คนส่วนใหญ่ยังคงใช้ระบบขนส่งมวลชนเป็นรถโดยสารประจำทางอยู่ ซึ่งปัญหาหลักของมันก็คือ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะต้องรอรถเมล์อีกนานแค่ไหนกว่าที่มันจะมา ไม่เหมือนกับการเคินทางด้วยรถไฟฟ้าที่สามารถบอกได้ว่าขบวนถัดไปจะมาอีกกี่นาที แต่รู้ไว้เถอะว่าสิ่งนี้ได้ถูกแก้ไขแล้ว จะเป็นอย่างไรนั้นตามมาดูกันเลย
เนื่องด้วยระบบรถสาธารณะเพื่อประชาชนได้เริ่มมีการติดตั้งระบบ GPS เพื่อระบุตำแหน่งของรถโดยสารไป
แล้วเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่ได้ทำในทุกสาย สายที่มีการดำเนินการแล้ว ได้แก่
กลุ่มรถ ขสมก สาย 73 ก
และมีการติดตั้งระบบเพิ่มในรถสาย 191, 178, 156, 36ก และ 8
[ads]
วิธีการใช้งานเพื่อดูตำแหน่งของรถเมล์ที่ท่านต้องการรู้ สามารถเข้าใช้งานได้ดังต่อไปนี้
1. เข้าไปที่ https://transit.traffy.xyz
สำหรับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนสามารถใช้ได้กับทั้งระบบ IOS และ Android รวมไปถึงอุปกรณ์ใดๆก็ตามที่สามารถเชื่อมต่อ internet และเปิด browser ได้
หมายเหตุ : การใช้งานเป็นระบบ web-based ไม่ใช่การทำงานผ่าน application แต่อย่างใด
2. เลือกสายรถเมล์ที่กำลังรอ
เมื่อเข้าสู่ web page แล้วจะเจอกับ icon ของสายรถประจำทางปรากฎขึ้นมาให้เลือก ผู้ใช้งานสามารถเอานิ้วจิ้มเพื่อเลือกสายรถที่รอได้เลย
หมายเหตุ : ระบบกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา จึงยังมีสายรถประจำทางไม่ครบทุกสาย
3. แสดงภาพการเดินรถ
web page จะแสดงภาพเส้นทางการเดินรถ โดยเราสามารถเลื่อน ขึ้น – ลงเพื่อดูว่ารถอยู่ที่ป้ายใดได้
เช่น จากภาพ พบว่ามีรถประจำทางสาย 73ก 3 คัน
– กำลังจะเข้าป้ายหน้า รร.พิบูลย์อุปถัมภ์
– อยู่ที่ป้ายหน้าซอย ภาวนา
– อีกคันกำลังจะเข้าป้าย ลาดพร้าว ซอย 40 ศิริชัยไก่ย่าง
หมายเหตุ : สามารถสลับกลับไปดูรถในขากลับกันได้เช่นกัน โดยเอานิ้วจิ้มที่ปุ่มลูกศรไขว้ที่อยู่มุมขวา
ง่ายๆแค่นี้ก็สามารถตรวจสอบตำแหน่งรถประจำทางที่เราต้องการจะขึ้นได้แล้ว สามารถตื่นสายหรือใช้เวลาทำธุระส่วนตัวได้มากกว่าเดิม โดยไม่ต้องไปยืนรอที่ป้ายรถเมล์ให้เมื่อยขาอีกต่อไป และไม่ต้องออกมายืนรอรถแบบไร้ความหวังด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก https://transit.traffy.xyz ยังคงเป็นเพียงแค่ระบบรุ่น BETA แต่ก็คาดว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาในส่วนของการระบุเวลาที่รถจะมาถึงป้ายได้ ว่าจะมาถึงในอีกกี่นาที รวมไปถึงการนำระบบ GPS ไปติดตั้งในรถประจำทางให้ครบทุกๆสายอีกด้วย
หวังว่าชาวกรุงเทพฯคงรออีกไม่นาน ฝันก็จะกลายเป็นจริงเสียที แต่คงจะดีไม่น้อยหากมีการพัฒนาเพิ่มเติมในส่วนของภาษาอื่นๆ เช่น ภาษาอังกฤษ เพื่อความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และทำให้พวกเขาประทับใจจนต้องกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://pantip.com/topic/35907315
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ