ช่วงล่างรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องเอาใจใส่ให้มากๆ เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในขณะรถวิ่ง โดยเฉพาะเมื่อต้องวิ่งโดยใช้ความเร็วหรือบรรทุกสิ่งของหรือขนคน
[ads]
เว็ปไซด์มติชน [Online:www.matichon.co.th]ได้รวบรวมสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ผู้ใช้รถต้องนำรถเข้ารับบริการตั้งศูนย์ล้อและซ่อมช่วงล่าง มีอยู่หลายประการด้วยกัน เช่น ศูนย์ล้อตั้งมาไม่ดี ยางหมดสภาพ ช่วงล่างมีปัญหาจากอายุการใช้งาน เช่น ลูกยางต่างๆ โช้กอัพเสีย ระบบเบรก เป็นต้น และก่อนนำรถเข้าตั้งศูนย์ล้อ ถ้าพบว่าระบบช่วงล่างยังมีปัญหาอยู่ก็ควรแก้ไขเสียก่อน เพราะช่วงล่างมีผลมากสำหรับการตั้งศูนย์ล้อครับ ถ้าช่วงล่างไม่ดีตั้งศูนย์ล้อไปก็ไม่มีประโยชน์
มุมต่างๆ ใช้ในการตั้งศูนย์ล้อ เริ่มจาก มุมโท มีมุมโท-อิน โท-เอาต์ ลักษณะของ มุมโท คือ ให้ลองยืนให้ลักษณะขาของคุณห่างกันพอประมาณ แล้วมองลงไปที่ปลายเท้าของคุณ ถ้าปลายเท้าบิดเข้ามาหากันเรียกว่าโท-อิน แต่ถ้าปลายเท้าแยกออกจากกันเรียกว่าโท-เอาต์ แต่ถ้าไม่เอียงเข้าหรือออก อยู่ในลักษณะตรง เรียกว่ามุมโทเป็นศูนย์
ส่วนมุมแคมเบอร์ คือ มุมที่มองจากแนวดิ่ง ถ้าล้อด้านบนหุบเข้าไปในตัวรถมาก หรือล้อแบะ จะเรียกว่าแคมเบอร์ลบ ถ้าเป็นแนวดิ่งตรงๆ เรียกว่า มุมแคมเบอร์เป็นศูนย์เช่นกัน
มุมแคสเตอร์ คือ ให้ลองสังเกตจากตะเกียบรถจักรยานจะชี้ไปข้างหน้า เรียกว่ามุมแคสเตอร์บวก ถ้าเข้ามาเลยแฮนด์จะเป็นลบ ถ้าตะเกียบตรงเป็นแนวดิ่งตั้งฉากกับถนน มุมแคสเตอร์นั้นก็คือศูนย์
ความสำคัญของทั้งสามมุมนี้เท่ากันหมด ถ้าเราจะไปกำหนดว่าเมื่อไหร่ควรจะเข้ามาเช็กศูนย์ล้อ เราต้องรู้ว่ารถเรามีอาการผิดปกติอย่างไรบ้าง เช่น ถ้ามุมโทไม่ดีจะสังเกตได้เมื่อเวลาเลี้ยวรถจะมีเสียงดังผิดปกติ จะเป็นเสียงยางเสียดสีกับถนน หรือหน้ายางเกิดอาการสึกผิดปกติ ยกตัวอย่าง ถ้าโท-อินบกพร่องมากเกินไป ก็หมายถึงล้อด้านหน้าหุบ ล้อหลังจะบานออก แทนที่ล้อหลังจะหมุนตรงๆ กลับหมุนแบบไถๆ เวลาเราเอามือลูบจากด้านนอกของยางลูบเข้าไปด้านในดอกยาง จะเรียบไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าเราเอามือลูบออกดอกยางจะรู้สึกสากบาดมือ ตรงนี้สามารถตรวจสอบด้วยตนเองได้
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ