ไม่จำเป็นต้องท้องผูก แค่ไม่ “ขับถ่าย” วันเดียว ระบบภายในก็รวนแล้ว…จะเกิดอะไรภายในร่างกายบ้าง…มาดูกัน

Advertisement การขับถ่ายเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับมนุษย์ ยิ่งระบบการขับถ่ายดีมากเท่าไหร่ ร่างกายก็จะสามารถรับสิ่งดีๆเข้าไปได้ร่างกายอย่างคล่องตัว ไม่เหลือสะสมเป็นอุจจาระ และชีวิตของคนเราจะยืนยาวได้นานมากขึ้น หากเราสามารถรักษาสมดุลของการรับประทานอาหารที่ดีและขับถ่ายทุกวันได้ Advertisement จะว่าไป…เรื่องของการรับประทานอาหารก็ว่ายากแล้ว แต่เรื่องของการขับถ่ายยิ่งยากมากกว่า เพราะการขับถ่ายที่ดีขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย  หากเราไม่สามารถควบคุมปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งได้ ร่างกายก็จะส่งเสียงร้องออกมาเป็นโรคภัยที่คงไม่มีใครอยากให้เกิด ไม่จำเป็นต้องถ่ายไม่ออกติดต่อกันนานหลายๆวันหรอกค่ะ เพราะผู้เชี่ยวชาญบอกไว้ว่า การที่เราไม่ถ่ายทุกวันก็ส่งผลร้ายต่อร่างกายแล้ว   ปัญหาที่ว่านี้คืออะไร ต้องตามมาหาคำตอบและอย่าทำให้มันเกิดขึ้นกับเราเลย…   อาการถ่ายไม่ออกอยู่บ่อยๆ หรือการไม่ยอมขับถ่ายเพียงแค่ 1 วัน สามารถส่งผลเสียกับสุขภาพได้ดังต่อไปนี้   1. เชื้อโรคแพร่กระจาย การที่เราไม่ขับถ่ายแค่เพียง 1 วัน สามารถทำให้บรรดาเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เจริญเติบโตขึ้นภายในอุจจาระสามารถถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือดได้ เหตุการณ์เหล่านี้จะก่อให้เกิดอาการอักเสบภายในร่างกาย รวมทั้งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานหนักมากขึ้น ผลสุดท้ายเชื้อโรคก็จะทำให้ร่างกายของคุณอ่อนเพลีย มีอาการปวดหัว ท้องอืด ผิวหนังอักเสบ สิวขึ้น แถมยังทำให้คุณอารมณ์ไม่ดีหรือรู้สึกหงุดหงิดง่ายอีกด้วย ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้เกิดการการเช่นนี้ เข้าห้องน้ำด่วนเลยค่ะ 2. สารพิษสะสมในร่างกาย การขับถ่ายถือเป็นวิธีที่ร่างกายจะได้กำจัดสารพิษและสารเคมีต่าง ๆ ที่ในหนึ่งวันเราได้รับเข้าสู่ร่างกาย แต่ถ้าหากร่างกายไม่ได้ขับถ่ายทุกวันก็จะทำให้สารพิษเหล่านั้นถูกดูดกลับไปสะสมอยู่ในร่างกาย ไม่ว่าจะในกระแสเลือดหรือตามอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะในตับหรือลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย […]

รู้ยัง! LINE ผุดฟีเจอร์ใหม่ที่ทุกคนรอคอย….ลบข้อความได้ภายใน24ชม.

เป็นบ่อยมั๊ยค่ะ?…บางทีที่เราพิมพ์ข้อความส่ง line ให้เพื่อนแบบผิดๆถูกๆ ส่งผิดคนบ้างละ เปลี่ยนใจไม่อยากส่งบ้างละ แต่ในเมื่อก่อนนั้น ถ้าเราพิมพ์อะไรส่งไปที่แอปฯ line แล้ว จะไม่มีโอกาสลบมันได้เลย แต่ในปัจจุบัน เราสามารถแก้ไขความผิดพลาดเหล่านี้ได้แล้วนะ จะต้องทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกัน   รายงานข่าวจากLINE แจ้งว่าLINEได้เพิ่มฟังค์ชันใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ให้มีประสบการณ์การใช้งานหรือสนทนาได้ดียิ่งขึ้นโดยการเพิ่มฟีเจอร์“Unsend”เพื่อลบข้อความที่ผู้ใช้ส่งผิดง่ายๆเพียงกดที่ข้อความที่คุณส่งไปแล้วค้างไว้แล้วเลือก“Unsend”จากเมนูที่ป๊อปอัพขึ้นมาเท่านี้ข้อความที่คุณส่งผิดหรือต้องการลบก็จะหายไปทันที    ฟีเจอร์“Unsend”สามารถลบข้อความที่เป็นตัวหนังสือเสียงสติกเกอร์   รูปภาพวิดีโอURLลิงค์การแชร์สถานที่และเวลาการโทรออกทั้งที่อ่านแล้วหรือยังไม่อ่านภายใน24ชม.ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความแบบ1ต่อ1การส่งหาเพื่อนหลายๆคนหรือการส่งในกรุ๊ปแชท ก็สามารถลบได้   อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้ทั้งเวอร์ชั่นมือถือและคอมพิวเตอร์เมื่อลบข้อความนั้นๆแล้วจะมีข้อความแจ้งเตือนขึ้นในหน้าแชทโดยข้อความแจ้งเตือนนี้ไม่สามารถลบได้   ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://www.posttoday.com/digital/530138  

ปวดแบบไหน??กินยาพาราเซตามอลไม่หาย

   ยาพาราเซตามอล จัดว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ใช้บรรเทาอาการปวดและอาการป่วยขั้นพื้นฐาน แต่ยาพาราเซตามอลก็ไม่ได้ช่วยรักษาได้ทุกอาการปวดหรอกนะ [ads]          ยาพาราเซตามอลมีสรรพคุณลดอาการปวดจำกัด สามารถแก้ปวดได้เพียงอาการปวดขั้นอ่อนถึงขั้นปานกลางเท่านั้น นั่นหมายความว่า ยาพาราเซตามอลไม่ใช่ยาแก้ปวดครอบจักรวาลนั่นเอง เรามาเช็กกันดีกว่าว่าอาการปวดแบบไหน ที่ยาพาราเซตามอลรักษาไม่หาย 1. อาการปวดขั้นรุนแรง    อาการปวดขั้นรุนแรงหมายถึงอาการปวดขั้นรุนแรงที่เกิดจากอวัยวะภายใน โดยทางการแพทย์จะมีมาตรวัดระดับความปวดอยู่ที่ 0-10 ระดับ 0 คือไม่มีอาการปวดเลย ส่วนระดับ 10 คือมีอาการปวดมากเท่าที่จะจินตนาการได้ ปวดแบบทุรนทุรายจนแทบทรงตัวไม่ไหว ซึ่งหากประเมินแล้วอาการปวดอยู่ที่ระดับ 7 ขึ้นไป เช่น ปวดแผลผ่าตัด ปวดนิ่วในไต อาการปวดของผู้ป่วยโรคมะเร็งบางชนิด หรืออาการปวดกล้ามเนื้อหัวใจจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือแม้กระทั่งปวดไมเกรนหนัก ๆ แบบนี้พาราเซตามอลก็เอาไม่อยู่ ต้องใช้ยาแก้ปวดในกลุ่มมอร์ฟีน หรือทรามาดอล ซึ่งเป็นยาที่มีฤทธิ์ระงับปวดขั้นรุนแรงได้ ทว่าก็เป็นยาที่มีผลข้างเคียงมาก จึงควรใช้ยากลุ่มนี้ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น   2. อาการปวดที่มีลักษณะแปลก ๆ    กลุ่มอาการปวดที่มีลักษณะแปลกไปจากอาการปวดตื้อ ๆ อาการปวดแล้วกดเจ็บ หรืออาการปวดจากเนื้อเยื่ออักเสบ เช่น           – อาการปวดแสบปวดร้อน           – […]

ลือสนั่น ! คู่สร้างคู่สม เตรียมปิดตัวอีกเล่ม พร้อมประกาศชะตา 16 ธ.ค. นี้

วันที่ 12 ธันวาคม 2560 โลกออนไลน์มีการพูดถึงการปิดตัวของนิตยสารตำนานคู่แผงร้านหนังสือไทยอย่าง คู่สร้างคู่สม โดยนายนิติพันธ์ ตั้งนพรัตน์ ทายาทร้านเสียงทิพย์บุ๊คเซ็นเตอร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nitipan Tangnopparat ระบุว่า เรื่องช็อกอันดับท็อป ๆ ของปีนี้ คู่สร้างคู่สม กล่าวอำลา เป็นหัวที่คิดว่าจะไปเป็นคนสุดท้าย ทำไมทำกันอย่างนี้ [ads]           ขณะที่ทางเฟซบุ๊ก มองรอบด้าน ได้โพสต์ภาพของนายดำรง พุฒตาล เจ้าของนิตยสารหัวดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า "ประกาศข่าวสำคัญ!!! ของนิตยสาร คู่สร้างคู่สม เตรียมชี้แจงประเด็นดังกล่าวผ่านรายการ มองมองรอบด้าน สุดสัปดาห์ ในวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคมนี้"           อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้นิตยสารคู่สร้างคู่สม ฉบับวันที่ 1-10 กันยายน (ปีที่ 38 ฉบับที่ 994) ได้ลงพาดหัวบนหน้าปกว่า "วิกฤตสื่อหนังสือ ดำรงยืนยัน คส.คส. ไม่มีวันเจ๊ง !" ทั้งนี้ต้องรอทางผู้บริหารออกมาชี้แจงอีกครั้ง  

CNN จัดอันดับ 40 เมนูอาหารไทย “ต้องได้กิน” ชีวิตนี้ขาดไม่ได้

   ซีเอ็นเอ็นจัดอันดับ 40 อาหารไทย โดยเล่าถึงวัฒนธรรมการกินเเละอาหารของประเทศไทย ในรายงานระบุว่า หากใครเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยอย่าได้สนใจราคาอาหาร แต่ให้ดูร้านที่มีลูกค้าเข้ามากที่สุด เพราะนั้นบ่งบอกได้ว่าอาหารเหล่านั้นอร่อยเเค่ไหน โดยซีเอ็นเอ็นได้จัดอันดับสุดยอดเมนูอาหารไทย ที่เรียกได้ว่าชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้ [ads]    มาเริ่มกันที่อันดับ 1 เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทยเเละคนไทยเองนั้นจะต้องได้ลิ้มรสกันอย่าง “ต้มยำกุ้ง” ด้วยรสชาติเผ็ดเเละหวานหน่อยๆ หากเป็นต้มยำกุ้งน้ำข้นยิ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ตามกันมาติดๆ ด้วยเมนูรสชาติเผ็ดเเต่กลมกล่อมอย่าง “แกงส้มผักรวม” ที่ถูกจัดไว้ในอันดับที่ 2    ต่อกันที่อันดับ 3 “แกงเขียวหวาน” เน้นๆ ด้วยวัตถุดิบหลักอย่างมะเขือเปราะกับไก่พร้อมเครื่องเเกงเขียวหวาน กินกับข้าวสวยร้อนๆ หรือกินกับขนมจีนก็อร่อยถูกปากยิ่งนัก สำหรับเมนูไก่ที่ได้รับความนิยมเเละต้องกินให้ได้ตามติดๆ กันมาอันดับที่ 4-6 ตามลำดับ อย่าง “พะเเนงไก่” “แกงมัสมั่นไก่” เเละ “ไก่ผัดผงกะหรี่” ล้วนเเต่เป็นเมนูที่รสชาติจัดจ้าน เข้มข้นทั้งสิ้น เรียกได้ว่าอาหารอันดับต้นๆ นั้นรสชาติเน้นไปทางเผ็ด จัดจ้าน เสียมากกว่า ทั้งนี้อาหารรสจืดแต่กลมกล่อมอย่าง “แกงจืด” ถูกจัดให้อยู่อันดับที่ 7 โดยรายงานยังระบุว่าแกงจืดจัดว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย    สำหรับอาหารที่ถือเป็นการผ่อนคลายร่วมกับเพื่อนๆ เมื่อไปรับประทาน […]

ไขข้อข้องใจ???แค่จับลอตเตอรี่แป๊บเดียว ตรวจ DNA ได้เหรอ

หมอแล็บแพนด้า ไขข้อข้องใจ จับลอตเตอรี่แป๊บ ๆ ก็ตรวจ DNA ได้ ถึงจับแค่ 10 วินาที ก็ทิ้ง DNA ไว้ได้นะจ๊ะ แต่ใช่ว่าจะตรวจเจอทุกครั้ง         เป็นมหากาพย์ข้ามเดือน สำหรับคดีฉกลอตเตอรี่ 12 ล้าน ที่มีการพิสูจน์ไป-มา จนสุดท้ายต้องพึ่งการตรวจ DNA แต่ทว่า ยังไม่พบดีเอ็นเอ ซึ่งทางตำรวจได้บอกว่ายังไม่ใช่ผลอย่างเป็นทางการ ต้องรอเอกสารตัวจริงอีกครั้ง  [ads]         เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายคนก็สงสัยว่า การจับลอตเตอรี่แป๊บ ๆ สามารถตรวจ DNA ได้จริงเหรอ ล่าสุด (7 ธันวาคม 2560) คุณหมอเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อดัง หมอแล็บแพนด้า ได้ออกมาอธิบายแบบแจ่มแจ้ง ดังนี้         "มีคนสงสัยว่า แค่เราเอามือจับล็อตเตอรี่หรือธนบัตรแป๊บ ๆ มันจะตรวจดีเอ็นเอได้เลยเหรอ ตอบได้เลยว่า "ได้ครับโผม" แค่ 10 วินาทีก็ทิ้งดีเอ็นเอไว้ได้ เวลาเราจับสิ่งของ มันจะมีเซลล์ผิวเราหลุดร่อนออกมา […]

ของขวัญปีใหม่!! ปีนี้และปีต่อๆไปจะไม่มีใครให้เหล้ากันอีก เพราะอะไร?[มีคลิป]

   พอถึงเทศกาลปีใหม่ทีไร หลายคนคงกำลังมองหาของขวัญซักชิ้นไปเซอร์ไพรส์ครอบครัว แฟน เพื่อน เจ้านาย หรือว่าผู้ใหญ่ที่เคารพ แต่ก็ยังบางคนที่เลือกนำเหล้าไปให้เป็นของขวัญ ทั้งๆที่รู้โทษภัยของเหล้า แต่ทว่า…คงจะดีไม่น้อย ถ้าปีนี้และปีต่อๆไปจะไม่มีใครให้เหล้ากันอีก [ads]           จากความสำเร็จของแคมเปญ ให้เหล้า=แช่ง ที่สามารถสร้างกระแสในสังคมไทย จนเกิดเป็นวลีฮิตติดปากที่หลายคนจดจำได้ มากกว่านั้น…ยังได้สร้างค่านิยมใหม่ในสังคม ว่าการให้เหล้าเป็นของขวัญแกผู้อื่นเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งคนทั่วไป รวมไปถึงผู้ประกอบการต่างๆ ที่ไม่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมในกระเช้าปีใหม่อีกต่อไป และพฤติกรรมการให้เหล้าลดไปอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ สสส. จึงต้องออกมาส่งสารเพื่อรณรงค์ให้เกิดพฤติกรรมใหม่ในสังคมว่า "ยุคนี้ไม่มีใครให้เหล้ากันแล้ว"           ครั้งนี้ตัวหนัง ให้เหล้า=แช่ง เวอร์ชั่นปี 2017 ได้ถูกต่อยอดไอเดียจากผู้กำกับมากฝีมืออย่าง "ม่ำ-สุธน เพ็ชรสุวรรณ" ที่เคยฝากผลงานไว้กับ สสส.หลากหลายแคมเปญ อาทิ โครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา(พักตับ พักยก) โดยเล่าผ่านเรื่องราวงานเลี้ยงปีใหม่ของบ้านหลังหนึ่งที่อาเฮียและลูกน้องกำลังเตรียมฉลองกันยกใหญ่ แต่ทว่า…การปรากฎตัวชายคนหนึ่งที่มาพร้อมกับกล่องแดงปริศนา และทันทีที่กล่องนั้นถึงมือของอาเฮีย ความสนุกที่คาดเดาไม่ได้ก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งหนังเรื่องนี้ ผู้กำกับก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างฮาปนเพี้ยนตามแบบฉบับของ สสส. และ นี่ถือเป็นหนังอีกเรื่องของ สสส. ที่จะโดนใจคนดูเต็มๆไม่น้อย   [facebook]https://web.facebook.com/socialmarketingth/videos/1928698924047123/?_rdc=1&_rdr[/facebook]

เอ็นดู..หนูน้อยถูกคุณแม่ทำโทษ ด้วยวิธีนี้ ละมุนละม่อมแต่มีประโยชน์ คนชมเพียบ !

วันที่ 1 ธันวาคม 2560 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานบทสัมภาษณ์ นายสุทธิรักษ์ สกุลรัตน์ และนางสาววิภารัตน์ รัตนเจริญไพศาล คุณแม่และคุณพ่อ ของน้องอ้อมกอด หรือเด็กหญิงรักษ์วิภา สกุลรัตน์ อายุ 3 ขวบ เจ้าของคลิปวิดีโอลงโทษลูกสาว ด้วยการให้ยืนเข้ามุมห้อง แล้วนับเลข 1-20 เป็นภาษาอังกฤษ จนเป็นที่ชื่นชมทั่วโลกออนไลน์ [ads]           โดย นางสาววิภารัตน์ ผู้เป็นแม่ เผยว่า การลงโทษในคลิปนั้น เนื่องจากลูกสาวหยิบของเล่นมาเล่นในเวลาทำการบ้าน ตนเองก็ปล่อยให้เล่นสักพัก แต่ลูกสาวเล่นนานเกิน จึงสั่งให้เอาไปเก็บแล้วมาทำการบ้านต่อ แต่ลูกสาวกลับแสดงพฤติกรรมไม่พอใจ โดยการเอาของเล่นทุบลงที่โต๊ะเสียงดัง ตนจึงดุและลงโทษดังกล่าว ด้วยการให้นับเลข 1-20 ซึ่งทุกครั้งที่ลงโทษตนเองก็จะบอกเหตุผลกับลูกสาวทุกครั้ง ว่าที่ลงโทษเพราะเขาทำอะไรผิด ถ้าจะเลือกลงโทษด้วยการตี เดี๋ยวเขาก็คงลืม น้องก็เจ็บตัวเปล่า ๆ และตนเองก็จะมาเสียใจเองด้วยที่ทำรุนแรงกับลูก           ด้าน ตนเองพยายามฟังภาษาเขา พยายามเข้าใจเขา เด็กจะหายโกรธเร็วกว่าผู้ใหญ่ บางครั้งลูกกลับมาอารมณ์ดีแล้ว แต่พ่อกับแม่ยังโกรธอยู่ ซึ่งถ้าลงโทษด้วยวิธีตี อาจจะทำอะไรที่รุนแรงเกินกว่าเหตุไปได้ […]

ปี62…คนกรุงถึงเวลาจ่ายค่า”น้ำเสีย 2 บาท/ลบ.ม

   หากแนวคิดที่ว่าผู้ใดก่อมลพิษผู้นั้นควรมีส่วนรับผิดชอบ(PolluterPays Principle) ซึ่งเป็นรูปแบบการสร้างการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมจากผู้ที่ก่อปัญหาแต่ด้วยปัจจุบันเราทุกคนต่างสร้างมลพิษให้กับโลกในหลากหลายรูปแบบแล้วการรับผิดชอบต่อมลพิษที่เกิดขึ้นควรจะเป็นไปในรูปแบบใด [ads]    ปัญหาน้ำเสียเป็นปัญหามลพิษหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครที่มีผู้คนอพยพเข้ามาแสวงหาโอกาสตั้งรกรากอยู่อาศัยกันจำนวนมาก  แต่เมืองไม่ได้วางแนวทางเพื่ออนาคตในการดูแลเรื่องปัญหาที่จะตามมา ทำให้แต่ละสถานที่แต่ละครัวเรือนก็ต่างปล่อยน้ำเสียที่เกิดขึ้นทิ้งลงสู่ท่อระบายน้ำปล่อยตรงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติทั้งแม่น้ำคูคลองสายต่างๆจนเกิดปัญหาน้ำเน่าเสียไปทุกหย่อมหญ้าการแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียที่รัฐวางแนวทางไว้ส่วนหนึ่งคือ  การสร้างโรงบำบัดน้ำเสียเพื่อรองรับน้ำจากทุกแห่งหนทำการบำบัดก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ  แต่การจะสร้างโรงบำบัดน้ำเสียให้เพียงพอต้องใช้งบประมาณมหาศาลนับหมื่นล้านบาทถึงจะคลอบคลุมพื้นที่ทุกตารางนิ้วดังนั้นส่วนหนึ่งที่ประชาชนสามารถร่วมรับผิดชอบการสร้างน้ำเสียลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ก็คือ การร่วมจ่ายค่าบำบัดน้ำเสียให้แก่ภาครัฐเพื่อให้ภาครัฐน้ำงบประมาณที่ได้ไปพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำให้ให้เหมาะสมมากที่สุด    ค่าบำบัดน้ำเสียเป็นส่วนหนึ่งที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) ศึกษากันมาอย่างยาวนานหลายสมัยแต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ส่วนหนึ่งติดปัญหาการวางระบบการจัดเก็บที่เหมาะสมครอบคลุมและเป็นธรรมแก่ประชาชนแต่อีกส่วนหนึ่งผู้บริการกทม.ยุคอดีต ล้วนเกรงกลัวการเสียคะแนนนิยมจากการเพิ่มภาระให้แก่ประชาชนแต่ในยุคผู้ว่าฯตำรวจอย่าง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง  ที่มานั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.แบบช่องทางด่วนซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องคะแนนเสียมากก็พยายามผลักดันให้สามารถดำเนินการสำเร็จจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสียอย่างเป็นรูปธรรมได้    ขณะนี้กทม.อยู่ระหว่างการปรับแก้กฎหมายข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียจากฉบับดั้งเดิมพ.ศ.2547 ให้เหมาะสมกระชับและเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด  โดยประเด็นหลักๆที่อยู่ระหว่างแก้ไขมี4ประเด็นสำคัญ คือ 1 การจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากแหล่งกำเนิด13ประเภทคือที่อยู่อาศัยสถานที่ราชการสถานศึกษาโรงพยาบาลโรงแรมห้างสรรพสินค้าตลาดร้านอาหารอาบอบนวดอาคารธุรกิจสถานประกอบการรวมหลายประเภทในอาคารเดียวกันโรงงานและแหล่งน้ำเสียอื่นๆจะปรับแก้กำหนดเพียง3ประเภทคือ1.ที่อยู่อาศัย2.สถานประกอบการขนาดเล็กและ3.โรงแรมโรงงานธุรกิจขนาดใหญ่    ในประเด็นที่2 การคิดค่าธรรมเนียมจากปริมาณน้ำใช้100เปอร์เซ็นต์แต่กทม.จะปรับแก้เป็นคิดค่าธรรมเนียมจากปริมาณการใช้น้ำประปาหรือบาดาลหรือแหล่งน้ำอื่นๆคิดตามปริมาณใช้น้ำแค่80เปอร์เซ็นต์  เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงเป็นธรรมกับประชาชนมากยิ่งขึ้นเนื่องจากน้ำใช้ของประชาชนจะไม่ได้เข้าสู่ระบบท่อระบายน้ำทั้งหมด และในประเด็นที่3 มาตรการดำเนินการกับผู้ไม่ชำระค่าธรรมเนียมภายใน30วัน  จะต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายทั้งทางปกครองและทางแพ่ง  แต่กทม.จะปรับแก้ให้มีการกำหนดอัตราค่าปรับที่ชัดเจน  ส่วนในประเด็นที่4กำหนดให้กทม.เป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียจากประชาชนซึ่งดำเนินการได้ยากเนื่องจากกทม.ขาดกำลังบุคลากร จึงมีการปรับแก้ให้กทม.สามารถจ้างเอกชนเก็บแทนได้เพื่อความคล่องตัว    สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมจัดเก็บตามประเภทผู้ก่อให้เกิดน้ำเสียแบ่งเป็นประเภทที่1ที่อยู่อาศัยกำหนดอัตรา 2 บาทต่อลบ.ม.  ประเภทที่2กลุ่มหน่วยงานราชการรัฐวิสาหกิจ หรืออาคารเอกชนอาคารอยู่อาศัยต่างๆ กำหนดอัตรา 4บาทต่อลบ.ม.  และประเภทที่3  กลุ่มโรงแรมสถานประกอบการขนาดใหญ่กำหนดอัตรา 8บาทต่อลบ.ม.    นายจักกพันธุ์  ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)  ผู้ดูแลงานด้านการบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่าการจัดประเภทผู้ก่อให้เกิดน้ำเสียเพื่อการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียนั้นพบว่าประเภทที่เป็นผู้ก่อให้เกิดน้ำเสียมากที่สุดคือ  ประเภทที่2 กลุ่มหน่วยงานราชการรัฐวิสาหกิจ  อาคารเอกชน  คอนโดมีเนียมต่างๆ  […]

เดี๋ยวผมช่วยเอง! ‘ทนายเกิดผล’ออกโรงป้อง-กางข้อกฎหมายชี้ชัด โต้ปม ‘พนง.ธนาคารเปิดโปงข้อมูลโจรสมควรโดนไล่ออกหรือไม่?!’

  เมื่อวานนี้ ได้มีการแชร์คลิปของโดยเธอเป็นพนักงานสาวธนาคารแห่งหนึ่ง ในจ.ราชบุรี ที่ได้ไลฟ์สดขณะคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเธอโพสต์คลิปดังกล่าวลงใน เฟซบุ๊กชื่อ NaNa Nana Knc โดยพนักงานสาวคนดังกล่าวได้ทำการทั้งโชว์เบอร์โทรศัพท์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ดูด้วย ซึ่งคอลเซ็นเตอร์อ้างว่าเป็นหน่วยงาน กองกับการการกระทำความผิด จากนั้น ก็บอกกับเหยื่อว่าได้ไปกู้เงินของธนาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ เป็นเงิน 1 แสนบาท     ในคลิปนั้น หลังจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ ร.ต.อ.หญิง แล้ว ก็ได้ขอเหยื่อสอบปากคำ และอธิบายข้อปฏิบัติขณะพูดคุยด้วย คือ 1.ต้องให้ข้อมูลตามความเป็นจริงเท่านั้นว่า ทางเราได้ทำสัญญาเงินกู้ใช่หรือไม่ 2.ระหว่างสอบปากคำกับผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จะบันทึกเสียงทุกคำตอบของผู้เสียหาย และอย่าให้มีบุคคลที่สามสอดแทรกเข้ามาในสาย เพราะการบันทึกเทปเสียงครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องนำหลักฐานไปลงบันทึกประจำวัน และนำไปยื่นให้กับอัยการ เพื่อที่ผู้เสียหายจะได้ไปต่อสู้คดีกับทางธนาคาร และ 3.คดีความนี้ เป็นคดีที่อยู่ระหว่างขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมได้ 1 ราย และเป็นความลับของทางราชการ   แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างอีกว่า จากการตรวจสอบบัญชีที่ผู้เสียหายเปิดที่ธนาคารแห่งหนึ่งนั้น เป็นบัญชีที่ใช้ในการฟอกเงิน โดยมาเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 1 ล้านบาท และจะต้องทำการอายัดบัญชีของเหยื่อ ต่อมาได้มีสายเรียกเข้าโดยอ้างเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่จะสามารถช่วยเหลือ แต่จนถึงที่สุดแล้ว […]

1 70 71 72 721
error: