ทั่วไป

Advertisement เฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า ที่ ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เกิดเหตุมีพระภิกษุรูปหนึ่งออกอาการพิรุธ ถามหาหญิงสาว ชาวบ้านสงสัยจึงเรียกเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ พบว่า เป็นพระภิกษุจริง อายุ 33 ปี บวชมาแล้ว 7 พรรษา โดยเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ Advertisement ตอนแรก พระอ้างว่าจะมาหาหญิงสาวซึ่งเป็นลูกผู้ใหญ่บ้านพื้นที่ดังกล่าว เพื่อทวงถามเรื่องเงินที่โอนให้ แต่เมื่อคุยไปคุยมา จึงยอมรับว่า คุยกับหญิงสาวคนดังกล่าวแล้วหลงรัก เคยวิดีโอคอลเพื่อช่วยตัวเองกับหญิงคนดังกล่าวด้วย และหลังออกพรรษาแอบนำเงินกฐินส่วนหนึ่งโอนให้หญิงสาวนับแสนบาท จนสุดท้าย พระตัดสินใจเดินทางมาหาหญิงสาวคนนี้ จึงนั่งเครื่องบินจากเชียงใหม่มาที่กรุงเทพฯ แวะไปที่บ้านเพื่อนที่ จ.นนทบุรี แล้วนั่งแท็กซี่มาส่งที่ จ.สุพรรณบุรี Advertisement ต่อมามีการนำพระรูปดังกล่าวไปหาพระครูศรีสุตาคม เจ้าอาวาสวัดกำมะเชียร เจ้าคณะอำเภอเดิมบางนางบวช พร้อมถามความสมัครใจในการสึก อย่างไรก็ตาม พระรูปดังกล่าวขอโอกาสกลับไปลาสิกขาที่ จ.เชียงใหม่ ดังนั้น พระครูศรีสุตาคมจึงถ่ายหนังสือใบรับรองการเป็นพระไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามว่า พระรูปดังกล่าวลาสิกขาตามที่กล่าวไว้หรือไม่ ข่าวจาก : kapook

27 พ.ย. 2565 – แฟนเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้รับการร้องเรียนจากลูกเพจรายหนึ่งว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 พ.ย. ขณะที่เธอขับรถตรงอุโมงค์ลอดแยกกรุงเทพกรีฑา มุ่งหน้ารามคำแหง จู่ ๆ ได้มีวัตถุคล้ายจานดิสเบรกจักรยานยนต์ พุ่งมาใส่กระจกหน้ารถของเธอ และทะลุเข้ามาถึงภายในรถ อย่างไรก็ตามเธอระบุว่าโชคดีมาก ที่วัตถุเหล็กดังกล่าวที่พุ่งทะลุกระจกรถมานั้น ไม่โดนตัวเธอแต่อย่างใด ทว่าก็ทำให้รถได้รับความเสียหายพอควร ผู้เสียหายระบุเพิ่มว่า เธอได้เข้าแจ้งความแล้ว อยู่ระหว่างกำลังหากล้องวงจรปิด และเบาะแสว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร ขณะที่ในคอมเมนต์หลายคนต่างตกใจกับเคสดังกล่าว โดยมีคอมเมนต์หลายคน แสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า วัตถุดังกล่าว น่าจะหล่นจากรถรับซื้อของเก่า หรือเศษเหล็ก   ข่าวจาก : ข่าวสด

เจ้าของกระทู้ อธิบายรายละเอียดพฤติกรรมของ “เพื่อนบ้าน” โดยระบุว่า ซื้อบ้านมา 9 ปีกว่า ซื้อมาในราคา 1.09 ล้านบาท มีการต่อเติมติดแอร์ ปูกระเบื้องใหม่ครั้งแรกประกาศขาย 1.50 บาท หลังจากนั้น “เพื่อนบ้าน” ที่อาศัยข้างบ้านมาขอซื้อบอกราคาแพงให้แค่ 1.00 ล้านบาท เจ้าของกระทู้ไม่ได้ตอบอะไรกลับ และไมได้ขายให้แก่ “เพื่อนบ้าน” หลังจากนั้นข้างบ้านยังบอกให้เจ้าของกระทู้เอากุญแจฝากไว้ที่เขา เวลาคนมาขอดูบ้านจะได้สะดวก แต่เจ้าของกระทู้ไม่ได้ทำตาม เจ้าของกระทู้เล่าต่อว่า หลังจากนั้นมีคนมาซื้อบ้านในราคา 1.40 ล้านบาท จึงตัดสินใจขายให้ แต่เจ้าของบ้านมารู้ความจริงทีหลังว่า “เพื่อนบ้าน” ไปบอกกับคนซื้อว่าเธอขายบ้านแพง เพราะตอนที่ซื้อมาครั้งแรกเพียงแค่ 1.09 ล้านบาท แถมอยู่มา 9 ปี ต้องมีค่าเสื่อมบ้าน หลังจากนั้นคนซื้อบ้านกู้เงินธนาคารได้ 1.59 ล้านบาทจึงได้รีบโอนซื้อขายทันที เธอมารู้ความจริงทีหลังว่า “เพื่อนบ้าน” เล่าให้รายละเอียดให้ฟังแทบอยากจะด่ามาก แต่สุดท้ายเธอก็สามารถซื้อขายบ้านได้สำเร็จ หลังจากที่เรื่องราวสุดแสบของ “เพื่อนบ้าน” ถูกแชร์ออกไปก็พบว่ามีสมาชิกพันทิปเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมกับบอกว่าเพื่อนบ้านแบบนี้มีทุกที่ ถือว่าเป็นโชคดีแล้วที่ได้ย้ายออกมา และส่งต่อ “เพื่อนบ้าน” แบบนี้ให้กับเจ้าของบ้านคนใหม่ […]

ผู้สื่อข่าวติดตามการตรวจหาหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการรวมควันฆ่าตัวตายในรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ 4 ประตูสีขาว ซึ่งรถจอดอยู่ริมถนนมะลิวัลย์ขาเข้า ใกล้บึงสีฐาน มข. ภายในรถพบศพ นายภาณุเมศวร์ อายุ 27 ปี ชาว จ.อุดรธานี และเป็นวิศวกรที่เทศบาลตำบลนากลาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งในเบื้องต้น ญาติพี่น้องไม่ติดใจการตาย แต่เชื่อว่าที่นายภาณุเมศวร์รมควันฆ่าตัวตายนั้น เกิดจากการทำงานในเทศบาลที่คนตายเป็นวิศวกรดูแลการก่อสร้างถนน แล้วไม่ยอมทำตามคำสั่ง จนเกิดความขัดแย้ง จนต้องตัดสินใจฆ่าตัวตายหนีปัญหา ซึ่งญาติได้รับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลเรียบร้อยแล้ว ด้านพ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวภายหลังการตรวจสอบในรถยนต์ขอคนตาย และในกระเป๋าสะพายของผู้ตายที่วางอยู่ในรถ ว่า การตรวจค้นในรถยนต์นั้น ญาติพี่น้องของคนตายก็อยู่ด้วย ซึ่งจากการตรวจค้นอย่างละเอียดก็พบจดหมายที่เขียนด้วยปากกาบนกระดาษเอ 4 จำนวน 3 แผ่น พับรวมใส่กันไว้ในกระเป๋าสะพาย ผกก.กล่าวอีกว่า ในจดหมายที่พบ เนื้อหาจะเป็นการเปิดโปงการบริหารงานในที่ทำงานที่คนตายทำงานอยู่ ซึ่งญาติไม่ติดใจการตาย และไม่สงสัยว่าถูกฆาตกรรม เพราะร่างกายไม่มีบาดแผล และไม่มีเรื่องทะเลาะหรือทำร้ายร่างกายกับใคร จึงรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ส่วนที่ว่าเมื่อญาติอ่านจดหมายแล้ว จะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ก็เป็นสิทธิของญาติ แต่ญาติยืนยันว่า จดหมายดังกล่าวเป็นลายมือของคนตาย จากจดหมายที่พบแผ่นแรกเขียนว่า […]

ไรเดอร์ส่งอาหารสมัยนี้ นอกจากจะต้องแข่งขันกันแล้ว ยังต้องมาลุ้นลูกค้าอีกว่าจะรับของที่สั่งมั้ย บางคนโดนเท ต้องควักเงินจ่ายเอง รายได้ยิ่งน้อยยังมาเจอแบบนี้อีก เหมือนวันนั้นวิ่งฟรีไปเลย ล่าสุด วันที่ 27 พ.ย.65 สมาชิก TikTok @sikawat5 ได้โพสต์คลิปกลุ่มไรเดอร์ 3 คน ถูกลูกค้าหลอกสั่งอาหารแล้วไม่ยอมรับสาย ซึ่งออเดอร์แต่ละคนเกือบพันบาท เกือบจะต้องเสียเงินเอง สุดท้ายเจอคนใจดีเหมา โดยในคลิประบุว่า “เมื่อไรเดอร์โดนแกล้งให้มาส่งอาหาร 3 คัน ออเดอร์ละเกือบพันแล้วเท” ซึ่งไรเดอร์รายแรกบอกว่า ลูกค้าสั่งกล้วยไว้ ราคาเกือบ 800 บาท ไรเดอร์คนที่สองบอกว่าลูกค้าสั่งกระเพราหน่อไม้ คนที่สามสั่งยำ โดยคนสั่งคนเดียวกัน และให้มาส่งที่เดียวกัน แถมโทรติดต่อก็ไม่ได้ จากนั้นแม่ของผู้โพสต์ เกิดสงสารจึงได้ออกมาดู แล้วเหมาสินค้าไรเดอร์ทั้ง 3 คน โดยในพนักงานที่ร้านออกมาช่วยกันเลือก ทำให้ไรเดอร์รู้สึกยินดีกับการช่วยเหลือในครั้งนี้ @sikawat5 #fypシ #fyp ♬ original sound – Sikawat5 ข่าวจาก : ข่าวสด

จากกรณี นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี เปิดเพจ ‘สู้ดิวะ’ เราเรื่องราวของตัวเอง หลังตรวจพบมะเร็งปอด ทั้งที่ร่างกายแข้งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กระทั่งเริ่มไอ พอตรวจปอดพบเหลือแค่ข้างเดียว ล่าสุด วันที่ 27 พ.ย.65 นพ.กฤตไท ได้โพสต์อัพเดทความคืบหน้าการรักษาตัว โดยระบุว่า สวัสดีครับทุกคน ผมสบายดีครับ ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้แทบจะปกติครับ ผมเพิ่งรับเคมีบำบัดครั้งที่สาม มาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาครับ รอบนี้เพลียมากๆเลยครับ ง่วงทั้งวัน ตื่นมากินข้าวแล้วก็หลับต่อ เรียกได้ว่านอนจนจะเป็นแผลกดทับครับ วันนี้มีแรงมากขึ้นแล้วครับ ออกมาทานข้าวนอกบ้าน อยากไปออกกำลังกายแล้ว แต่ฝุ่นเชียงใหม่ก็เริ่มน่ากลัวเกินกว่าจะเอาปอดไปเสี่ยง ไม่อยากจะคิดถึงฝุ่นช่วงพีคเลย คงต้องเก็บตัวอยู่ในห้องไม่ก็ย้ายจังหวัดชั่วคราว แต่เอาจริงช่วงพีคนี่ย้ายไปจังหวัดไหนก็คงพอกัน ยังไงก็ตามครับ ช่วงก่อนที่จะรับยารอบสามนี้ มีเรื่องสนุกเกิดขึ้นครับ ต้องบอกว่าตัวผมเองปกติแล้วออกกำลังกายหนักถึงหนักมากครับ แต่พอมาเข้ารับการรักษาในช่วงเดือนแรก ลำพังแค่ยืนให้ตรงก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว เพราะงั้นการออกกำลังกายจึงไม่ได้ทำเลยครับ วันๆก็กินกับนอน บวกกับช่วงแรกเป็นช่วงประชดชีวิต อะไรที่เคยไม่กิน เราก็กินหมดเลย ของทอด ของมัน หมูกรอบ สามชั้นขนมเค้ก น้ำหวาน เรียบร้อยครับ ไขมันสูง […]

แฟนเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2” ได้เผยแพร่คลิปน้ำประปาขุ่นเป็นสีน้ำตาล หลังจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามา โดยระบุข้อความว่า “#ทุกข์ชาวบ้าน #ผู้บริโภคร้องเรียน นิติไม่จ่ายค่าน้ำ คนอาศัยซวยใครจะรับผิดชอบ สื่อสังคมช่วยชาวบ้านด้วย สวัสดีค่ะ เราพักที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านบางแคค่ะ ตอนนี้มีปัญหาเรื่องสาธารณูปโภคของคอนโด นิติของคอนโดไม่ไปจ่ายค่าน้ำ มิเตอร์น้ำถูกถอด ปัญหาครั้งแรกน้ำไม่ไหล พอเช้ามาน้ำดำมาก แล้วมาเมื่อคืนกลิ่นน้ำมันออกจากน้ำใช้ของทุกห้อง ทางเราอยากให้นักข่าวลงมาตรวจสอบได้ไหมคะต้องทำยังไง ตอนนี้เขาก็ใช้แบบเอาสายยางดูดน้ำจากตึกอื่นมาใช้อีกตึกนึง (ภาพท้ายคลิป) ปัญหาของที่พักอาศัยเป็นแบบนี้แล้วจะอยู่กันยังไงตอนนี้เราเดือดร้อนมากน้ำใช้ไม่ได้ค่ะ เป็นทั้งตึกเลยนะคะเกือบ 200 ห้อง สามารถ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ค่ะ”   ข่าวจาก : ข่าวสด

27 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากเฟซบุ๊กชื่อ ‘Saichon Jongsamak’ ขอผู้ใจบุญที่มีเครื่องช่วยหายใจเก่าเพื่อนำมาใช้กับลูกสาววัย 4 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Spinal Muscular Atrophy : SMA) ขั้นรุนแรง จากการตรวจสอบผู้ร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าวคือ น.ส.สายชล จงสมัคร หรือน้ำ อายุ 22 ปี ชาว ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ น.ส.สายชลกล่าวว่า ตนได้แยกทางกับสามีเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นลูกสาวคือ ด.ญ.โชติกา หรือน้องเบเน่ อายุได้ประมาณ 6 เดือน ลูกสาวเริ่มมีอาการผิดปกติตอนอายุได้ 11 เดือน คือมีอาการอ่อนแรง ไม่ตั้งไข่เหมือนเด็กทั่วไป ต่อมาตนได้ออกไปทำงานที่กทม. แล้วส่งเงินมาให้ตากับยายที่ช่วยเลี้ยงลูกสาว โดย 2-3 เดือนจึงจะกลับมาเยี่ยมลูกสาว เมื่อลูกอายุได้ 2 ปี อาการเริ่มชัดขึ้น เพราะไม่เดิน จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ กระทั่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา […]

กรณีตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เข้าตรวจสอบเหตุ วิศวกรหนุ่ม อายุ 27 ปี ชาวอุดรธานี ทำงานเป็นวิศวกรที่เทศบาลแห่งหนึ่ง ที่ จ.หนองบัวลำภู ขับรถกระบะ 4 ประตู สีขาว ข้ามจังหวัด มาจอดรมควันฆ่าตัวตายริมถนนมะลิวัลย์ อ.เมืองขอนแก่น เบื้องต้นญาติเชื่อว่า อาจเกิดจากถูกกดดันในการทำงาน ที่ทำหน้าที่เป็นวิศวกรดูแลการก่อสร้างถนน ล่าสุด พันตำรวจเอก ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น เผยว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ตาย พบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ บนกระดาษเอ 4 จำนวน 3 แผ่น อยู่ในกระเป๋าสะพาย มีเนื้อหาแฉระบบการทำงานในเทศบาล ที่กดดันให้ตัวผู้ตายที่เป็นวิศวกรคุมงาน ต้องทุจริตตามน้ำ บังคับให้เรียกรับค่าตรวจรับงานจากผู้รับจ้าง ทั้ง ๆ ที่เห็นอยู่ว่า งานก่อสร้างถนนมีสภาพแตกร้าวไม่ได้มาตรฐาน ผู้ตายเริ่มทำงาน 1 มิถุนายน 2565 ถูกกดดันจนตัดสินใจลาออกวันที่ 31 ตุลาคม แต่มีผลในวันที่ 1 ธันวาคม โดยยังมีงานไม่ตรวจรับอีก […]