“รมว.พลังงาน” เตรียมชง ครม. ตรึงค่าไฟงวดใหม่ ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง

Advertisement (8 ธ.ค.2566) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ​รมว. พลังงาน กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนว่า ทั้งหมดอยู่ที่รัฐบาล และกระ ทรวงพลังงาน ตอนนี้กำลังทำงานอยู่ ซึ่งค่าไฟฟ้าคงไม่ขึ้นไปสูงขนาดนั้น แต่ปัจจัยสำคัญคือค่าแก๊สในตลาดโลกตอนนี้ขึ้นสูง เนื่องจากเป็นช่วงหน้าหนาว ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้องมีการปรับราคาความจริงไม่มีใครอยากปรับ แต่ต้องพิจารณาดูว่าการปรับ ทุกคนต้องอยู่ได้ เราพยายามปรับให้น้อยที่สุด Advertisement กลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าน้อยที่ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน 17.7 ล้านครัวเรือน จะใช้งบกลางปี 2567 จำนวน 2,000 ล้านบาท ใช้ไฟราคาเดิม 3.99 บาท Advertisement เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับทางกกพ.แล้วหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันไว้เบื้องต้นแล้ว เมื่อถามว่า จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาวันที่ 12 ธ.ค.นี้ หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะตนไม่อยากนำเข้าทีละเรื่อง แต่จะเข้า ครม.ทีเดียวหลายเรื่องเลย […]

ประยุทธ์ย้ำขึ้นค่าไฟตามความจำเป็น ไล่คนด่าไปศึกษาธรรมะบ้าง

เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ถึงการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า ว่า การขึ้นค่าไฟเป็นอำนาจของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งต้องให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ไปพิจารณา เป็นกติกาและกฎหมาย ต้องมีการพิจารณาการขึ้นตามวงรอบทุก 4 เดือน รัฐบาลได้ให้หลักคิดไปแล้ว ทำอย่างไรให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด เพื่อเหตุผลความจำเป็น สภาพคล่อง ซึ่งทุกอันจะต้องมีสภาพคล่อง สามารถที่จะเดินเครื่องเดินไฟฟ้าต่อไปได้ เหมือนค่าน้ำมันค่าก๊าซ ซึ่งใช้งบประมาณอุดหนุนไปจำนวนมากพอสมควร และอันนี้เป็นอีกอันที่ต้องดูแล “ทุกคนต้องเข้าใจ ไม่ใช่นำไปพาดหัวข่าวขึ้นเป็น 5 บาทแล้ว หรือ 4 บาทแล้ว แต่มันขึ้นเป็นสตางค์เข้าใจไหม อย่าไปเขียนอย่างนี้ให้คนเขาเข้าใจผิด แต่ผมก็โอเค มันขึ้นก็ต้องขึ้น แต่ขึ้นจากอะไรต้องไปดูสาเหตุแห่งปัญหา ไปศึกษาธรรมะเสียบ้าง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เรียนเสียบ้าง ทุกข์เกิดจากอะไรแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร ดูวิธีการแก้ปัญหาโน้น” นายกฯกล่าว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในส่วนการขึ้นราคาสินค้าต่างๆ […]

ศรีลังกาขึ้นค่าไฟกว่า800% ประกาศหยุดขายน้ำมัน 2สัปดาห์

บริษัทที่ผูกขาดการขายไฟฟ้าที่ดำเนินการโดยรัฐของศรีลังกาซึ่งกำลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก ประกาศขึ้นราคาค่าไฟมากถึง 835% สำหรับลูกค้าที่มีรายได้น้อย ซึ่งยิ่งซ้ำเติมการดิ้นรนเอาชีวิตรอดของชาวศรีลังกาที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจล่มสลายอยู่ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการการไฟฟ้าของศรีลังกา (ซีอีบี) สูญเสียเงินไป 6.5 หมื่นล้านรูปี หรือราว 6,605 ล้านบาทในไตรมาสแรก ทำให้ขอขึ้นราคาสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยถึง 835% เนื่องจากปัจจุบัน ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 30 กิโลวัตต์ต่อเดือน จะจ่ายค่าไฟ 54.27 รูปี หรือราว 0.15 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งซีอีบีพยายามจะขึ้นค่าไฟเพิ่มเป็น 507.65 รูปี หรือราว 1.44 ดอลลาร์ นายจานาคา รัตนยาเก ประธานคณะกรรมการสาธารณูปโภคของศรีลังกา รับว่า ผู้บริโภคในประเทศส่วนใหญ่จะไม่สามารถรับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมากเช่นนี้ได้ จึงเสนอขอเงินอุดหนุนโดยตรงจากกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยให้ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นเหลือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งจากตัวเลขที่ซีอีบีร้องขอมา ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลศรีลังกาได้เสนอให้มีการตัดไฟ 13 ชั่วโมงต่อวัน ก่อนที่เวลาตัดไฟจะลดลงเหลือ 4 ชั่วโมงต่อวัน หลังจากฝนที่ตกลงมาช่วยเติมเต็มแหล่งกักเก็บน้ำสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ นอกจากค่าไฟที่ปรับเพิ่มขึ้นแบบไม่เคยเห็นมาก่อนแล้ว รัฐบาลศรีลังกายังได้ประกาศยุติการขายเชื้อเพลิงทุกชนิดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เว้นแต่ในการให้บริการที่จำเป็นเท่านั้น โดยให้มีผลทันทีในวันจันทร์ที่ผ่านมา โฆษกรัฐบาลศรีลังการะบุว่า ปริมาณสำรองน้ำมันและเชื้อเพลิงตกลงสู่ระดับที่ต่ำที่สุดซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานอีกแม้แต่หนึ่งวัน การห้ามการขายน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลก็เพื่อเก็บไว้ใช้สำหรับกรณีฉุกเฉินเท่านั้น […]

ค่าไฟเตรียมขยับขึ้นอีก 40สตางค์ งวด ก.ย.-ธ.ค.นี้

ล่าสุดนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ สำนักงาน กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวในงานปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ไขข้อข้องใจ…รับมือค่าไฟครึ่งปีหลัง” ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) วันนี้( 17 มิ.ย.2565) ระบุชัดเจนว่า แนวโน้มการปรับค่าเอฟทีงวดสุดท้ายของปีนี้ (เดือนกันยายน – ธันวาคม ปี 2565) มีโอกาสปรับสูงขึ้นจากประมาณการไว้เดิม ที่คาดว่าจะปรับขึ้นประมาณ 40 สตางค์ต่อหน่วย ทั้งนี้ เนื่องจากสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เข้ามาผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณกว่า 40% จากเดิมคาดว่าจะใช้ LNG ประมาณ 30% หลังต้นทุนราคาน้ำมันดีเซล ปรับสูงขึ้น ขณะที่กำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยลดลง ประกอบกับการรับก๊าซฯจากเมียนมามีแนวโน้มลดลง อีกทั้งอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 35 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากเดิมประมาณการอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าเอฟที งวดสุดท้ายของปีนี้จะเป็นเท่าไหร่นั้น ยังต้องรอประเมินสถานการณ์ค่าเชื้อเพลิงที่แท้จริงอีกครั้งในช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้ แต่เบื้องต้นคาดว่า ค่าค่าเอฟทีงวดสุดท้าย จะปรับขึ้นไม่ถึง 5 […]

กกพ.ขึ้นค่าไฟเป็น 4 บาท/หน่วย งวด พ.ค.-ส.ค.นี้

คนไทยอ่วม! พิษสงคราม กกพ.ขึ้นเอฟที 24.77 สตางค์/หน่วย ส่งผลค่าไฟเป็น 4 บาท/หน่วย งวด พ.ค.-ส.ค.นี้ นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ที่ประชุม กกพ.เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 มีมติปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 โดยให้เรียกเก็บที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.00 บาทต่อหน่วย ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อค่าเอฟทีมาจากผลกระทบสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลต่อวิกฤตราคาพลังงานโลกเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้ กกพ.ต้องปรับสมมุติฐานการประมาณการค่าเอฟทีใหม่ให้สะท้อนราคาเชื้อเพลิงในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัจจัยลบเพิ่มเติมจากสถานการณ์ที่ก๊าซธรรมชาติ (LNG) ในอ่าวไทยลดลงในช่วงปลายสัมปทาน โดยประมาณการค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นส่งผลให้ประมาณการค่าเอฟทีในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม 2565 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 129.91 สตางค์ต่อหน่วย และหากพิจารณาภายใต้หลักการการปรับขึ้นแบบขั้นบันได อาจทำให้ต้องขึ้นค่าเอฟที งวดละ 47.3 สตางค์ต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการการบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงให้ต่ำที่สุด […]

เตรียมควักเพิ่ม!! กกพ.ขึ้นค่าเอฟที ปรับค่าไฟทะลุ3.6บาท/หน่วย แพงสุดในรอบ16เดือน!!

  วันที่ 8 พ.ย. น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ.มีมติให้เรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที สำหรับงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2562 เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่เรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากงวดก่อน 4.30 สตางค์ต่อหน่วย หรือจาก 3.5966 บาทต่อหน่วย มาอยู่ที่ 3.6396 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) นับเป็นการปรับขึ้นค่าเอฟทีครั้งแรกในรอบ 16 เดือน ทั้งนี้ หากไม่มีการบริหารจัดการค่าเอฟทีที่เรียกเก็บกับประชาชน ค่าเอฟทีจะเพิ่มขึ้น 8.10 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาก๊าซในเดือนก.ย.-ธ.ค.2561 ปรับตัวสูงขึ้น 12.67 บาทต่อล้านบีทียู ราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 3.48 บาทต่อลิตร ราคาน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 1.17 บาทต่อลิตร และราคาถ่านหินเพิ่มขึ้น 114.36 บาทต่อตัน และราคาซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น 0.08 บาทต่อหน่วย โดย กกพ.มีมติให้นำเงินสะสมรวมทั้งสิ้น 10,367 ล้านบาท […]

error: