พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้รับผิดชอบงานจราจร ลงพื้นที่บริเวณสะพานลอยข้ามแยกเกษตรฝั่งวิภาวดี เพื่อตรวจการใช้กล้องตรวจจับความเร็ว และผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต พร้อมออกใบสั่งผู้กระทำผิดกฎจราจรโดยใช้ภาพถ่ายและใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์
โดยกล้องดังกล่าวสามารถตรวจจับได้ “ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์” สามารถบันทึกได้ทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอ
ซึ่งบนถนนวิภาวดีฯพบว่ามีปัญหาของผู้ฝ่าฝืน คือ รถจักรยานยนต์วิ่งในช่องทางด่วน วิ่งย้อนศร วิ่งบนทางเท้า วิ่งปาดทับเส้นทึบ และรถใช้ความเร็วเกินกำหนด
โดนใบสั่งต้องรีบจ่าย
ผู้ที่ได้รับใบสั่งจะต้องชำระค่าปรับภายใน 7 วัน โดยเสียค่าปรับ 500 บาท หากยังไม่ชำระ จะมีใบเตือนพร้อมบวกค่าปรับล่าช้าเพิ่มอีก 1 พันบาท
ทั้งนี้ หากยังเพิกเฉยไม่ชำระอีกภายใน 30 วัน จะถูกขึ้นบัญชีดำหรือแบล็กลิสต์ ซึ่งส่งผลในการต่อทะเบียน ต่อประกันรถ หรือทำธุรกรรมอื่นๆเกี่ยวกับรถคันนั้น
[ads]
ชำระค่าปรับได้ที่ไหน
การชำระค่าปรับสามารถทำได้ 3 ช่องทาง คือ สถานีตำรวจพื้นที่ถูกออกใบสั่ง เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย หรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย
มาตรการนี้จะเริ่มดำเนินการในทุกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยแก้ปัญหาผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร และการกระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับประชาชนได้
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก topicza.com
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ