ใกล้ถึงฝัน! ‘หม่อง ทองดี’ รับหนังสือรับรองความดี เตรียมเดินหน้าขอสัญชาติไทย!

Advertisement   Advertisement หากใครยังจำกันได้ ก็คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า หม่อง ทองดี คือหนึ่งในบุคคลไร้สัญชาติที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเอาไว้อย่างมาก จากการเป็นตัวแทนในการเข้าร่วมการแข่งขันร่อนเครื่องบินกระดาษพับจนได้รับรางวัลอันดับสาม ประเภทบุคคลชายอายุไม่เกิน 12 ปี ที่จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2552 และได้มีคำสัญญาจากรัฐบาลในขณะนั้นจะดำเนินการมอบสัญชาติไทยให้กับเขา แต่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ หม่อง ทองดี ก็ยังถือสถานะเป็นบุคคลไร้สัญชาติอยู่ แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 เจ้าตัวได้มีการโพสต์ภาพถ่ายขณะรับมอบหนังสือการทำความดี จาก อาจารย์พิศิษฐ์ และอาจารย์วันทนีย์ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันและใช้เป็นหลักฐานในการประกอบการยื่นขอสัญชาติไทยและทำบัตรประชาชน ให้เป็นคนไทยอย่างเต็มตัว Advertisement       ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก Mong Thongdee, อัมรินทร์ทีวี

จำได้ไหม? ‘หม่อง ทองดี’แชมป์เครื่องกระดาษ 10ปีผ่านไป ยังไม่ได้สัญชาติไทย!(มีคลิป)

  "หม่อง ทองดี"ยังหวังได้รับสัญชาติไทย เผยก.มหาดไทย ให้รวบรวมข้อมูลส่งไปให้อีกครั้วเพื่อเข้าสู่กระบวนกาารพิจารณา พร้อมขอชื่นชม "จ่าแซม" ฮีโร่ที่เสียสละช่วยเหลือเด็กๆ นายหม่อง ทองดี อายุ 21 ปี อดีตแชมป์เครื่องบินกระดาษพับระดับโลก เปิดเผยว่า หลังจากที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ด้วยการคว้ารางวัลลำดับที่ 3 ในการแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2552 รัฐบาลขณะนั้นได้รับปากจะให้สัญชาติ แต่ขณะนี้ผ่านมาเกือบ 10 ปี ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยแต่อย่างใด ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากกระทรวงมหาดไทย ให้รวบรวมข้อมูลที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ รวมทั้งข้อมูล การทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทย ในเรื่องต่างๆ พร้อมกับให้นำส่งเรื่องที่รวบรวมได้ ไปที่กระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลหากได้ข้อมูลครบ ทั้งหมดแล้วจะเดินทางไปยื่นด้วยตนเอง       สำหรับกรณี โค้ชและนักฟุตบอลทีมหมูป่า อะคาดมี่ ซึ่งไม่มีสัญชาติไทยจำนวน 3 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอสัญชาติหากได้รับจริงก็ดีใจด้วย เพราะว่าอยากให้เด็กที่เหมือนตนได้สัญชาติไทยกันทุกคน เชื่อว่าในรัฐบาลชุดนี้อาจจะเป็นไปได้เพราะเป็นรัฐบาลทหารอาจจะทำได้จริง ส่วนตัวผ่านมานานแล้วจึงไม่ค่อยรู้สึกอะไรยังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติไม่เดือดร้อนแต่หากได้รับสัญชาติไทยก็จะดีใจมากเพราะจะสามารถเดินทางไปแข่งขันหรือคุมทีมในต่างประเทศได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนกรณีโค้ชและเด็กทีมหมูป่า 13 ชีวิตได้รับการช่วยเหลือออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัยนั้น ต้องขอชื่นชม จ่าเอกสมาน […]

error: