“รังสิมา” ยอมรับข่าวย้ายหนี ปชป.เรื่องจริง รอผลโพลถามชาวบ้านก่อน

Advertisement 10 พ.ย. 2565 ที่รัฐสภา น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมย้ายพรรค ว่า ยอมรับว่า มีมาชวนทุกพรรค แต่ตนต้องถามประชาชน เพราะการเมืองเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม อยู่ระหว่างทำโพลถามชาวบ้านว่า ถ้ายังอยู่พรรคประชาธิปัตย์ประชาชนจะยังเลือกหรือไม่ ถ้าไม่เลือกจะให้ไปอยู่พรรคไหน ไม่เลือกเพราะอะไร แล้วถ้าไปอยู่พรรคใหม่จะเลือกเพราะอะไร ต้องทำโพลอย่างละเอียดทุกพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาให้ได้ตรงจุด เราต้องใช้วิทยาศาสตร์ คาดว่าผลน่าจะภายในปีนี้ แต่ไม่อยากจะเร่งรัดเพราะกลัวข้อมูลจะคลาดเคลื่อน ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับพรรคประชาธิปัตย์ โดยตนได้ทำความเข้าใจกับหัวหน้าพรรคไว้แล้วว่า หากคราวนี้ผลโพลออกมาว่า ถ้าอยู่พรรคเดิมแล้วเสี่ยงจะแพ้ ก็ต้องขออนุญาตย้ายก่อน แล้วคราวหน้าก็ค่อยไปๆ มาๆ ได้ เพราะถ้าประชาชนไม่เลือกเรา เราก็ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งหัวหน้าพรรคก็เข้าใจ และบอกให้ทนๆ ไปก่อน เมื่อการเมืองเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ต้องเอาตัวรอด คราวที่แล้วก็เกือบไม่รอด Advertisement Advertisement เมื่อถามว่า ไปพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ น.ส.รังสิมา กล่าวยอมรับว่า มี เพราะนายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เป็นแนวร่วม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) มาด้วยกัน […]

พาณิชย์แจงชัด “ไข่ประยุทธ์” ไม่แพงที่สุด ราคาขึ้นลงตามสถานการณ์

5 ส.ค.65 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีไข่ไก่ปรับราคาว่า ราคาสินค้าไข่ไก่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพราะหน้าร้อนไก่จะไข่น้อยราคาจะสูงขึ้น เมื่อถึงบางช่วงไข่ออกเยอะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนราคาจะเปลี่ยนแปลง ก่อนหน้านี้ราคาไข่ปรับลดลงเกษตรกรเริ่มเดือดร้อน แต่ตอนนี้เพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ กระทรวงพาณิชย์จะดูแลโดยใกล้ชิด ถ้าสูงขึ้นมาก็จะห้ามส่งออก จะต้องปรับตามสถานการณ์ เพราะไข่สามารถปรับตัวได้เร็ว โดยราคาช่วงนี้เมื่อเทียบกับอดีตหลายปีถือว่ากลางๆ ไม่ใช่ไข่ประยุทธ์หรือไข่นายกฯ จะราคาสูงที่สุด ซึ่งไม่ใช่ ฟองหนึ่ง 3 บาทกว่า มีปรับขึ้นลงหน้าฟาร์มตามสถานการณ์ฤดูกาลและปริมาณขายแต่ละวัน เพราะวันหนึ่งไข่จะออกประมาณ 39-41 ล้านฟอง ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขอขึ้นราคามาปีกว่าแล้ว ขอขึ้นซองละ 2 บาท จาก 6 บาทเป็น 8 บาท แต่พยายามตรึงราคาและดูว่าต้นทุนปรับสูงขึ้นเท่าไหร่ และได้มอบอธิบดีกรมการค้าภายในช่วยดูแลลึกในรายละเอียด ซึ่งเห็นใจทั้งผู้บริโภคและเห็นใจทั้งผู้ผลิตว่าตึงมาก เพราะต้นทุนสูงขึ้นจริง จะต้องพิจารณาว่าขอปรับขึ้นซองละ 2 บาทมากเกินไปไหม จะเป็นภาระกับผู้บริโภคจนเกินสมควรไหม คือสิ่งที่กรมการค้าภายในต้องใช้ดุลยพินิจให้ชัดเจนตามหลักวิชาการ ถ้าเห็นว่าจำเป็นต้องปรับเพราะต้นทุนสูงขึ้นจริง ก็ต้องดูว่าควรจะปรับแค่ไหน เพื่อให้ผู้บริโภครับภาระน้อยที่สุดและผู้ประกอบการยังอยู่ได้ไม่ขาดทุนจนเลิกผลิต   ข่าวจาก : ข่าวสด

“จุรินทร์” เผยเห็นใจ นายกฯ แบกทุกปัญหา ยันปชป.เดินหน้าลุยงานต่อ

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตัดพ้อพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีสียงเรียกร้องให้ถอนตัวจากรัฐบาลว่า “ผมไม่ทิ้งคุณ พวกคุณจะทิ้งผมก็ตามใจ” ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ว่า เห็นใจนายกฯ เพราะท่านทำงานหนักและต้องแบกรับทุกปัญหา ซึ่งท่านพูดแล้วว่าขอให้ทุกฝ่ายอดทน และไม่ว่าใคร รวมทั้งตนจะทำงานใหญ่ก็ต้องหนักแน่น ไม่ซ้ำเติมวิกฤตและไม่โกง ขอบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่พูดมาก ตรงไปตรงมา มุ่งทำหน้าที่เต็มความสามารถ แม้ไม่ได้ทำเรื่องโควิด-19 โดยตรง แต่เรื่องเศรษฐกิจส่วนหนึ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบทุกอย่างก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกษตรกรในเรื่องนโยบายประกันรายได้ภายใต้ วิสัยทัศน์ เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด เรื่องการส่งออกก็ประสบความสำเร็จอย่างดีภายใต้วิกฤตโควิด-19 ของโลก และได้กลายเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในปัจจุบัน เช่น เดือนพ.ค. เป็นบวกถึง 41.59% และในเดือนมิ.ย. คาดว่าจะเป็นบวก ด้วยตัวเลขสองหลักอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันที่จะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้เคยตอบเรื่องนี้ไปแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องตอบอะไรอีก ข่าวจาก มติชนสุดสัปดาห์

“จุรินทร์” เมินข้อเสนอฝ่ายค้านเปิดประชุมสภาวิสามัญแก้ปัญหาม็อบ ชี้อีก2สัปดาห์จะเปิดสมัยประชุมแล้ว

‘จุรินทร์’ เมินข้อเสนอพรรคร่วมฝ่ายค้านเปิดประชุมสภาวิสามัญ ถกม็อบ ชี้เหลือแค่ 2 สัปดาห์จะเปิดสมัยประชุม ชูหยิบโควิดโมเดลแก้ม็อบการเมืองดีกว่าใช้ฮ่องกงโมเดล ยันไม่ได้ยิน รัฐบาลแห่งชาติ เชื่อรัฐบาลยังเดินต่อได้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษในวันนี้ (16 ต.ค.) ว่า พิจารณาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีเพียงวาระเดียวตามที่ประกาศจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีภายใน 3 วัน ส่วนข้อเรียกร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านมายังพรรคประชาธิปัตย์เพื่อขอเสียงสนับสนุนในการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญหารือทางออกการชุมนุม ว่า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคจะต้องไปดูจะอาศัยพรรคใดพรรคหนึ่งเสียงไม่เพียงพอ แต่ข้อเท็จจริงสภาก็จะเปิดสมัยประชุมสามัญในอีก 2 สัปดาห์อยู่แล้ว  ส่วนจุดยืนของประชาธิปัตย์ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องเปิดวิสามัญ แต่เรื่องแก้ธรรมนูญเป็นประเด็นหนึ่งที่จะได้มีการพิจารณาเมื่อเปิดประชุมสมัยประชุมสามัญในเดือน พ.ย.อยู่แล้ว ซึ่งจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนว่าเราสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ส่วนความเห็นที่จะต้องไปทำประชามติก่อนหรือไม่นั้น ชัดเจนตามรัฐธรรมนูญว่าหากต้องแก้มาตรา 256 ไม่ได้บังคับว่าจะต้องไปทำประชามติ แต่บังคับว่าหลังผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาแล้วจะต้องทำประชามติ จึงเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำประชามติก่อน เรื่องเร่งด่วนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเรียกร้องให้เปิดประชุมวิสามัญเนื่องจากการชุมนุม จุรินทร์ ย้ำว่า เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ดำเนินการ มีกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่ากลไกสภาไม่สามารถทำได้หรือ จุรินทร์ ระบุว่า กลไกสภาก็เป็นทางออกหนึ่ง รัฐสภาควรเป็นเวทีหาทางออกให้กับประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่สำคัญ อย่างน้อย 3 ฝ่ายที่ควรจะมีความเห็นร่วมกันทั้ง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้านและวุฒิสมาชิก  จุรินทร์ ยังเผยว่า […]

1 2
error: