เทคนิค…เลี้ยงสุนัขร็อตไวเลอร์ให้ขี้เล่น ทำได้ไม่ยาก





   ขึ้นชื่อว่าเป็นพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler) หลายๆ บ้านที่ได้ฟังอาจจะไม่ให้ความนิยมว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่สวยงามนัก แต่ความเป็นจริง ร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขที่มีโครงสร้างและกล้ามเนื้อสวยงาม และหากได้รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริงของสุนัขพันธุ์นี้แล้ว อาจจะจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่มีความฉลาดเฉลียว ฝึกอบรมได้ง่าย และมีความจงรักภักดีกับเจ้าของมากที่สุด

[ads]

   เพราะความพิเศษของเจ้าสุนัขพันธุ์นี้ในด้านของความจงรักภักดีกับเจ้าของ ผนวกไปถึงเรื่องของความขี้สงสัยและความอยากรู้อยากเห็นที่มีอยู่ในตัว ทำให้ดูเหมือนจะเป็นสุนัขที่ไม่อยู่นิ่ง ยิ่งด้วยใบหน้าที่ดูทะมึนด้วยแล้ว ยิ่งสร้างความรู้สึกให้ผู้เห็นเกรงขามและไม่กล้าเข้าใกล้ แต่เมื่อได้พูดคุยกับเจ้าของฟาร์มธารารัตน์ ซึ่งการันตีให้ฟังว่า สุนัขสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์นี้ เป็นสุนัขที่สามารถฝึกได้ และไม่ใช่สุนัขดุอย่างที่คิด

   คุณธารา เลี้ยงอำนวย เด็กหนุ่มวัย 26 ปี ก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของฟาร์มสุนัขร็อตไวเลอร์ ตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว คุณธารา เล่าให้ฟังว่า ชอบสุนัขมาตั้งแต่เด็ก คุณตาและคุณยายเลี้ยงสุนัขก็ช่วยเลี้ยง เริ่มแรกก็ชอบทุกสายพันธุ์ แต่เมื่อได้รู้จักสายพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ก็รู้สึกว่าใช่ เพราะเห็นความสง่างาม รูปลักษณ์บึกบึน มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดี น่าเกรงขาม จึงมีความคิดจะซื้อพ่อแม่พันธุ์ร็อตไวเลอร์มาเพาะขาย แต่ด้วยความเป็นเด็ก อายุยังไม่ถึง 20 ปี ครอบครัวจึงไม่อนุญาต กระทั่งคุณธารา เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี จึงเริ่มเก็บเงินอย่างจริงจัง และตัดสินใจซื้อแม่พันธุ์จากฟาร์มที่มีชื่อเสียงในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และโชคดีที่เจ้าของฟาร์ม ถ่ายทอดความรู้ในการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ให้อย่างหมดเปลือก ทั้งยังให้โอกาสผสมพ่อพันธุ์ โดยไม่คิดราคา

   ระยะแรกที่นำมาเลี้ยง ครอบครัวก็ยังไม่ถูกใจนัก แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเด็กหนุ่มอย่างคุณธารา แสดงให้ครอบครัวเห็นว่า การดูแลสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ และการทำฟาร์มสุนัข เมื่อมีความตั้งใจจริงก็สามารถทำได้ ทำให้ได้รับการยอมรับและส่งเสริมจากครอบครัวในที่สุด

   เทคโนโลยีชาวบ้าน ถามถึงข้อข้องใจ เมื่อสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ตกเป็นข่าวกัดเด็กบ่อยครั้ง คุณธารา ให้ความเห็นในมุมของผู้เลี้ยงว่า น่าจะเกิดจากการเลี้ยงดูที่ผิด เพราะสุนัขทุกตัวนิสัยไม่เหมือนกัน และโดยนิสัยปกติทั่วไปของพันธุ์ร็อตไวเลอร์แล้ว เป็นสุนัขที่ไม่ชอบการบังคับ การกดดัน การกักขัง นิสัยคล้ายเด็ก ชอบการตามใจ ชอบเข้าสังคม ร่าเริง แต่ด้วยมุมมองของผู้เลี้ยงที่ไม่เข้าใจสุนัขพันธุ์นี้จริง คิดว่าดุ จึงเลี้ยงโดยแยกออกจากสังคม เมื่อสุนัขไม่เคยเข้าสังคม ไม่เคยพบคนอื่นนอกจากคนในบ้าน ทำให้กลายเป็นสุนัขที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่สนใจใคร และดุในที่สุด ส่วนกรณีที่กัดเด็ก เมื่อมีความกดดันหลายอย่างก่อนหน้านี้แล้ว และสุนัขมองเด็กเสมือนของเล่น แต่ด้วยวิธีการเล่นที่แรงเกินไป นอกจากนี้ เสียงเด็กยังอยู่โทนเสียงแหลมเล็ก ซึ่งเป็นเสียงที่สุนัขไม่ชอบ อาจจะรบกวนโสตประสาท ทำให้มีโอกาสเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดได้

“ผมอยากบอกให้คนที่คิดอยากเลี้ยงสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ควรเริ่มต้นจากการไม่อคติกับสุนัขพันธุ์นี้ก่อน จากนั้นศึกษานิสัยของเขา และเลี้ยงดูโดยไม่กดดัน กักขัง หรือบังคับ ให้สุนัขมีสังคม รู้จักกับคนในบ้านและนอกบ้าน ร็อตไวเลอร์ก็เหมือนสัตว์เลี้ยงอื่นที่น่ารัก และสามารถอยู่รวมกับคนในบ้านได้”

คุณธารา เล่าว่า ร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขที่มีความเป็นจ่าฝูง หากต้องการเลี้ยงหลายตัว ควรเลี้ยงมาพร้อมๆ กันตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าไม่ได้เลี้ยงด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ควรให้อายุห่างประมาณ 4-5 ปี เพราะเมื่อสุนัขที่เคยเลี้ยงไว้เริ่มแก่ สุนัขเด็กที่เข้ามาใหม่ก็จะโตเต็มวัย โอกาสที่จะเกิดการกระทบกระทั่งกันค่อนข้างน้อย แต่หากวัยเดียวกัน ไม่ได้เลี้ยงมาด้วยกัน เมื่อนำมารวมฝูงจะแย่งกันเป็นจ่าฝูง เกิดการกระทบกระทั่งกัน ไม่ยอมกัน สุดท้ายก็กัดกัน เกิดปัญหาอื่นตามมา

เมื่อถามถึงสภาพอากาศที่เหมาะสม เพราะร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศ  เยอรมนี แต่เมื่อนำเข้ามาเลี้ยงในประเทศไทย ซึ่งสภาพอากาศร้อนชื้น ก็ควรให้อยู่ในพื้นที่ที่อากาศปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเท ไม่จำเป็นต้องอยู่ห้องปรับอากาศหรือพัดลม และด้วยร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขที่มีพลังงานในตัวสูง จำเป็นต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ เมื่อต้องออกกำลังกาย จึงควรช่วยเรื่องช่วงเวลาการออกกำลังกาย โดยเลี่ยงพาไปออกกำลังกายในช่วงเช้ามืด หรือพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว หรือในกรณีที่จะให้ร็อตไวเลอร์นั่งตากแดด สามารถทำได้ แต่ต้องผ่านการปรับสภาพอากาศมาก่อนหน้าแล้ว“สุนัขที่นี่ให้อยู่สภาพอากาศปกติ ยกเว้นลูกสุนัข ที่ยังจำเป็นต้องอยู่ห้องปรับอากาศ”

   สำหรับการออกกำลังกายจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับร็อตไวเลอร์ เพราะจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขใช้งาน พลังงานสูง การออกกำลังกายในแต่ละวัน ควรวิ่งอย่างน้อย 5-10 นาทีเท่านั้น หรือระยะทางอย่างน้อย 1 กิโลเมตร หรือจะให้สุนัขเดินก็ทำได้เช่นกัน แต่ถ้าให้แนะนำ คุณธาราอยากแนะนำให้พาไปว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด

ขอบคุณเนื้อหาจาก:www.technologychaoban.com

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: