ราชกิจจาฯ ประกาศแล้ว กฎกระทรวง การครอบครองยาเสพติด มีไว้เพื่อเสพ

Advertisement 9 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ กฎกระทรวง กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 ลงนามโดย นายชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข Advertisement สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 107 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด บัญญัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 5 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 ในปริมาณเล็กน้อย ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้ กล่าวคือถ้ามีผู้ครอบครองยาเสพติดไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนดในกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้ ให้ถือว่าเป็นผู้เสพ และสามารถเข้ารับการบำบัดได้ และถือว่าไม่มีความผิดตามกฎหมาย ผุ้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการพิจารณาร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. … มีมติร่วมเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2566 ในการเสนอยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด ให้ถือว่าเป็นผู้เสพ ซึ่งหากสมัครใจเข้ารับการบำบัดจนครบคอร์ส จากเดิมที่มีความผิดตามกฎหมายก็จะไม่มีความผิดตามกฎหมาย โดยนพ.ชลน่าน […]

ราชกิจจาฯ เผยแพร่กฎกระทรวงห้ามสถานศึกษาไล่ออกนักเรียน-นักศึกษาตั้งครรภ์

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดประเภทของสถานศึกษาและการดำเนินการของสถานศึกษาในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 7 แห่งกฎกระทรวงกำหนดประเภทของสถานศึกษาและการดำเนินการของสถานศึกษาในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2561 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “ข้อ 7 สถานศึกษาตามข้อ 2 ที่มีนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งตั้งครรภ์อยู่ในสถานศึกษา ต้องไม่ให้นักเรียนหรือนักศึกษานั้นออกจากสถานศึกษาดังกล่าว เว้นแต่เป็นการย้ายสถานศึกษาตามความประสงค์ของนักเรียนหรือนักศึกษาเท่านั้น” ให้ไว้ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566

มีผลแล้ว! เพิ่มเงินบำนาญชราภาพ กรณีผู้ประกันตนตายใน60เดือน

มีผลแล้ว! กฎกระทรวงเพิ่มเงินบำนาญชราภาพกรณีผู้ประกันตนตายใน 60 เดือน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ลงนามในประกาศกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลาและอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565 ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักประกันและเป็นการช่วยเหลือทายาทของผู้รับบำนาญชราภาพในการดำรงชีวิตภายหลังผู้รับบำนาญชราภาพ ซึ่งเป็นผู้ประกันตน ถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน โดยมีสาระสำคัญของกฎกระทรวง เพิ่มใน 3 ประเด็น ดังนี้ 1.กำหนดให้ผู้รับบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือนนับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ จากเดิม 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับ คราวสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย ปรับเป็นให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพเป็นจำนวนเท่ากับจำนวนเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับเดือนสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย คูณด้วยจำนวนเดือนที่เหลือหลังจากผู้รับเงินบำนาญ ชราภาพถึงแก่ความตายจนครบ 60 เดือน เช่น กรณีที่ผู้ประกันตนได้รับบำนาญชราภาพเดือนละ 5,250 บาท และได้รับเงินบำนาญชราภาพมาแล้ว […]

error: