทอง ผอ.สบอ.6 สงขลา เป็น ผอ.ทสจ.สุรินทร์, […]

ศาลปกครอง มีคำสั่งให้ “ชัยวัฒน์” กลับเข้ารับราชการเหมือนเดิม

29 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองเพชรบุรี มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ช.) ตามคำสั่งของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 2 เมษายน 2564 ที่สั่งลงโทษ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ให้ออกจากราชการ โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ออกคำสั่งดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลปกครองเพชรบุรี มีคำสั่งทุเลาการบังคับคดีให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และตำแหน่งสุดท้ายก่อนถูกปลดออกจากราชการคือ ผู้อำนวยการสำนัก สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 กลับเข้ารับราชการไว้ก่อน ชั่วคราว โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เป็นผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) 9 อุบลราชธานี   ข่าวจาก : มติชน

‘ชัยวัฒน์’ ใช้ช่วงว่างงาน เพาะกระท่อมใบด่างขาย ต้นละ 4 ล้าน หมอปลาสนใจแล้ว

ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ใช้ช่วงว่างงาน หลังถูกปลดออกจากราชการ เพาะกระท่อมใบด่างขายตั้งราคาต้นละ 4 ล้าน หมอปลาสนใจแล้ว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุดรธานี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีมติเมื่อ 25 มี.ค. ให้ปลดออกจากราชการ หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิด ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยการเผาทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านบางกลอยในป่าแก่งประจานนั้น ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานต่างๆ ครบทุกกระบวนการแล้ว นั่นคือยื่นต่อศาลปกครองว่าการดำเนินการของตนที่ผ่านมา ตนสามารถดำเนินการได้ตามมาตรา 22 ซึ่งทางอัยการได้ส่งสำนวนคืน และสั่งไม่ฟ้องแล้ว ทุกอย่างหักล้างในสิ่งที่ตนถูกกล่าวหาแล้ว ประการที่สอง คือต้องรอฟังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) วินิจฉัยเพียงอย่างเดียว ซึ่งได้ยื่นเรื่องไปครบ 180 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคมแล้ว ตอนนี้รอฟังคำตอบนี้อยู่ […]

error: