ของดีหายากมาก!!!ต้องเซฟไว้เลย คือสุดยอดคาถา ขุนพันธรักษ์ราชเดช..





ของหายากมาก!!!ต้องเซฟไว้เลย คือสุดยอดคาถา ขุนพันธรักษ์ราชเดช

 

คาถาขุนพันธรักษ์ราชเดช มีบทสวดดังต่อไปนี้

 เสก นะ ทาทีโสต โม ลงโทษทาชิวหา เสก พุททาหน่วยตา แล้วเสกทา

ทาถานัง เสกยะทา กระหม่อม อักขระทั้งมูลเป็นฉะหัง แล้วเสกนะเตชัง

 ให้คุณปะกับไว้เป็นมงคล เสกจบครบทั้งห้า อาวุธมาเป็นห่าฝน

มิได้เข้าใกล้ตนประสกพ้น อันตราย

ยาดีขุนพันธรักษ์ราชเดช มีบทสวดดังต่อไปนี้

 จักกล่าวยาเข็ด เส้นขดอด…ขาดเด็ดเป็นปี ท่านให้ไปขุดสายหยุดสวยศรี

คัดเค้าของดีไม้รึเท้างอ หญ้าครุนจิ้งจายบนขุนเขาหนอ อีกต่อไป

 นำแก่นขี้เหล็กตัวหมอ ใส่หม้อสวยแสน ต้มกินตามแปลน

เหมือนแม้วหมุนไว เส้นหดหายเข็ด เรื่อง…แจ่มใส

ตำราว่าไว้ไม้กระทู้ทิ่งหลุม..

พระคาถาดำเนินสะดวก สายเขาอ้อห้ามพลาด มีบทสวดดังต่อไปนี้

 พระคาถาดำเนินสะดวกนี้เป็นของท่านพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช

จอมขมังเวทย์ในสายเขาอ้อ

 เริ่มแรกให้คุณ ตั้งนะโม ๓ จบก่อน แล้วสวดตามดังนี้

 “มะหะตาวิริเยเนปิ มะหันตังปาระมี อะฤๅมนุษย์ษะเทเวหิ พรัหม เมหิ

มะหิตันตัง นะมามิหัง”

 จากนั้นให้ตั้งจิตภาวนา สวด 19 จบ

 ให้คุณสวดก่อนเดินทางไปไหนมาไหน

จะช่วยทำให้การเดินทางเเคล้วคลาดปลอดภัย

จากภัยภยันอันตรายทั้งหลายทั้งปวง

เทพเทวดาพระพรหมทั้งหลายจะปกป้องคุ้มครองรักษา

เเละเป็นเมตตามหานิยม

 คุณสามารถที่จะนำมาทำเป็นเครื่องรางได้ มีฤทธิ์ขนาดว่า

โจรจะดักฆ่ากลับมองหน้าเห็นเป็นผู้หญิงสาวสวย

เฉกเช่นเดียวกับตะกรุดนารายณ์เเปลงรูป แต่จะต้องลงอักขระขอมอีก 8 ตัว

ปล:

 การใช้คาถา-อาคม ถ้าคุณจะใช้ให้ได้ผลจริง คุณจำเป็นที่จะต้องมีครู

ในกรณีถ้าใครยังไม่มีครูก็ให้ท่องบท สัจจะวาจา(ปกาสิตพระร่วง),

บทเบิกพรายปาก, หัวใจพระสังคหะ, บททำน้ำมนเสกใส่ส้มป่อย,

คาถาล้างบริสุทธ์ (ของขุนพัน)ฯ

 ถ้าหากท่านผู้อ่านต้องการนำพระคาถาในหนังสือนี้ไปใช้

ให้คุณจัดหาดอกไม้ธูปเทียนพร้อมเงิน 12 บาท จัดใส่พาน วางหนังสือ

แล้วทำการชำระร่างกายให้สะอาด สวดมนตร์ไหว้พระ

พอจิตใจสงบแล้วให้ท่องนะโมสามจบ แล้วกล่าวคำบูชาครูดังต่อไปนี้

 บทไหว้ครู สวดได้ดังต่อไปนี้

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ( 3จบ)

“วัตถิตตะวา ครูอาจาริยะ ปาทังสัพพะ อันตะรายัง วินาสสันติ สิทธิกิจจัง

สิทธิกัมมังสิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิลาโภ นิรันตะรัง สิทธิเตโช

ชะโยนิจจัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิเม สัพพะสิทธิ อิทธิฤทธิ ประสิทธิเม

สวาหะ”

 เมื่อสวดจบแล้วก็ให้กล่าวตามดังนี้ “ข้าพเจ้าขอบูชา คุณพระรัตนตรัย

พระอรหันต์ทุกพระองค์ คุณบิดร มารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณหลวงปู่ทวด

หลวงพ่อโต หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม หลวงพ่อกุน วัดพระนอน

หลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อโศก

หลวงพ่อสี วัดปากคลองบางครก หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม หลวงพ่อคง

วัดวังสรรพรส หลวงพ่อปานวัดบางนมโค หลวงพ่อฤษีลิงดำ

หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง ครูบาอาจารย์สำนักเขาอ้อทุกท่าน

พระคเณศ องค์พรหม องค์เทพ เทวาทุกสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า องค์พ่อแก่

บรมครู ปู่ฤาษี108 ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ผู้ศักดิ์สิทธิ์

ท่านอาจารย์ณัฎฐเดชผู้เรืองเวทย์แห่งสำนักกุญแจไสยศาสตร์

ท่านอาจารย์วิสัย ฆราวาสผู้เรืองเวทย์ เกจิอาจารย์ทั้งหลาย ผู้เรืองฌาน

เรืองเวทย์ ครูไสยเวทย์ทั่วประเทศ เขตแคว้น พระเจ้าแผ่นดิน ทุกๆพระองค์

วีรบุรุษ วีรสตรีทุกท่าน ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย

ข้าพเจ้าขอบูชาท่านด้วยความเคารพนับถือท่านเป็นครูบาอาจารย์

ขอดวงจิตดวงวิญญานของท่านทั้งหลายโปรดรับรู้ด้วยเถิด

ข้าพเจ้าชื่อ(ชื่อของท่าน)…….ขอนำบทพระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์นี้

ไปใช้ให้บังเกิดประโยชน์

ขอท่านครูบาอาจารย์เจ้าทั้งหลายเหล่านี้และครูบาอาจารย์เจ้าของพระคาถ

าโปรดอนุญาติด้วย และขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

โปรดช่วยดลบันดาลนำกุศลของข้าพเจ้าตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบัน

นำส่งมอบให้ท่านครูบาอาจารย์เจ้า เทพเทวา

ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายที่เอ่ยถึงด้วยเถิด”

เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถนำคาถาต่างๆในหนังสือนี้ไปท่องสวดได้ตามใจป

ราถนา และขอให้คุณอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา

และอย่าใช้คาถาในทางผิดศีลธรรม อย่าใช้เพื่อแย่งชิงของๆคนอื่น

หรือผิดทำนองคลองธรรม แค่นี้ท่านก็จะสัมฤทธิผลแล้ว

 ให้คุณนำเงิน 12 บาท

ไปทำบุญตักบาตรอุทิศให้ครูบาอาจารย์ทั้งหลายอีกครั้ง

ทุกครั้งที่ทำบุญมากน้อยให้ระลึกถึงว่าขออุทิศบุญนี้มอบให้ครูบาอาจารย์แล

ะเทพเทวาทั้งหลายด้วยเถิด

พระคาถามหาเศรษฐี (ของพระพุทธเจ้า) มีบทสวดดังต่อไปนี้

 เริ่มจากการ ตั้งนะโม 3 จบแล้วว่า

 

 “อัตตะ ทัตถัง ปะรัตเถนะ พะหุนาปิ นะหาปะเย อัตตะ ทัตถะ มะภิญญายะ

สะทัตถะ ปะสุโตสิยา”

ถือเป็นพระคาถาโบราณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรงอานุภ

าพแห่งพระคาถานี้โบราณท่านว่า คนยากจน จะกลายเป็นคนชั้นกลาง

คนชั้นกลางจะกลายเป็นเศรษฐีได้

 ถ้าหากคุณตั้งใจจริงย่อมร่ำรวยได้ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า

เคล็ดลับของพระคาถา ได้แก่

– ผู้ใดที่หมั่นท่องพระคาถานี้ก่อนนอนทุกคืนอย่าให้ขาด จำนวน

1,009 คืน (ประมาณ 2 ปี 9 เดือน 9 วัน)

ต้องสวดติดต่อกันอย่าให้ขาด ถ้าลืมท่องคืนใดคืนหนึ่ง ให้ตั้งต้นนับ 1

ใหม่

– ให้คุณทำการท่องพระคาถานี้ ตามกำลังวัน คือ

วันอาทิตย์ให้ท่อง 6 จบ

วันจันทร์ให้ท่อง 15 จบ

วันอังคารให้ท่อง 8 จบ

วันพุธให้ท่อง 17 จบ (ถ้าหากท่องหลังหกโมงเย็นไปแล้วให้ท่อง 12

จบ เพราะถือว่าเป็นวันพระราหู)

วันพฤหัสบดีให้ท่อง 19 จบวันศุกร์ให้ท่อง 21 จบ

วันเสาร์ให้ท่อง 10 จบ

พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า (ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง) มีบทสวดดังต่อไปนี้

 ให้คุณทำการตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า

 “อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโส ตัง

พุทธะปิติอิ”

 พระคาถานี้มีคุณสมบัติอัศจรรย์ 108 ประการ หลวงปู่เอี่ยม

วัดหนังท่านมอบให้รัชกาลที่5 ตอนเสด็จประภาสยุโรป

ซึ่งท่านได้ใช้เสกหญ้าให้ม้าพยศกินจนชาวต่างชาติทึ่งและยอมรับมาแล้ว

 พระคาถานี้ ให้ใช้ภาวนาก่อนนอน ก่อนเดินทาง ก่อนขับรถ คุ้มครองตัว

เสกก่อนคล้องพระครอบหัว

เสกภาวนาจนจิตนิ่งทำน้ำมนต์แก้เสนียดจัญไรคุณไสย

เสกข้าวกินอยู่ยงคงกระพัน เสกภาวนาให้ตัวเองมีสง่าราศี

เมตตามหานิยมแก่ผู้พบเห็น เสกแป้ง เสกเครื่องแต่งกายได้สารพัด

ครูอาจารย์ใช้เสกพระ เสกเครื่องรางของขลังมีฤทธิเดชมากมายมหาศาล

แล้วแต่จะกำหนดจิตและอธิษฐานในการใช้

 ใครที่ได้พบได้เจอแล้ว ถือว่ามีวาสนา ท่องจำให้ขึ้นใจ ภาวนาทุกเช้าค่ำเถิด

พลานุภาพมากมายเหลือคณานับ

คาถาบูชา พระสีวลี มีบทสวดดังต่อไปนี้

 ให้เริ่มด้วยการตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า

 “สีวะลี จะมะหาเถโร เทวะตานะ ระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทัมหิ

สีวลี จะมะหาเถโร ยักขาเทวา ภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทัมหิอะหัง

วันทามิตัง สะทา สีวะลี เถรัตสะ เอตัง คุณัง สวัสดิลาภัง ภะวันตุเม”

 ให้คุณท่องทุกวันๆละ 3 จบหรือ 7 จบ ควรท่องเป็นประจำ อธิษฐานขอโชค

ขอลาภ ค้าขายดี เวลาท่องต้องมีสมาธิ

หากต้องการให้สำเร็จไวๆให้ถือศีลห้า ตักบาตรทุกวัน หรือทำสังฆทาน

บริจาคช่วยเหลือคนยากไร้ต่างๆ จะช่วยส่งเสริมให้ร่ำรวย

ชาตินี้มีกินมีใช้ไม่รู้จักหมดจักสิ้น

 วิธีบูชาพระสีวลี ให้คุณเลือกบูชาด้วยดอกไม้สีขาว

,ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหรือดอกบัว ครั้งละ 3-5- 9 ดอก

หรือคุณอาจใช้น้ำสะอาดลอยด้วยดอกมะลิ 1 ถ้วย ธูป เทียน

 ถ้าหากคุณสะดวกก็จุด

แต่ถ้าหากไม่สะดวกก็ให้บูชาด้วยความศรัทธาเลื่อมใสจากใจจริงและดวงจิตที่

สงบก็ศักดิ์สิทธิ์

คุณควรที่จะถวายน้ำผึ้งใส่ถ้วยเพิ่มให้ท่านเป็นพิเศษในวันพฤหัสก็จะยิ่งดีมา

กขึ้น

 ประวัติความเป็นมาของ:

พระสีวลีในอดีตชาติได้ถวายน้ำผึ้งแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ชาติสุดท้ายนั้น

ท่านจึงเกิดเป็นพระราชโอรสของพระเจ้ามหาลิจฉวีและพระนางสุปปวาสาเ

ทวี เมื่อตอนท่านอยู่ในพระครรภ์ของมารดา

สามารถนำลาภสักการะมาให้พระมารดาเป็นอันมาก

โดยมีคนนำเครื่องบรรณาการถึง500 อย่างมาถวายทุกเช้าเย็น

จนเป็นที่เลื่องลือว่า ตั้งแต่พระนางตั้งพระครรภ์ก็บังเกิดเป็นลาภผลมากมาย

แสดงว่าโอรสในพระครรภ์ต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการสูงส่ง

เมื่อครั้นพระสีวลีออกบวช

ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์และเป็นผู้ที่มีลาภสักการะมากมายเหลือคณานับไม่

ว่าไปที่ใด

ก็มีผู้คนนำข้าวปลาอาหารอย่างดีมาทำบุญอยู่ตลอดแม้แต่ในที่กันดาร

หากท่านเดินทางไปเยือน

มีทั้งคนและเทวดามาทำบุญถวายข้าวปลาอาหารสิ่งของต่างๆอย่างเนืองแน่

น พระภิกษุรูปอื่นๆที่ไปด้วยก็ได้อานิสงค์ไปด้วย

จนพระพุทธเจ้าได้ยกย่องพระสีวลีเถระว่า

เป็นพระอรหันต์ผู้ที่เป็นเลิศด้วยลาภสักการะยิ่งกว่าพระภิกษุองค์ใดในสมัยพุ

ทธกาล เรื่องราวของท่านนั้นเป็นจริงดังปรากฏอยู่ในคัมภีร์ทางพุทธศาสนา

คัมภีร์อินเดียโบราณ คัมภีร์เก่าแก่ของพม่า มอญและขอมเป็นต้น

โดยมีความเชื่อตรงกันว่า หากผู้ใดสักการะ

บูชาพระสีวลีหรือรูปเหมือนพระสีวลีเป็นประจำ ย่อมทำให้ผู้นั้น

ชีวิตมีแต่ความเจริญก้าวหน้า ประสบแต่โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา

ผู้คนยกย่องสรรเสริญ

รอดพ้นจากอันตรายด้วยอำนาจบารมีขององค์พระสีวลีปกป้องรักษา

คาถาบูชาพระอุปคุตหรือพระบัวเข็ม มีบทสวดดังต่อไปนี้

 ให้คุณตั้งนะโม 3 จบแล้วกล่าวว่า

 “จิตติ จิตติ ริตติ ริตติ มิตถิ มิตถิ เอหิมะมะ ปทุมมะ

พุทโธนานา ปรามี สัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา มะอะอุ เมตตาจะมหาราชา

สัพพะสุขัง มหาลาภัง สัพพะโกรธัง วินัสสันติ อะหังวันทามิ สัพพะทา”

 ให้คุณทำการสวด 3-5- 7-9 จบหรือสวดเท่าอายุของผู้สวด

เหมาะมากสำหรับท่านที่ต้องการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

อยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาดปลอดภัย มีโชคลาภ

สวดทุกวันปลดหนี้ปลดสินได้

 พระอุปคุตถือเป็นพระเถระรูปหนึ่งที่เกิดหลังพุทธกาล 200

กว่าปีในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ท่านมีฌานสมาบัติสูงส่ง สถิตอยู่ ณ

ท้องมหาสมุทร มีฤทธิ์เดชมากมาย

ได้รับความเคารพนับถือแพร่หลายในประเทศพม่า มอญ เขมร

และชาวไทยล้านนา ภาคเหนือของไทย

 ได้มีประวัติที่เล่ากันมาอย่างยาวนานว่า

ชาวพม่าได้ใส่บาตรพระอุปคุตแล้วกลายเป็นเศรษฐี

จึงได้มีประเพนีที่ตักบาตรในวันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธ

เนื่องจากวันนั้นพระอุปคุตจะออกมารับบิณฑบาตร

และถึงแม้จะไม่ได้ตักบาตรพระอุปคุตเพียง

แต่ท่านมีรูปพระอุปคุตไว้บูชาสักการะ

ท่องคาถาบูชาก็จะเกิดผลานิสงส์ได้ผลบุญเดียวกัน

ด้วยเหตุที่ท่านจำศีลอยู่กลางสะดือทะเลจึงจัดตั้งรูปของท่านให้อยู่ในภาชนะ

หรือพานรองที่ล้อมรอบด้วยน้ำอันเต็มบริบูรณ์

ประหนึ่งว่าท่านจำศีลอยู่ในทะเล

แล้วลอยด้วยดอกมะลิอันมีกลิ่นหอมคือให้บูชาท่านด้วยดอกมะลิ

 การสักการะบูชาท่องคาถาได้ทุกวัน แต่เน้นเป็นพิเศษในเช้าวันพุธขึ้น 15

ค่ำ (วันเพ็ญ) เนื่องจากเชื่อกันมาตั้งแต่โบราณว่า ท่านจะออกมาบิณฑบาตร

ผู้ใดหมั่นหมั่นท่องคาถาบูชาพระอุปคุตอยู่เป็นประจำ จะทำให้เกิดสิริมงคล

อุดมไปด้วยโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองเพิ่มพูนมากมาย

อีกทั้งยังเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม มีตบะ มหาอำนาจ

ศัตรูผู้คิดร้ายเกรงกลัวและพ่ายแพ้ ทำให้หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง

มีอานุภาพคุ้มครองขจัดปัดเป่าเภทภัยต่างๆให้มลายหายไปสิ้น.

พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ มีบทสวดดังต่อไปนี้

 ก่อนที่คุณจะสวดให้คุณทำการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ครูผึ้ง

หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคและหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงก่อน

จากนั้นก็ให้ตั้งนะโม 3 จบ ( พระคาถาบทนำว่าครั้งเดียว)

 “ พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ “

พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ มีบทสวดดังต่อไปนี้

 “ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา

วิระอิตถิโย พุทธัสะ มานีมามะ พุทธัสะ สวาโหม “

 พระคาถาจากพระปัจเจกโพธิ์นี้ ท่านพระครูวิหารกิจจานุการ(หลวงพ่อปาน

วัดบางนมโค) เป็นผู้ได้ไปเรียนมาจากครูผึ้ง ซึ่งในเวลานั้นครูผึ้งมีอายุได้ถึง

99 ปี เมื่อพ.ศ.2472 ท่านเรียนมาแล้วได้ปฏิบัติเห็นผลมามาก

ถึงคนๆอื่นที่ท่านให้เรียนต่อ

นำเอาไปปฏิบัติตามก็ได้บังเกิดผลมาแล้วมากมายหลากหลาย

 ผู้ที่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระคาถานี้

ต้องเป็นผู้ที่ใส่บาตรแก่พระภิกษุสงฆ์อยู่เสมอ เป็นนิจ แม้แต่ 1

องค์ขึ้นไปมิได้ขาด รักษาศีล 5 หรือศีล 8

หมั่นสวดมนต์และว่าพระคาถานี้ด้วย เวลาเช้าตื่นนอนว่า 3-5- 7-9 จบ

 หมายเหตุ: คุณจะสวดพระคาถากี่จบก็ได้ เช่น จะว่า 3 จบ 5 จบ 7 จบ 9 จบ

แต่การว่าต้องว่าเสมอกันไป จะว่าน้อยๆ มากๆ สลับกันไปไม่ได้

จะไม่เกิดผลเลย แต่พยายามว่าจบที่น้อยไปหามากได้เป็นดี

ทำให้เห็นผลเป็นระยะ แล้วจึงค่อยกระเถิบมากขึ้นเป็นลำดับ

 เมื่อคุณจะใส่บาตรให้คุณระลึกถึงพระรัตนตรัยก่อน แล้วค่อยจบขันข้าว

และให้ว่าพระคาถานี้ 3 -5- 7-9 จบเมื่อใส่บาตรเสร็จแล้ว

ก็ให้ระลึกถึงพระรัตนตรัยคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

และพระปัจเจกโพธิ์ ครูผึ้ง อาจารย์เนียร

ตลอดจนถึงหลวงพ่อปานวัดบางนมโคเป็นที่สุด

 และกล่าวว่า ขอให้จงมาโปรดข้าพเจ้าด้วย แล้วหาน้ำที่สะอาดมากรวดน้ำ

เพื่ออุทิศส่วนบุญและกุศลไปถึงปู่ย่าตายาย บิดามารดา

และญาติมิตรสหายที่ล่วงลับไปแล้ว ตลอดถึงผู้มีพระคุณทั้งหลาย

 ในเวลาค่ำให้คุณบูชาพระสวดมนต์ว่า พระคาถานี้อีก 3-5- 7-9

จบเวลาเข้านอนกราบพระในที่นอนแล้วว่าคาถานี้อีก 3-5- 7-9 จบ

 ใครที่ปฏิบัติดังนี้ ทุกวันเป็นนิจ จะมีลาภและมีความสุขความเจริญ

เนื่องจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

จะโปรดบุคคลทั้งหลายทั่วไปที่ยากจนขัดสน

เพื่อให้พ้นทุกข์จากความอดอยาก

 ข้อห้ามคือ คุณห้ามประพฤติความชั่ว ต้องรักษาศีล 2

ข้อที่สำคัญที่สุดให้ได้แน่นอนก่อนปฏิบัติพระคาถานี้ คือศีลข้อ 2 ของศีล 5

คืออทินนาทาน

เว้นจากการลักทรัพย์หรือหยิบฉวยสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่อนุญาตมาเป็นสม

บัติของตน กับศีลข้อ 5 ของศีล 5 คือเว้นจากการดื่มเสพสุรายาเมาทุกชนิด

กับห้ามใช้ในทางมิจฉาชีพทุกชนิด และการพนันต่างๆด้วย

หรือถ้าผู้ใดรักษาศีล5ได้ทั้งหมดก็ยิ่งดี

 ใครที่ประพฤติได้ดังนี้แล้ว จงปฏิบัติตามพระคาถาของพระปัจเจกโพธิ์

จะเห็นคุณในไม่ช้าเพียงเวลา 6 เดือนก็ทราบได้

ถ้าหากใครทำนานๆได้หลายปีก็จะมีความสุขดียิ่งขึ้นไปทั้งชาตินี้และชาติห

น้า ใครได้ปฏิบัติตามจงกระทำใจของตนให้ผ่องแผ้ว

ระลึกถึงพระรัตนตรัยและพระปัจเจกโพธิ์

ให้เที่ยงแท้(อย่าได้ระแวงหรือสงสัย)

 (คัดมาจากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม6 ปี 2547 โดย

พระราชพรหมยาน(มหาวีระ ถาวโร) วัดจันทาราม(ท่าซุง)อ.เมือง

จ.อุทัยธานี)

 คาถานี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เมื่อคุณจะนำเงินเข้าเก็บและนำเงินออกมาใช้

ให้ว่าคาถานี้ทุกครั้งตามจำนวนที่เคยว่าอยู่ เช่นปกติเคยว่าอยู่ 7 จบ

เมื่อนำเงินเข้าเก็บก็ให้ว่า 7 จบก่อน เมื่อจะนำออกมาใช้ก็ให้ว่า 7

จบเช่นเดียวกัน

ถ้าหากไม่สะดวกที่จะใส่บาตรพระทุกวันให้นำเงินมาว่าคาถานี้แล้วใส่ในบา

ตรจำลองที่บ้านทุกวัน

เมื่อมีเวลาก็นำเงินไปถวายพระเป็นค่าภัตตาหารแก่ทางวัดก็ได้

 หรือถ้าหากใครทำเป็นกรรมฐานได้ยิ่งดี

โดยให้คุณทำการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปพร้อมๆกับการว่าคาถาช้าๆตาม

สบาย ทำได้ตลอดเวลาทั้งวัน ไม่ว่าจะนั่ง เดิน ยืน นอน หรือก่อนนอนทำสัก

5 นาทีแล้วค่อยๆเพิ่มตามลำดับ

พอจิตใจสบายแล้วค่อยหลับจะภาวนาจนหลับไปเลยก็ได้

ท่านว่าการค้าการขายดี ลาภผลเงินทองจะหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย

คาถาเสกข้าวกิน(พระเจ้า 16 พระองค์) มีบทสวดดังต่อไปนี้

 ก่อนที่คุณจะกินข้าวคำแรก ให้คุณทำการตั้งนะโม 3

จบและระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยคุณพ่อแม่ คุณครูอาจารย์ คุณพระแม่โพสพ

ฯลฯ แล้วสวดว่า

 “นะมะ นะอะ นอกอนะกะ กอออ นออะ นะอะ กะอัง

อุมิ อะมิ มะหิ สุตัง สุนะ พุทธัง อะสุ นะอะ”

 จากนั้นก็ให้เสกข้าวกิน 3 คำ 3 เดือน จะอยู่ยงคงกระพัน เสกข้าวกิน 3

คำเป็นเวลา 2 ปีกระดูกจะเป็นทองแดง เป็นยอดวิชาชาตรี สิทธิการิยะ

 พระอาจารย์ แต่งอุปเท่พระคาถาบทนี้ไว้ให้เป็นทานแก่สมณะชีพราหมณ์

กุลบุตรทั้งปวง

 พระคาถานี้เรียกว่า ธัมมะราชาถือเป็นใหญ่กว่าคาถาทั้งปวง

สารพัดกันอันตรายทั้งปวง คุณผีคุณคน ก้างติดคอเสกน้ำให้กิน

เสกข้าวเสกน้ำกินทุกวันอยู่คงแก่อาวุธทั้งปวง

 ถ้าเสกกินอยู่ 3 ปี อยู่คงทั้งร่างกายจนกระทั่งถึงกระดูกแล

อยากให้คงถึงบริวารในบ้าน

ให้เอาดินสอพองเขียนพระคาถานี้ใส่กระดานชนวนแล้วให้เสก 108 ที

ลบผงนั้นใส่ตุ่มข้าวเสกทับอีก 7 ที จงคนเสียให้ทั่ว หุงกินแล้วคงทนทั้งเรือน

 เสกไคลพระเจดีย์อมไว้คงทนยิ่ง ถ้าหากหลงป่าเสกใบหมากเม่ากิน

จะสามารถอดข้าวได้ 7 วัน ถ้าศัตรูไล่มาให้เสกกิ่งไม้ขวางทางไว้

ศัตรูจะเห็นเป็นขวากหนามกั้น ทำให้ตามมิทัน

 ถ้าขโมยเอาของไปจะมิให้มันหนีรอด

เอาพระคาถานี้ลงไม้กาหลงหรือใบไม้ทั้งปวงก็ได้ เสก

แล้วนำไปฝังตรงที่มันขโมยของไปมันจะมิไปไหน

เดินวนเวียนอยู่ในที่นั้นเองหาทางออกมิเจอ

 ถ้าจะให้มันเจ็บเท้า ให้เสกหนามแหลมแทงรอยตีนมัน

จะเป็นที่ส้นหรือกลางตีน มันไปมิได้ ให้เจ็บเหมือนเหยียบขวากหนามแล

พระคาถาบทนี้ฝอยนั้นว่ากันว่าท่วมหลังช้าง

แล.(คัดลอกจากต้นฉบับตำราเก่า)

คาถาบูชาแม่นางกวัก มีบทสวดดังต่อไปนี้

 ทำการตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวดตามดังนี้

 โอม ปู่เจ้า เขาเขียว มีลูกสาวคนเดียว ชื่อว่านางกวัก ใครเห็น ใครรัก

ใครเห็น ใครหลง จงนำเงินทอง ข้าวของ มาให้แก่กูผู้เดียว มานิ มามา

 ประวัติความเป็นมา: นางกวัก หรือขุนหญิงกวักทองมา หรือพระศรีอุมา

หรือพระเทวีสุชาดา ท่านมีหลายชื่อ

แล้วแต่ตามตำนานหรือตามยุคสมัยหรือตามแต่บูรพาจารย์ผู้สร้างท่านจะกำ

หนด

ซึ่งต่างได้ออกแบบสร้างขึ้นเป็นที่เคารพบูชาถือเป็นเจ้าแม่แห่งโชคลาภทรัพ

ย์สิน

 มีหลักฐานยืนยันแต่ครั้งโบราณกาลถึงปัจจุบันว่า

นางกวักนี้เป็นหญิงไทยที่มีคนเคารพบูชาบวงสรวงมากที่สุด

 ท่านที่ได้ตาทิพย์หรือจักขุญาณบอกว่า

เมื่อติดต่อกับกายทิพย์ของท่านนางกวัก ทราบว่าทรงมีพระนามว่า พระศรี

หรือสุชาดา(พระศรีนี้องค์เดียวกันกับที่คนไทยโบราณเชิญลงประทับเล่นฟ้อ

นรำแม่ศรีตามประเพณีครั้งเก่าก่อน)

 คาถานี้เป็นแบบฉบับย่อ ใช้ท่องบูชาแม่นางกวัก ทำน้ำมนต์พรมของขาย

หรือภาวนาระหว่างขายของก็ได้

 ถ้าหากต้องการให้ได้ผลสุงสุด

ทุกครั้งที่ท่านทำบุญให้อุทิศบุญกุศลที่ทำให้แม่นางกวักด้วย

ท่านจะได้ช่วยให้ค้าขายดี ร่ำรวยรุ่งเรือง ตลอดไป.

คาถาบูชาพระราหู มีบทสวดดังต่อไปนี้

 ตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า

 “ยัส สา นุส สะระ เณ นาปิ” (ท่อง 12 จบ)

 จากนั้นก็ให้อธิษฐานว่า

ถ้าหากข้าพเจ้ามีเคราะห์ข้าพเจ้าขอคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

โปรดคุ้มครองข้าพเจ้าให้แคล้วคลาดปลอดภัย

สุขภาพแข็งแรงและให้ข้าพเจ้าเจริญด้วย การงาน การเงิน การค้า การขาย

ด้วยประการทั้งปวงเทอญ.ใช้ท่องได้สำหรับทุกคนทุกท่านไม่ว่าจะเกิดวันอะ

ไร ท่องทุกวันยิ่งดี.หากต้องการให้ได้ผลสูงสุด เมื่อท่านทำบุญ สวดมนต์

นั่งกรรมฐานแล้วขออุทิศบุญกุศลที่ทำทั้งหมดให้พระราหูท่านด้วยจะยิ่งดีมา

กขึ้น

เปรียบเสมือนคุณได้เข้าไปในกระแสบุญของพระโพธิสัตว์พระราหูนั่นเอง

 พระไตรปิฏกในพระพุทธศาสนาได้กล่าวไว้ว่า

หลังจากที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงปราบพยศพระราหูได้แล้ว

ได้ทรงพยากรณ์ว่า

ในอนาคตพระราหูจะบำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านามว่า

พระนารทพระพุทธเจ้า นับเป็นองค์ที่ 5 ถัดจากพระศรีอาริยเมตไตยพุทธเจ้า

 จากคติดังกล่าวนี้นับได้ว่า ในปัจจุบันนี้ท่านพระราหูนั้น

มีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์ และบรมโพธิ์สัตว์

ที่กำลังสร้างบารมีสะสมเพื่อที่จะได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้

าต่อไปในอนาคต ดังนั้นพวกเราชาวพุทธทั่วไปสามารถกราบไหว้

บูชาท่านได้ในฐานะพระโพธิสัตว์ผู้ทรงฤทธิ์ มิได้ผิดแต่ประการใด

คาถาหัวใจพระพรหม มีบทสวดดังต่อไปนี้

 ทำการตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า

 “ พรหมาจิตตัง ปิยังมะมะ นะชาลีติ นะมะพะทะ นะมะอะอุ เมกะมุอุ”

 ในปัจจุบันมีศาลหรือวิหารพระพรหมมีอยู่ทั่วไป

และเป็นที่นิยมในการกราบไหว้บูชา ขอพร บนบานต่างๆ

 เนื่องจาก มีความเชื่อว่าองค์พระพรหมสามารถลิขิตชะตาชีวิตของมนุษย์ได้

ท่านสามารถใช้คาถาหัวใจพระพรหมนี้ สวดบูชาพระพรหม ที่บ้าน อาคาร

ตึก หมู่บ้าน คอนโด สำนักงานที่ทำงานหรือตามศาล เทวาลัยต่างๆ

 ถ้าหากสวดบูชาอยู่กับบ้านก็ได้ เมื่อทำบุญทุกครั้ง อุทิศกุศลให้ท่านด้วยยิ่งดี

คาถานี้ภาวนากี่ครั้งก็ได้ จนจิตสงบ มีอานุภาพครอบจักรวาล

ด้านค้าขายโชคลาภดีขอพร ใช้เป็นคาถาเพื่อสื่อจิตกับท่านในการขอพร

บนบานศาลกล่าวได้

พระคาถาของเสือมเหศวร (พระคาถาคงกระพัน แคล้วคลาด) มีบทสวดดังต่อไปนี้

 พุทธังคงหนัง ธัมมังคงเนื้อ สังฆังคงกระดูก พุทบังไฟ โธบังรูป

ธาปิดปากกระบอก ยะไม่ออก อุดโธ อุดโธ

 ถือเป็นศาสตร์ที่ลี้ลับอย่างหนึ่ง จึง

จุดประสงค์เพื่อทำการวิจัยศึกษาต่อไปอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

 การปลุกพระ ทดสอบคุณวิเศษของพระเครื่องนั้น คือทดสอบพลัง

เป็นพลังเย็น เป็นนามธรรมก่อน แล้วนามธรรมนั้นเข้าครอบงำรูปธรรม

และแสดงพลังออกมาทางรูปธรรม

 คนจะปลุกพระ ประการแรกต้องมีสมาธิเป็นพื้นฐาน

ถ้าไม่มีสมาธิอาจจะไม่ปรากฎผลอะไรเลย แต่ผู้ใดมีสมาธิดีจะปรากฎ

จะทดสอบพลังของพระเครื่องได้ดี

 วิธีที่แนะนำคือ ให้คาถาบริกรรมว่า นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ

เป็นคาถาปลุกพระ

 วิธีทำเบื้องต้น ทำกาย จิต วจีกรรมให้ผ่องแผ้ว บริสุทธิ์แล้วอธิษฐานนั่งสมาธิ

เอาพระเครื่องใส่ในมือหลวมๆ สบายสบาย

เดินสมาธิ(คือให้เกิดความปกติทางจิต อย่าให้วอกแวก ขึ้น ๆ ลง ๆ

ให้ราบเรียบและเดินไปในปกติอยู่เช่นนั้น) ช้าๆ

 จากนั้นให้เริ่มบริกรรมช้าๆ ก่อน นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ ว่าไปเรื่อยๆ

ทำใจสบายๆ แล้วจะเริ่มเคลิ้ม

 ในตอนนี้จิตกำลังเข้าภวังค์ และจะไปเชื่อมกับคุณวิเศษภายในพระเครื่อง

ให้รักษาสติไว้คือ

รู้ตัวว่าอยู่ในอาการเคลิ้มนั้นและให้ดำรงสภาวะเคลิ้มนั้นเดินสมาธิต่อไป

 พลังจากพระเครื่องก็จะแผ่มาเชื่อมเข้าในระหว่างนี้ การที่บริกรรมอยู่ช้าๆ

ก็จะเร่งเร็วขึ้นๆ ระวัง ต้องรักษาสติให้รู้ตัวอยู่ให้ได้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่

แล้วมือจะสั่นขึ้น เกร็งและกำพระเครื่องแน่นขึ้น ต่อไปมือจะโยก ขึ้นลง

ขึ้นลง ขึ้นลง เหงื่ออาจจะออกมาท่วมมือ หรือรักแร้ หรือขุมขนทั่วไป

เท่านี้ก็คงเพียงพอแล้ว เนื่องจากพลังแสดงออกมาให้เห็น

พอสังเกตได้ด้วยสติสตังของเราเองว่าพลังขนาดใดควรจะพอ หยุด

 ถ้าพลังจะแสดงเกินไปกว่านี้ ตัวจะร้อน และการโยกจะแรง

ต่อไปก็จะยงโย่ขึ้นโยกขึ้นโยกลง และที่สุดต้องเคลื่อนตัวเอง

 ถ้าหากเสียสติควบคุมสติไม่ได้แล้วก็จะเตลิดวิ่งไป เนื่องจากนิ่งอยู่ไม่ได้แล้ว

ต้องเคลื่อนไปตามอำนาจพลังนามธรรมที่มาแทรกคุมรูปธรรม

คือกายของเรา ในตอนนี้เพื่อนๆ

ที่อยู่ด้วยต้องเข้าปล้ำควบคุมตัวไว้เอาพระเครื่องออกจากมือ

ก็จะหยุดก็คงเพียงพอสำหรับการทดสอบคุณวิเศษของพระเครื่อง ๆ

ขอให้ทำการบันทึกผลการทดลองกับพระเครื่ององค์อื่น ๆ ไว้ด้วย

และอีเมลมาให้ทราบบ้าง จะขอบคุณยิ่ง

ที่มา: saraupdate.com

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: