ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนในบุคปัจจุบันจะหันหลังกลับไปทำสวนตามรอยอาชีพของพ่อแม่ เพราะหลายคนเลือกที่จะทำในสิ่งที่ตนเองรักมากกว่าการทนอยู่กับสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ
เช่นเดียวกับ คุณวราภรณ์ ขุนพิทักษ์ ที่มีดีกรีถึงปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา แต่ก็เลือกที่จะหันหลังให้การทำงานในเมือง และกลับใช้อาชีพเป็นชาวสวนแทน เพราะเหตุผลที่ว่า งานสวนที่บ้านหนักเกินกว่าที่พ่อ-แม่ของเธอจะทำไหว
ที่บ้านของเธอทำสวนกว่า 30 ไร่ โดยพืชหลักที่ปลูกก็คือ มะม่วง ชมพู่ และฝรั่ง หลังจากที่คุณวราภรณ์เห็นว่าพืชที่ปลูกทั้งหมดมีความแตกต่างด้านการปลูกและกำไรอย่างไร เธอก็พบว่า ฝรั่งเป็นพืชที่น่าสนใจในการปลูกมากที่สุด เพราะเหตุผล 3 ประการ คือ
1. สามารถให้ผลผลิตเร็ว เพียง 8 เดือนก็สามารถตัดลูกชุดแรกได้แล้ว
2. ต้นทุนในการดูแลไม่สูง
3. ผลตอบแทนสูง
ช่วง 4-5 ปีมานี้ราคาฝรั่งดีมาก ทำให้คนที่เคยปลูกพืชอื่นหันมาปลูกฝรั่งกันมากขึ้น ซึ่งช่วงที่ฝรั่งมักมีราคาแพงจะเป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีผลไม้ชนิดไหนออกสู่ตลาด อย่างช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ช่วงนั้นราคาฝรั่งจะสูง 30-40 บาท ต่อกิโลกรัม (หน้าสวน) กับอีกช่วงคือมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งมีเทศกาลต่างๆ มาก
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ คุณวราภรณ์จึงตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่สวนทั้งหมดมาปลูกฝรั่งเพียงอย่างเดียวและเลือกปลูกฝรั่งมาตลอด
ซึ่งการปลูกฝรั่งเพียง 10 ไร่ สามารถทำเงินได้ประมาณหลักแสนต่อเดือน ปีหนึ่งสามารถทำเงินหลักล้านได้ไม่ยาก ซึ่งปัจจุบันคุณวราภรณ์มีพื้นที่ปลูกฝรั่งมากกว่า 24 ไร่
[ads]
ใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณวราภรณ์ ขุนพิทักษ์ โทร. (091) 782-1263 และ (087) 998-1131
ใครที่สนใจอยากจะหันหลังให้เมืองกรุงที่วุ่นวายแล้วเปลี่ยนมาใช้ชีวิตเป็นเกษตรกร ก็อยากให้ลองนำเอาแนวความคิดนี้ไปพิจารณาดู แต่ก่อนที่จะตัดสินใจลงมือเปลี่ยนอาชีพจริงๆ อยากให้คิดให้รอบด้านดูก่อน ดูว่าตัวเองเหมาะสมกับสิ่งนี้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่การตามกระแส
เพราะถ้าคุณรีบออกมาจากงานประจำ แล้วมาทำงานที่ไม่ถนัดด้วยใจที่ไม่รักจริง คุณก็ไม่อาจจะประสบความสำเร็จได้เลย
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก sentangsedtee.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ