ทั่วไป

29 พ.ย.2565 ในโลกออนไลน์มีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวจาก พ่อค้ามือถือรายหนึ่ง หลังจากที่เสียรู้ให้ โจรหวังดี พ่อค้ารายดังกล่าว ได้นำแช็ตที่คุยโจรหวังดีมาให้ชาวเน็ตได้ดูพฤติกรรม โดยถามไปว่า ไหนน้องบอกมีเครื่อง พี่โอนเงินไป 7 วันแล้วยังไม่ส่งเลขมาเลย มิจฉาชีพออนไลน์รายนี้ ตอบกลับมาว่า ก็มีเครื่องไงคะ แต่ไม่คิดจะขาย แค่จะหลอกไงคะ ต้องให้บอกด้วยเหรอ พ่อค้ารายนี้ยังใจเย็น ถามกลับไปว่า น้องโกงพี่เรียบร้อยใช่มั้ย มิจฉาชีพรายนี้ตอบกลับแบบตรงๆว่า ใช่ค่ะ พ่อค้าถามย้ำกลับไป ไม่ได้ล้อเล่นอะไรใช่มั้ย ก่อนที่มิจฉาชีพจะพิมพ์ตอบกลับมาอย่างย่ามใจไม่เกรงกลัวความผิดว่า พี่จะดำเนินคดีอะไรก็ได้เลยค่ะ เพราะพี่เป็นคนมาซื้อเอง หนูไม่ได้บังคับ บอกด้วยว่าไม่ผ่านแอด โจรหวังดีก็มีนะคะ ถ้าคนอื่นเขาบล็อกตั้งแต่ได้ตังค์แล้ว อยากบอกไงจะได้ไม่โดนอีก พ่อค้าตอบข้อร้องว่า อย่าทำเลย พี่หาเช้ากินค่ำ มิจฉาชีพรายนี้ ตอบกลับให้เจ็บใจว่า พี่ก็รู้อยู่ แต่มาซื้อทำไมแบบนี้คะ   ข่าวจาก : ข่าวสด

หลังจากตกเป็นประเด็นที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์บนสังคมออนไลน์ สำหรับเรื่อง “เนื้อวัวฉีดไขมัน” ที่มีผู้นำมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กรวมทั้งตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในการบริโภค ล่าสุด รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับประเด็นนี้ผ่านเฟซบุ๊กดังนี้ “เนื้อวัวฉีดไขมัน มีจริงนะ แต่ไม่ได้อันตราย” มีคำถามจากทางบ้าน ว่าจริงหรือเปล่า ตามที่โพสต์หนึ่งพูดถึง “เนื้อฉีดไขมัน” โดยที่พูดในทำนองที่ว่า เป็นเนื้อที่มีต้นทุนถูก และคนมักจะแยกไม่ออก มีกลิ่นออกสารเคมี และกังวลเกี่ยวกับสารอื่นๆ ที่น่าจะฉีดเข้ามาด้วย !? …. คำตอบคือ เนื้อฉีดไขมัน มีจริงนะ แต่ราคาก็ไม่ได้ถูก ไม่ใช่ว่าคนไทยเราลักลอบทำกันเอง แต่มันเป็นเนื้อนำเข้า ซึ่งก็ปลอดภัยต่อการบริโภค เพียงแต่ว่าร้านค้าควรจะชี้แจงกับลูกค้าด้วยว่า มันเป็นเนื้อฉีดไขมัน (ไม่ใช่ว่าไม่บอกอะไร แล้วทำให้นึกว่าเป็นเนื้อวัวมีลาย ราคาแพง) เนื้อฉีดไขมันนี้ เป็นเทคนิคที่เรียกว่า “artificial marbling” หรือการทำลายหินอ่อนเทียมในเนื้อวัว ด้วยการฉีดไขมันสัตว์ หรือน้ำมันพืชเข้าไปในเนื้อที่ไม่ค่อยมีมัน เพราะทำให้ดูเหมือนมีลายเนื้อสวยๆ น่ากิน และช่วยให้เนื้อนั้นไม่แห้งเกินไปหรือสูญเสียรสชาติไประหว่างที่เอาไปแช่แข็งและเอาไปทำอาหาร สำหรับไขมันที่เอามาฉีดนั้น ก็มีทั้งไขมันสัตว์แบบก้อนแข็ง ที่ผ่านการให้ความร้อนเพื่อให้หลอมเหลวก่อนที่จะเอาไปฉีด หรือใช้ไขมันสัตว์ผสมกับน้ำมันพืช หรือไขมันสัตว์ผสมกับตัวอีมัลซิไฟเออร์ (เพื่อให้เข้ากันได้ดีกับน้ำในเนื้อ) หรือใช้ผงไขมันที่เป็น conjugated […]

28 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมงานสัมมนาและนิทรรศการ Thailand 4.0 ประเทศไทยไปไกลกว่าที่คิด ว่ามาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 ที่จะมอบให้กับประชาชน กระทรวงดีอีเอสได้เสนอไปแล้วหลายเรื่อง และความชัดเจนคือการสร้างระบบแจ้งเตือนประชาชนในเรื่องภัยออนไลน์รูปแบบต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยร่วมกับธนาคารกรุงไทย ยังมีมาตรการของขวัญอื่นๆ เช่น การใช้อินเตอร์เน็ตฟรี ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) การส่งไปรษณีย์ราคาถูก หรืออาจมีการให้บริการด้านอื่นๆ ที่มีราคาถูกลง เป็นต้น มาตรการต่างๆ จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 29 พฤศจิกายน นายชัยวุฒิกล่าวด้วยว่า สำหรับแผนการดำเนินงานของกระทรวงดีอีเอสปี 2566 ได้ปรับแผนการทำงานเป็นระยะ 3 ครอบคลุมการทำงาน 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2566-2570 จะพัฒนาการทำงานจากไทยแลนด์ 4.0 เป็นสมาร์ทไทยแลนด์ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพ สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในทุกแขนง อาทิ สมาร์ทซิตี้ สมาร์ทฟาร์ม สมาร์ทโกเวอร์เมนต์ […]

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “ช่วยแชร์ไปเยอะๆ โรงพยาบาลลืมผ้าก๊อซไว้ในช่องคลอด เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 น้องสาวได้ไปคลอดที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดขอนแก่น ปรากฏว่าผ่านมาเกือบสองเดือน น้องสาวมีอาการปวดท้องรุนแรงและเป็นไข้ เวลาเข้าห้องน้ำก็จะมีเหมือนก้อนอะไรบางอย่างหลุดออกมาตรงปากช่องคลอด พอจับดูรู้สึกว่ามันเป็นก้อนแข็งๆ ผิดปกติ จึงให้แฟนเอาไปส่องดูให้ ปรากฏว่าด้านในที่เห็นนั้นเป็นผ้าก๊อซที่ทางโรงพยาบาลลืมเอาไว้ ตอนนี้ได้กลับไปที่โรงพยาบาล เพื่อให้โรงพยาบาลเอาผ้าก๊อซก้อนนั้นออกให้ และหลังจากที่เอาออก มีผู้ใหญ่มาคุยและบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบในเชิงว่าเอาผ้าก๊อซปิดเลือดไว้เพื่อช่วยชีวิต ฝากช่วยกันแชร์เยอะเยอะให้ได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้ด้วยค่ะ” ทางด้านของ น.ส.รุ่งนภาพร พี่สาวของผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.65 ที่ผ่านมา น้องสาวของตนได้ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น และเมื่อกลับมาที่บ้านก็ใช้ชีวิตปกติ กระทุ่งศุกร์ที่ผ่านมา น้องสาวมีไข้สูง ปวดท้องรุนแรง ตรวจดูที่ท้องน้อย ตรงมดลูก พบว่ามีก้อนบางอย่างโผล่ออกมา แต่ไม่สามารถหลุดออกมาได้ จับดูเป็นก้อนแข็งๆ น้องสาวจึงให้สามีดูให้ ซึ่งสามีน้องบอกว่าเป็นผ้าก๊อซ จึงได้ถ่ายรูปไว้ และพามาส่งโรงพยาบาลขอนแก่น โดยหมอได้นำผ้าก๊อซออกให้ ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องให้ยาฆ่าเชื้ออีก 2 วัน จึงกลับบ้านได้ น.ส.รุ่งนภาพร ยังบอกอีกว่า หลังเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ได้พูดคุยกันในครอบครัวถึงการเยียวยาชดใช้ โดยทางโรงพยาบาลบอกว่า […]

23 พฤศจิกายน 2565 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า โซเชียลมีเดียของจีนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เดือด หลังจากแม่ชีรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอตัดสินใจขายบ้านมูลค่า 5.88 ล้านหยวน หรือกว่า 29 ล้านบาท และบริจาคเงินทั้งหมดให้กับการกุศล โดยไม่เหลือเงินสักเหรียญมาช่วยเหลือลูกสาวที่กำลังลำบาก จนต้องกลายเป็นหนี้เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัย เรื่องดังกล่าวกลายมาเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ หลังชาวเน็ตรายหนึ่งได้ไปสัมภาษณ์แม่ชีบนถนนในเมืองเซี่ยงไฮ้ ก่อนจะนำคลิปมาเผยแพร่ลงอินเทอร์เน็ต โดยแม่ชีที่ไม่เผยชื่อ เล่าว่าเธอเพิ่งจะเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธเมื่อปี 2562 และตัดสินใจสละทรัพย์สมบัติของตัวเองไป “หลังมาเป็นชี ฉันก็ขายบ้านและบริจาคเงินทั้งหมดโดยไม่เหลือไว้ให้พ่อแม่หรือลูกสาวเลยสักสตางค์เดียว” แม่ชี กล่าว แม่ชียอมรับว่า ในขณะที่พ่อแม่ของเธอยังมองโลกด้านบวก โดยบอกว่านั่นเป็นเงินของเธอ เธอจะใช้จ่ายยังไงก็เรื่องของเธอ แต่ดูเหมือนลูกสาวจะไม่เข้าใจการตัดสินใจนี้ และตอนนี้ลูกสาวก็ต้องไปยืมเงินกู้เพื่อการศึกษา มาเพื่อจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง “เธอบอกว่าหลังเรียนจบมหาวิทยาลัย ก็จะไปทดสอบเอาใบรับรองคุณวุฒิบางอย่าง หลายปีหลังจากนั้นอาจจะแต่งงานหรือซื้ออพาร์ตเมนต์ ก็เลยหวังว่าแม่จะช่วยเหลือเธอเรื่องการเงินบ้าง” แม่ชี เผย ทั้งนี้ แม่ชียอมรับว่าทางครอบครัวยังติดใจสงสัยเรื่องที่เธอเปลี่ยนศาสนา และไม่สนับสนุนการตัดสินใจสละทรัพย์สินเช่นนี้ แต่เธอมองว่าพวกเขายังเป็นฆราวาส จึงยังอาจจะมีความสงสัยในใจ เมื่อถามถึงสถานที่ที่เธอใช้ชีวิตอยู่ตอนนี้ แม่ชีเผยว่าเป็น “มุมลึกในป่า”   ข่าวจาก : kapook

28 พ.ย.65 จากสถานการณ์โควิดที่เหมือนว่าจะเริ่มคลี่คลาย เพราะพบผู้ติดเชื้อลดลง แต่ทว่าระยะหลัง กลับพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีคนเสียชีวิตในบ้านอีกหลายราย ล่าสุด ‘เส้นด้าย’ ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดเศร้าของสามี-ภรรยาสูงอายุคู่หนึ่ง ที่ฝ่ายชายเพิ่งเสียชีวิต ส่วนฝ่ายหญิงก็เริ่มติดโควิด ต้องอยู่ลำพังคนเดียว โดยระบุว่า จากนี้ ก็จะเหลือแค่ตัวคนเดียวแล้วสินะ… โควิดยังสร้างความสูญเสียอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของสองสามีภรรยา ผู้ที่เสียชีวิตคือคุณลุงสามีที่มีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คุณลุงได้เสียชีวิตตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่วนคุณป้าประเสริฐที่เป็นภรรยานั้น เพิ่งจะติดโควิด คุณป้าประเสริฐ อายุประมาณ 59 ปี การสื่อสารระหว่างเราค่อนข้างมีอุปสรรค เนื่องจากคุณป้ามีโรคเส้นเลือดในสมอง ความดัน ไขมันในเลือด และโลหิตจาง ทำให้ส่งผลกระทบกับการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน ตลอดเวลาที่ต่อสู้กับโรคเหล่านี้มาเป็นแรมปี… ข้างกายคุณป้าจะมีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา โดยคุณลุงรปภ.ผู้แสนดีคนนี้ จะเป็นคนทำงานทั้งนอกและในบ้านดูแลคุณป้าประเสริฐตลอดมา เมื่อโควิดมาพรากคุณลุงจากคุณป้าไป…ความโศกเศร้าเหลือคณานับจึงเกิดขึ้น เพื่อนบ้านของทั้งสองคนเล่าให้เส้นด้ายฟังว่า วันสองวันก่อนยังเห็นคุณลุงเดินไปไหนมาไหน ใช้ชีวิตอย่างปกติ ไม่มีอาการป่วยอะไร ซึ่งสอดคล้องกับที่คุณป้าพยายามสื่อสารกับเราว่า ไม่ทราบเลยว่าคุณลุงติดโควิด เพราะคุณลุงไม่มีอาการอะไรบ่งชี้เลย จนกระทั่งวันที่เสียชีวิต #เส้นด้าย จึงได้แต่ปลอบโยนให้กำลังใจคุณป้านำยารักษาตามอาการเบื้องต้นไปให้และให้คำแนะนำในการรับประทานยาและสังเกตอาการตัวเอง “หากมีอะไรให้โทรหาเราได้ตลอดเวลา” เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และขอเป็นกำลังใจให้คุณป้าประเสริฐในวันที่คุณลุงไม่อยู่แล้ว….   ข่าวจาก : ข่าวสด

28 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นางจันทกร ศรีวิชัย อายุ 54 ปี แม่ของน้องแมงปอ วัย 14 ปี ซึ่งเคยเป็นข่าวโด่งดัง ไลฟ์ขายของเพื่อหาเงินดูแลลูกสาวที่พิการมา 14 ปี ล่าสุดทราบว่า นางจันทกร โดนสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง จนถึงกับร้องไห้กลางไลฟ์ เบื้องต้นทราบว่า แม่ของน้องแมงปอ ถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 5 ปี รวมแล้วเป็นเงินหลักล้านบาท ทำให้เจ้าตัวถึงกับเครียด ไม่รู้จะหาทางออกยัง เพราะไม่มีเงินที่จะจ่ายภาษี ลำพังดูแลลูกสาวต่อเดือนก็หลายหมื่นบาท ล่าสุด แม่น้องแมงปอ ได้โพสต์คลิปลงในติ๊กต็อก พร้อมระบุข้อความว่า “เป็นพลเมืองที่ดีต้องเสียภาษีนะคะแม่ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจแม่ ช่วยอุดหนุนสินค้าแม่ด้วยนะคะ” จากนั้นก็มีคนเข้าไปให้กำลังใจจำนวนมาก   ข่าวจาก : ข่าวสด