นายกฯ แจงศึกษามาแล้ว แบ่งจ่ายเงินเดือน2รอบ หวังเอกชนนำไปใช้ด้วย มีแต่เสมอตัวกับดีขึ้น

Advertisement นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงถึงมติคณะรัฐมนตรีถึงกรณีการแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการเป็น 2 รอบ ว่า ปัจจุบันการจ่ายเงินเดือนเงินเดือน เดือนละหนแต่การแบ่งจ่าย 2 หนเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ สำหรับคนที่มีหนี้สินสามารถชำระหนี้สินคืนได้เร็วขึ้น ส่วนคนที่เป็นหนี้ สามารถแบ่งจ่ายเป็น 2 งวดได้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีปัญหากระแสเงินสดอย่างที่บางคนอ้าง เพราะการจ่ายจะเร็วขึ้น เราจ่ายตั้งแต่วันที่ 15 จ่ายทุกครึ่งเดือนและจ่ายปลายเดือน คนที่มีหนี้สามารถนำเงินไปใช้ทำอย่างอื่นทั้งลงทุนและฝากธนาคารได้ ทำไว้ให้เป็นทางเลือก จัดแบ่งจ่าย 2 หนหรือจ่ายหนเดียวก็ได้ Advertisement “มันมีแต่เสมอตัวกับดีขึ้นผมเข้าใจว่า การที่เราเสนอทางเลือกใหม่มีคนชอบและมีคนไม่ชอบแต่ว่ารัฐบาลบริหารจัดการประเทศโดยมีขีดงบประมาณจำกัดเราคำนึงถึงทุกๆมิติของการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรที่ไม่เป็นภาระงบประมาณ เพราะตรงนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เป็นแค่โปรแกรมใหม่ในการจ่ายเงินเมื่อไหร่อย่างไร ตรงนี้คำนึงถึงวินัยการเงินการคลังด้วยเหมือนกัน ถ้าคุณไม่ชอบคุณก็เอาแบบเก่า ถ้าคุณอยากได้จ่าย 2 หนก็สามารถทำได้” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่ามีหลายท่านข้าราชการชั้นผู้น้อยที่เพิ่งเข้ามา อาจมีภาระทางด้านการเงินจะต้องมีการแบ่งจ่ายชักหน้าไม่ถึงหลัง กรมบัญชีกลางจะทำเป็นตัวเลือกให้เลือก ว่าจะเลือกแบบใด ขอให้ทุกคนใจเย็น ยืนยันว่ามีการหารือในทุกระดับและหวังว่าหลายบริษัท จะลองนำวิธีนี้ไปเป็นทางเลือก ขอใช้คำว่าทางเรื่องนี้เป็นทางเลือกที่ดี Advertisement ส่วนเรื่องจ่ายหนี้ครูก็สามารถแบ่งจ่าย 2 งวดได้ สามารถพูดคุยกับสถาบันการเงินได้ เพราะสถาบันการเงินต้องการแค่หนี้คืน จะแบ่งจ่ายยังไงทุกคนทราบดีว่าพี่น้องประชาชนประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจด้านกระแสเงินสด เราคิดมาให้ทำมาให้ ส่วนเรื่องผลตอบแทนที่สูงขึ้น […]

“เพิ่มพูน” ประเดิม รมว.ศธ. ประกาศนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” เล็งแจกแท็บเล็ต

14 กันยายน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมมอบนโยบายการศึกษา และแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ตนมีนโยบายลดภาระนักเรียน และผู้ปกครอง โดยให้เด็กเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เรียนฟรี มีงานทำ และยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีระบบหรือแพลตฟร์อมการเรียนรู้ โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (1 นักเรียน 1 Tablet) พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวต่อว่า นโยบายอุปกรณ์การเรียน ต้องยอมรับว่าผู้มีโอกาสก็จะมีสื่อการเรียนการสอน แต่ผู้ด้อยโอกาส อาจจะไม่มี ดังนั้น เพื่อความเท่าเทียมเสมอภาคทางการศึกษาเราต้องจัดหาแท็บเล็ต ส่วนการดำเนินการ ต้องมาศึกษาและดูงบประมาณในการดำเนินการ โดยดูว่า สามารถชื้อได้หรือไม่ ถ้าซื้อไม่ได้อาจจะเช่า หรือ ยืม โดยทำอย่างไรให้ทั่วถึง แต่อยู่บนพื้นฐานว่าสื่อการเรียนการสอนต้องมีก่อน สามารถเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนได้ทุกที่ ทั้งนี้เราจะยึดผู้เรียนเป็นศุนย์กลางในการขับเคลื่อนและดำเนินการ   ข่าวจาก : มติชน

รัฐสภาประกาศระเบียบใหม่ ย้าย ขรก.ไปทำงานหน่วยงานอื่นได้ทั่วประเทศ

14 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการรัฐสภาสามัญโดยการให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ พ.ศ. 2566 ลงนามโดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในฐานะประธาน ก.ร. สำหรับสาระสำคัญของระเบียบดังกล่าวระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการรัฐสภาสามัญ โดยการให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ เพื่อให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญมีความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (3) และมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 ก.ร. จึงออกระเบียบไว้ มีสาระสำคัญ อาทิ ข้อ 4 หน่วยงานอื่นในประเทศที่จะให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญไปปฏิบัติงานตามระเบียบนี้ จะต้องมีองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์กับภารกิจของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ได้แก่ (1) ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้น ตามพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา หรือตามมติคณะรัฐมนตรี (2) ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา (3) องค์การระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย (4) หน่วยงานภาคเอกชนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและได้รับการจัดให้มีดัชนีราคาในตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่สุดหนึ่งร้อยอันดับแรก […]

องค์กรครู “ไม่เห็นด้วย” แบ่งจ่ายเงินเดือน2รอบ ชี้เกาไม่ถูกที่คัน กระทบทั้งระบบ

นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา เปิดเผยว่า กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนัดแรกว่า จะเปลี่ยนการจ่ายเงินข้าราชการจากเดือนละ 1 รอบ เป็น 2 รอบ เพื่อบรรเทาทุกข์ข้าราชการชั้นผู้น้อยพอสมควร และการจ่าย 2 รอบจะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินคาดว่าเริ่มได้วันที่ 1 มกราคม 2567 นั้น ตนไม่เห็นด้วย ข้าราชการทุกคนควรมีสิทธิ เสรีภาพที่จะได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน ไม่ใช่เป็นการแบ่งจ่าย 2 รอบ มองว่าเป็นการเอาปัญหาของข้าราชการบางคน มากระทบกับข้าราชการทุกคน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับภาพรวมทั้งระบบ “หากจ่ายเงินเดือน 2 รอบจริง มองว่าจะเป็นการสร้างภาระ สร้างความปั่นป่วนให้ข้าราชการอย่างมาก เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เกาไม่ถูกที่คัน เกาจนเป็นแผล” นายรัชชัยย์กล่าว นายรัชชัยย์กล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลสามารถช่วยเหลือข้าราชการทั้งระบบคือ เข้าไปคุยกับเจ้าหนี้ สถาบันการเงินต่างๆ ให้ลดดอกเบี้ย หรืออาจจะพักชำระหนี้ โดยการพักชำระหนี้นั้น จะต้องไม่คิดดอกเบี้ย เพราะที่ผ่านมา แม้จะบอกว่าช่วยเหลือโดยการพักชำระหนี้ แต่สถาบันการเงินก็ยังเก็บดอกเบี้ยอยู่ […]

อนุทิน เซ็นแบ่งงาน รมช.มหาดไทย “ทรงศักดิ์” ดู สถ. ให้ “ชาดา” คุมกรมที่ดิน “เกรีย” ดู ปภ.

13 กันยายน นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ลงนามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย มอบหมายอำนาจหน้าที่ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ภายหลังจากที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งและปฏิบัติราชการ สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมโยธาธิการและผังเมือง การประสานงานส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยตามกฎหมายการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกำกับดูแลการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งและปฏิบัติราชการ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกำกับดูแลการประปานครหลวง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งและปฏิบัติราชการ กรมการพัฒนาชุมชน กรมที่ดิน และกำกับดูแลการประปาส่วนภูมิภาค นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งและปฏิบัติราชการ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และกำกับดูแลองค์การตลาด และองค์การจัดการน้ำเสีย “สำหรับการมอบหมายอำนาจหน้าที่ในครั้งนี้ เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อขับเคลื่อนงานของกระทรวงมหาดไทยตามพันธกิจ “บำบัดทุกข์ […]

นายกฯ เอาจริง ตั้ง KPI กวาดล้างผู้มีอิทธิพล ขู่ “ผู้ว่าฯ-ผบก.-กอ.รมน.” ถ้าเอาไม่อยู่ ต้องรับผิดชอบ!

13 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นสพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ส่วยและปืนเถื่อนว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กวาดล้างผู้มีอิทธิพล สีดำ สีเทาทั้งหลาย เนื่องจากนายกฯระบุว่า ที่ผ่านมามีคำสั่งไปหลายรอบ แต่ไม่เคยได้ผลเป็นรูปธรรม รวมถึงการดำเนินการดังกล่าวจะถือเป็น KPI (ตัวชี้วัดผลการทำงาน) ของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจในจังหวัดนั้นๆ กอ.รมน. จังหวัด ด้วย “ท่าน (นายกรัฐมนตรี) บอกว่า ถ้าเอาเรื่องนี้ไม่อยู่ 3 ท่านนี้ต้องรับผิดชอบ ถ้าอยากจะรักษาตำแหน่งเอาไว้ต้องตอบสนองนโยบายนี้ ต้องให้ราบคาบรวดเร็ว รวมถึงยาเสพติดด้วย”   ข่าวจาก : มติชน

“ชัชชาติ” เตรียมตัด “เครื่องใน” ออกจากเมนูอาหารนักเรียนใน กทม. หลังเด็กท้องเสียหลายคน

9 ก.ย. 2566 – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ เปิดเผยถึงกรณีนักเรียนโรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ เขตบางเขน มีอาการท้องเสียพร้อมกันจำนวนมาก นายศานนท์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบมีนักเรียนมีอาการท้องเสีย ประมาณ 40 คน ต้องที่เข้ารับการรักษา และมี 8 คน มีภาวะขาดน้ำ ต้องแอดมิตให้น้ำเกลือในโรงพยาบาลก่อน โดยในช่วงเช้าแพทย์ได้วินิจฉัยพ้นขีดอันตรายแล้ว และ 7 จาก 8 ราย กลับบ้านได้แล้ว ส่วนผลการตรวจสอบอาหาร ยังคงต้องรอการตรวจจากห้องปฏิบัติการซึ่งจะทราบผลประมาณช่วงสัปดาห์หน้า แต่เบื้องต้นคาดว่าจะเกิดจากเมนูกวยจั๊บน้ำข้น ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นเครื่องใน ที่ทางโรงเรียนได้จัดให้นักเรียนรับประทานในช่วงเช้า พร้อมกับตรวจสอบตู้น้ำดื่มภายในโรงเรียนด้วย ทั้งนี้ ค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่อง กทม.จะเป็นผู้รับผิดชอบ นายชัชชาติ กล่าวว่า อาจต้องมีการทบทวนเมนูอาหารสำหรับเด็กใหม่ และจะต้องเลือกวัตถุดิบหรือเมนูที่เหมาะสมตามวัยของเด็ก เพราะเรื่องอาหารถือเป็นเรื่องสำคัญที่ กทม.ต้องดูแลและใส่ใจคุณภาพมากขึ้นด้วย มีคนคอมเมนต์ว่าเครื่องในไม่ควรให้เด็กกิน เพราะว่าเด็กบางคนไม่กินเครื่องใน บางทีทำความสะอาดไม่ได้ดีมาก ให้เน้นเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ […]

ปลัด สธ.เผย ค่าเสี่ยงภัยโควิด เบิกจ่ายในสังกัดแล้วเกือบ100% นอกสังกัดกำลังทยอยจ่าย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการเบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัย ‘โควิด-19’ ว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติค่าตอบแทนเสี่ยงภัยจากงบกลาง วงเงิน 2,995.95 ล้านบาท เพื่อเบิกจ่ายให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับโรค ‘โควิด-19’ ทั้งสายวิชาชีพและสายสนับสนุน ทั้งภายในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 – ครึ่งเดือนแรก ของมิถุนายน 2565 ว่า หลังจากได้รับการจัดสรรงบประมาณ กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งดำเนินการทำเรื่องเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2566 โดยผลการดำเนินการเบิกจ่ายถึงวันที่ 8 กันยายน 2566 พบว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขซึ่งได้รับการจัดสรรรวม 1,362.76 ล้านบาท แบ่งเป็น สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 1,362.53 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 1,359.01 ล้านบาท คิดเป็น 99.74% คงเหลือ 3.52 ล้านบาท คิดเป็น 0.26% และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน 2.3 แสนบาท เบิกจ่ายครบ 100% […]

“อนุทิน” ลั่น จากนี้กระทรวงมหาดไทย ต้องไร้เส้นสาย ไร้ขั้วการเมือง วัดกันที่ผลงาน

8 กันยายน 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พบปะกับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยในการประชุมขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ซึ่งนักข่าวได้สอบถามถึงนโยบายการล้างระบบเส้นสายในกระทรวง นายอนุทิน ตอบว่า คนที่ทำงานดี มีผลงาน ประชาชนชื่นชอบ คือ คนที่เส้นใหญ่จริง คนนั้นนับว่า ทำงานเข้าตาผู้บริหาร จากนี้ ในกระทรวงจะไม่มีขั้วนั้น ขั้วนี้ ช่วยกันไป ช่วยกันมา แต่จะวัดกันที่ผลงาน แน่นอนว่า เรื่องเส้นสาย มันต้องหมดไป อย่างลืมว่า หน้าที่ของเราคือการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชน ดังนั้น ใครที่มีหัวใจ อยากรับใช้ประชาชน มีฝีมือ ทำให้ประชาชนมีความสุขได้ ผู้บริหารจะให้ความเป็นธรรม ผลักดันให้ก้าวหน้า ส่วนคนที่ใช้วิธีเอาใจคนอื่น มองไม่เห็นประชาชน แล้วหวังว่าจะก้าวหน้า แบบนั้น ไม่เติบโต “สำหรับผม คนที่เส้นใหญ่คือคนที่ทำงานมีประสิทธิภาพ เก่ง ทุ่มเทเสียสละ รักพี่น้องประชาชน คนนี้แหละคือคนที่เส้นใหญ่จริงๆ และเป็นคนที่ผมต้องเคารพยำเกรง เพราะท่านดูแลนายของผมคือประชาชน […]

กรมการเด็กฯ ยืนยันข่าวดี “เงินอุดหนุนบุตร” พร้อมโอนเข้าบัญชี 18ก.ย.นี้แน่นอน

จากกรณีที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน ประกาศการเลื่อนจ่ายเงินตามโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด หรือ เงินอุดหนุนบุตรเดือนกันยายน 2566 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 ซึ่งเดิมต้องจ่ายภายในวันที่ 8 กันยายน 2566 ให้กับผู้มีสิทธิรายเดิมและรายใหม่ จำนวน 2,288,337 คน ทีมข่าวเกาะติดรายงานความคืบหน้า ล่าสุด เกี่ยวกับประเด็นร้อน “กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ออกมาอัปเดตการจ่ายเงินอุดหนุนบุตรเดือนกันยายน 2566 โดยระบุว่า การจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด เดือนกันยายน 2566 พม.สามารถจ่ายเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิภายในวันที่ 18 กันยายน2566 ก่อนหน้านี้ นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยถึงการเลื่อนจ่ายเงินตามโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดสำหรับเดือนกันยายน 2566 ว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ต้องขออภัยผู้มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนมา ณ โอกาสนี้ และขอยืนยันว่าจะเร่งเบิกจ่ายเงินอุดหนุนฯ ให้เร็วที่สุดภายในเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน นางอภิญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสาเหตุของการเลื่อนเบิกจ่ายเงินอุดหนุนฯ เดือนกันยายน 2566 นั้น เนื่องจากผู้มีสิทธิที่ได้ลงทะเบียนมีจำนวนมากเกินกว่าที่ประมาณการไว้ ทำให้งบประมาณปี […]

1 10 11 12 995
error: