ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ หักเงินเดือน’ข้าราชการ-ลูกจ้างประจำ’ ใช้หนี้ กยศ.

Advertisement   Advertisement 7 ส.ค.61 ราชกิจจาเผยแพร่ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการหักเงินได้พึงประเมิน เพื่อชำระเงินกู้ยืมคืนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 โดยมีรายละเอียดดังนี้ อาศัยอำนาจตามความในวรรคหนึ่งของมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ให้พนักงานหรือลูกจ้างซึ่งเป็นผู้กู้ยืมเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาหักเงินได้พึงประเมิน เพื่อชำระเงินกู้ยืมคืนให้กองทุน ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ในประกาศนี้ "กองทุน" หมายความว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 "เงินกู้ยืม" หมายความว่า เงินกู้ยืมตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 Advertisement ข้อ 2 ให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นกระทรวงทบวง กรม สำนักงาน หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ ตามกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม หักเงินได้พึงประเมินของข้าราชการ และลูกจ้างประจำในสังกัด […]

ศาลแนะ ถูกกยศ.ฟ้องอย่าตกใจ!!! ไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ได้ ไม่ต้องเสียเบี้ยปรับ!!!

  นายศิริชัย สุวรรณแสบ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้เปิดเผยว่า ช่วงนี้ กองเงินทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ซึ่งผิดนัดต่อศาลแล้ว และหากท่านใดได้รับหนังสือทั้งในฐานะผู้กู้ หรือผู้ค้ำประกัน ท่านก็สามารถที่จะมาติอต่อสอบถามข้อมูลได้ ซึ่งตอนนี้ศาลเรามีแนวทางในการช่วยเหลือก็คือ การให้คำแนะนำแก่คู่ความในการมาเจรจาตกลงกันไกล่เกลี่ยกัน ซึ่งท่านจะได้รับประโยชน์ก็คือ ท่านจะได้สิทธิ์ในการชำระดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1.บาทต่อปี โดยไม่ต้องเสียเบี้ยปรับ แต่หากท่านใดไม่มา ท่านจะต้องแบกภาระชำระดอกเบี้ยค่าปรับ อัตราร้อยละ 7.50 บาทต่อปี และจะต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีเองทั้งหมด ดังนั้นจึงอยากจะเชิญชวนให้ทุกท่านที่ได้รับจดหมายจากศาล เข้ามาเจรจาตกลงกันเพื่อท่านจะได้รบผลประโยชน์ตรงนี้ และภายหลังที่เจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันแล้ว ในระหว่างผ่อนชำระตามข้อตกลง กระบวนการในการบังคับคดีก็จะยังไม่เกิดขึ้น สามารถผ่อนชำระไปได้กว่า 9 เดือน แต่หากท่านไม่มา ศาลจำเป็นจะต้องพิจารณาบังคับคดีให้ท่านต้องชำระหนี้คืน กยศ.ภายในระยเวลา 1 เดือน จึงอยากเรียนเชิญทุกคน   ข่าวจาก : เนชั่นทีวี

กยศ.เดินหน้าหักบัญชีใช้หนี้1ล้านราย เล็งล้อมคอกจำกัดหัวค้ำประกัน หวั่นซ้ำรอยครูวิภา

  นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า เดือน ก.ค. ที่ผ่านมาได้เริ่มมีการหักเงินบัญชีชำระหนี้ กยศ. สำหรับข้าราชกรมบัญชีกลางที่เคยกู้เงินจากกยศ. และถึงเวลาที่ต้องผ่อนชำระเงิน และในเดือนส.ค. นี้ จะขยายเพิ่มหักบัญชีข้าราชการของกระทรวงการคลังทั้งหมด ซึ่งมีอยู่กว่า 1,000 คน นอกจากนี้ ในเดือนต.ค. 2561 ก็จะเริ่มหักบัญชีข้าราชการที่เป็นลูกหนี้ของกยศ. ในทุกหน่วยที่ได้รับเงินเดือนจ่ายตรงจากกรมบัญชีกลางผ่านระบบ GFMIS และปี 2562 ก็จะเริ่มใช้มาตรการนี้กับพนักงานเอกชนที่เป็นลูกหนี้ของกยศ. โดยจะเริ่มกับบริษัทขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มบริษัท ซีพี ที่มีพนักงานเป็นลูกหนี้ กยศ. กว่า 1 แสนคน “กยศ. ตั้งเป้าในปีหน้าจะมีการหักบัญชีชำระหนี้ กยศ. ได้ 1 ล้านราย ซึ่งจะช่วยลดการแก้ไขปัญหาขาดการชำระหนี้ โดยภาระการชำระหนี้ไม่มาก โดยเฉลี่ยลูกหนี้กยศ. อยู่รายละ 1 แสนบาท ให้เริ่มผ่อนชำระในปีแรก 1,500 บาท ปีที่ 2 จำนวน 2,500 […]

หนี้เสีย กยศ.พุ่งถึง7หมื่นล้าน เผยกว่า 80%ปล่อยกู้ลูกคนฐานะปานกลาง!

  ควรปฏิรูปการบริหารกองทุน "กยศ" ใหม่ ชี้หนี้เสีย 7หมื่นล้าน เผยลูกจนได้กู้สัดส่วน 20% กว่า 80% ปล่อยกู้ลูกคนฐานะปานกลาง ย้ำนักเรียนเรียนดีแต่ยากจนในถิ่นทุรกันดาร รัฐบาลควรจัดสรรทุนแบบให้เปล่าหรือทุนการศึกษาเพิ่มเติม ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตเปิดเผย (29ก.ค.) ว่าหนี้เสียของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ) ใกล้แตะ 70,000 ล้านบาท ปล่อยกู้ทั้งหมด 5.4 ล้านคน ผิดนัดการชำระหนี้จำนวน 2.1 ล้านคน นั้น จะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีนโยบายในการแก้ไขอย่างเป็นระบบและจริงจัง ปัญหาขาดทุนเรื้อรังจะส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของ กยศ มากขึ้นตามลำดับและอาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของกองทุนในระยะยาว มีผลกระทบต่อโอกาสทางการศึกษาของผู้กู้รายใหม่รวมทั้งเกิดภาระทางงบประมาณของรัฐบาลมากขึ้นอีกด้วย ปัญหาหนี้เสียจำนวนมากของ กยศ เป็นผลจากผู้กู้เงินจาก กยศ คืนเงินให้กับกองทุนคิดเป็นจำนวนที่ต่ำกว่าประเทศอื่นมาก การไม่ชำระหนี้อยู่ที่ประมาณร้อยละ 50 ของหนี้ทั้งหมดจำนวนที่ได้คืนมานี้เมื่อหักด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ ของกองทุนแล้วจะเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้กองทุน กยศ มีอัตราคืนทุนในระดับต่ำมาก ดร. อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า กรณีนักศึกษากู้ยืมเงิน กยศ แล้วไม่ชำระหรือเบี้ยวหนี้จนทำให้ครูผู้ช่วยค้ำประกันต้องรับผิดชอบแทนจนถูกฟ้องร้องบังคับคดีนั้น เห็นว่า […]

โผล่อีกราย! ‘ครูหมี ชัยภูมิ’ค้ำกยศ.ให้ศิษย์40ราย หายกลีบเมฆ27ราย หวั่นซ้ำรอย ‘ครูวิภา’

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรพงศ์ เค้ากล้า ครูโรงเรียนห้วยต้อนพิทยาคม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้โพสต์ขอร้องลูกศิษย์ที่เบี้ยวหนี้ กยศ. ขอให้ชดใช้หนี้กยศ. โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “สรพงศ์ เค้ากล้า” ว่า แจ้งถึง ลูกศิษย์ ครูหมี ห้วยต้อน ที่ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้พวกเธอได้เรียนมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ ปี 2539-2548 ประมาณ 40 คน ทราบครับ -กยศ. มีหมายศาลให้ครูติดตามมาไกล่เกลี่ย ผ่อนใช้เงินกู้คืนได้ 13 ราย(ที่เหลือยังติดตามไม่เจอ) -ขอร้องมายังพวกเธอ อย่าให้เป็นเช่นครูวิภา นะครับ เพราะ 1.ครูใกล้เกษียณแล้ว(อีกปีเศษ)กลัวจะไม่มีเงินบำนาญไว้ใช้ยามแก่ชรา 2.ครูมีบ้านหลังเดียว(ที่พวกเธอเคยพักอาศัยอยู่กินสมัยเป็นนักเรียน) กลัวถูกฟ้องยึดขายทอดตลาด 3.ช่วงนี้ก็ป่วยไม่มีแรงจะตามหาพวกเธอได้(หลายคนอยู่ไกล เช่น ภูเก็ต, กระบี่, พังงา, เชียงราย, เชียงใหม่ฯลฯ) ขอขอบใจ กับ คนที่เคลียร์หมดแล้ว นะครับ     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยมีสมาชิกเฟซบุ๊กเข้าไปสอบถามรายละเอียดเรื่องยอดหนี้ ครูหมีตอบว่า […]

‘ศุภชัย ใจสมุทร’ รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยเสนอ ‘พักหนี้กยศ.5ปี’ ประหยัดงบ20,000ล้าน!!

  "ศุภชัย ใจสมุทร"เสนอแนวทางแก้หนี้กยศ.ให้พักชำระหนี้5ปีต่อลมหายใจคนจบใหม่ช่วยประหยัดงบฟ้องลูกหนี้จำนวน 2.5 ล้านรายกว่า 20,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีการบริหารโครงการกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่เกิดปัญหาขณะนี้ ว่า ทางพรรคภูมิใจไทย มีแนวคิดในการพักชำระหนี้เป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี เพื่อต่อลมหายใจให้กับประชาชนที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย การพักชำระหนี้ไม่ได้ยกหนี้ให้ เพียงแต่พักการใช้หนี้ไว้ก่อน ระหว่างนั้นค่อยมาตกลงในรูปแบบของเงื่อนไขการจ่ายหนี้ ที่สำคัญการดำเนินนโยบายดังกล่าว สามารถช่วยประหยัดงบประมาณในการฟ้องร้องลูกหนี้จำนวน 2.5 ล้านราย คิดเป็นงบกว่า 20,000 ล้านบาท "เป็นการต่อลมหายใจให้กับประชาชนคือคนมีหนี้พยายามใช้หนี้ทุกคน เพียงแต่สภาพเศรษฐกิจยังไม่ดีเท่าที่ควร ต้องแก้ตามระบบ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน รวมทั้งรัฐต้องเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งทางภาครัฐจำเป็นที่จะต้องหามาตรการในการต่อยอดการศึกษาโดยที่เด็กนักศึกษาไม่ต้องเป็นหนี้ทันทีที่จบมา" นายศุภชัย กล่าว ทั้งนี้ เห็นว่า ปัญหาของกองทุน กยศ. ไม่ใช่เป็นเรื่องของวินัยการใช้เงิน แต่เป็นปัญหาที่รัฐไม่สนับสนุนการศึกษาไปจนสุดทาง รัฐจำเป็นที่จะต้องบริหารจัดงานงบประมาณที่เหมาะสม หางบประมาณมาสนับสนุนการศึกษาให้กับเยาวชนมากขึ้น เพราะหากเราสนับสนุนการศึกษาอย่างเต็มที่ก็จะสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพไว้พัฒนาประเทศ ข่าวจาก : posttoday

รองปลัดยธ.แนะกยศ.เริ่มยึดทรัพย์พ่อแม่ศิษย์เบี้ยวหนี้ก่อน แล้วค่อยไปยึดผู้ค้ำ

  รองปลัดยธ.โพสต์เฟซบุ๊กแนะกยศ.สืบทรัพย์ พ่อแม่ศิษย์เบี้ยวหนี้ กยศ.ควรเริ่มยึดทรัพย์เป็นลำดับจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองเสียก่อน จึงไปเอาผู้ค้ำ จึงจะเป็นธรรม ชี้ช่องแก้ปัญหากำหนดวงเงินขรก.ค้ำประกันให้ชัด จากกรณี น.ส.วิภา บานเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร ที่ถูกยึดบ้านและที่ดินขายทอดตลาด เนื่องจากการค้ำประกันหนี้ กยศ.ให้กับนักเรียนกว่า 60 คน เพื่อเห็นแก่อนาคตลูกศิษย์ว่า เมื่อถึงกำหนดนักเรียนก็ไม่ยอมชำระหนี้ จนล่าสุดกรมบังคับคดีและกยศ.ต้องร่วมมือกันชะลอการบังคับคดีไว้ก่อน  อ่านข่าว “ปชป.” จี้เร่งบังคับใช้กฎหมาย กยศ. หักเงินเมื่อทำงานได้ ชี้ ‘ชวน’ ทำมาดี ช่วยคนขาดแคลน เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โพสต์เฟชบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า การสืบทรัพย์เด็กให้สืบทรัพย์บิดามารดาด้วย เพราะการก่อหนี้ตั้งแต่เป็นเด็กและเยาวชน ซึ่งเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะทำนิติกรรม โดยที่บิดามารดาหรือผู้ปกครองไม่ยินยอมไม่ได้ และกยศ.ควรเริ่มยึดทรัพย์เป็นลำดับจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองเสียก่อน จึงไปเอาผู้ค้ำ จึงจะเป็นธรรม ในอนาคตการทำสัญญาผู้ร่วมลงนามค้ำประกัน ต้องเอาบิดามารดาหรือผู้ปกครองมาร่วมค้ำประกันด้วย  อ่านข่าว ศิษย์ ครูวิภา ติดต่อกลับแค่ 3 คน เปิดปาก ไม่คิดจะร้ายแรง งง ทำไมครูกล้าค้ำ […]

‘ศิษย์ครูวิภา’งัดหลักฐานโต้เพจดัง ยันปิดหนี้กยศ.ก่อนโดนแฉ เพจดังซัดกลับพร้อมให้ฟ้อง!

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเฟซบุ๊กเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return” ได้โพสต์ภาพหลักฐานที่ศิษย์ครูวิภา บานเย็น ไปปิดบัญชี กยศ. พร้อมตำหนิเพจดังที่โพสต์ข้อมูลไม่ถูกต้อง โดยมีข้อความว่า “เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คะ ที่คือหลักฐานจากกยศ.และธนาคาร ชำระและปิดบัญชีก่อนที่จะมีเรื่องราวต่างๆ มากมาย มันทำให้สามีและตัวเราเองเสียชื่อ รบกวนช่วยแชร์หน่อย จะได้รู้ถึงคนที่ชอบเอามาโพสต์มั่วๆ” โดยเฟซบุ๊กเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return” ดังกล่าวโต้กลับว่า “ฝากไปแปะหน้าเฟซคนนี้หน่อย มีรายชื่ออยู่ในฐาน บช.ฟ้อง รีบไปปิดเมื่อวันที่ 17/7/61 เรื่องไม่แดงจะไปปิดไหม มาอัพเฟซรัวๆ ว่ากูลงมั่ว อย่าให้กูได้เอามาขึ้นเพจประจาน เพราะเค้าปริ้นซ์รายชื่อออกมาก่อนมันจะไปปิดอีก มีจะขู่มาฟ้องเพจ จัดมาเลยกูพร้อม”         โดยในเวลาต่อมา เฟซบุ๊กของสาวคนดังกล่าวก็ปิดตัวลง ไม่ปรากฎข้อมูลนี้อีก มีเพียงแต่ข้อมูลในเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return   ขอบคุณข้อมูลจาก : อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return

‘ประชาธิปัตย์’จี้เร่งบังคับใช้กฎหมาย กยศ.หักเงินเมื่อทำงานได้ ชี้‘ชวน หลีกภัย’ทำมาดี ช่วยคนขาดแคลน

  วันที่ 26 ก.ค. นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนักศึกษาที่กู้ยืมเงินของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แต่ไม่ยอมชำระหนี้ จนทำให้ครูผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบถูกฟ้องและบังคับคดี ว่า ขอชื่นชมคุณครูที่ทำหน้าที่ และตั้งใจทำสิ่งที่ดีให้กับศิษย์ เพื่อให้มีโอกาสศึกษา และขอชื่นชมผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ได้หาทางในการแก้ปัญหาเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับคุณครู กยศ. ยกระดับทวงหนี้เข้มข้น 23 ศิษย์แสบ เบี้ยวหนี้ ทำ ‘ครูวิภา’ โดนฟ้องบังคับคดีอ่วม กยศ.จ่อตามตัว ศิษย์เบี้ยวหนี้ ‘ครูวิภา’ ครูสะอื้น ไม่อยากทำร้าย เคยสอนให้ซื่อสัตย์ แฉยับ ! ศิษย์เบี้ยวหนี้กยศ. ชีวิตดี มีรถขับ-มีงานทำ ลืมพระคุณ ‘ครูวิภา’ ซึ่งความจริงแล้วแนวทางด้านกฎหมายก็สามารถทำได้หลายช่องทางในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การไกล่เกลี่ยพูดคุยซึ่งสามารถทำได้ทุกขั้นตอนแม้อยู่ในชั้นบังคับคดี กยศ. แจ้งการงดการบังคับคดี เพื่อหาวิธีการบังคับกับศิษย์ผู้เป็นหนี้ก่อน คุณครูก็มีสิทธิในการทำหนังสือถึง กยศ. เพื่อขอให้ทาง กยศ. บังคับกับศิษย์ผู้เป็นลูกหนี้ก่อน อายุความในการบังคับคดีมีกำหนด 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษา นายราเมศ กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาว การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 ที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐและเอกชน ต้องหักเงินกับลูกจ้าง […]

ศิษย์ครูวิภาฉะกลับคนด่าทรยศ ค้าง2หมื่นจ่ายแน่ อย่าดึงลูกเมียเกี่ยว(มีคลิป)

  จากกรณีที่ น.ส.วิภา บานเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร ได้เป็นผู้ค้ำประกันให้แก่นักเรียนกู้ยืมเงินจากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เมื่อปี พ.ศ. 2541-2542 จํานวน 60 ราย แต่มีลูกศิษย์ที่ค้างชําระหนี้ กยศ. จนถึงขั้นบังคับคดีกับครูที่เป็นผู้ค้ำประกัน จนต้องถูกยึดบ้านและที่ดินตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น             วันที่ 26 ก.ค. 61 เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return เปิดเผยชื่อของผู้กู้ กยศ. ที่เป็นลูกศิษย์ของครูวิภา โดยมีทั้งบุคคลที่ชำระเงินแล้วทั้งหมด และยังค้างชำระหนี้     ครูวิภา เปิดเผยว่า มีลูกศิษย์ติดต่อกลับมาบ้างแต่ยังไม่ครบทุกคน ซึ่งลูกศิษย์ส่วนใหญ่ที่ติดต่อกลับมา คำแรกที่เอ่ยออกมาจากปากคือคำว่า “ขอโทษ” เช่นเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา มีลูกศิษย์โทรมา และบอกว่ารับรู้แล้วพร้อมกล่าวขอโทษ ลูกศิษย์รับปากว่าหลังจากนี้จะจัดการเรื่องหนี้สินด้วยตัวเอง แล้วก็จะนำเงินมาคืนในส่วนที่คุณครูเคยออกให้ไปก่อนหน้านี้ด้วย นอกจากนี้ ครูวิภาบอกว่ามีลูกศิษย์อีกหลายคนที่ได้ติดต่อกลับมามีทั้งหมด 11 คนแล้ว ในจำนวนนี้ มี 2 […]

1 3 4 5 6
error: