มีอาการแขนขาชา พูดผิดปกติ ตามองไม่เห็นชั่วขณะ ก็อย่านิ่งนอนใจ เพราะอาจเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองได้
ศาสตราจารย์แพทย์หญิงดิษยา รัตนากร ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาโรคหลอดเลือด คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า
“โรคหลอดเลือดสมองมีโอกาสเป็นได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะช่วงอายุ 45 ปีขึ้นไป ยิ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งต้องคอยสังเกตตนเองอยู่เสมอ”
โดยวิธีการสังเกตให้ใช้หลัก FAST ที่ย่อมาจาก Face, Arm, Speech, Time กล่าวคือ จะต้องให้ความสำคัญกับ 4 อย่าง ได้แก่
1. การสังเกตความผิดปกติของใบหน้า
2. การสังเกตความผิดปกติของแขน
3. การสังเกตความผิดปกติของการพูด การสื่อสาร
4. การสังเกตว่าเวลาที่เป็น ‘ทันทีทันใด’ หรือไม่
ยกตัวอย่างเช่น
มีอาการชา แขนขาอ่อนแรง การพูดผิดปกติ และตามองไม่เห็นชั่วขณะ ซึ่งอาการเหล่านี้จะมีความเสี่ยงสูงมากหลังจากเกิดขึ้นในช่วง 7 วันแรก เมื่อเป็นเช่นนี้จะต้องเข้ารับการรักษาอย่าง ทันท่วงที เพราะมีสิทธิที่จะมีอาการตีบหรือแตกของเส้นเลือดในสมองในส่วนบริเวณที่ควบคุมอวัยวะ ดังกล่าวได้
ศาสดาจารย์ แพทย์หญิงดิษยา ยังเพิ่มเติมอีกว่า
“ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีรูปร่างผอม หรืออ้วน ก็มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองทั้งสิ้น โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องของ การบริโภคและกรรมพันธุ์ เช่น ถ้าใครมีญาติเคยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ จะมีความเสี่ยงสูงมาก”
ดังนั้น คนที่เข้าข่ายจึงควรเข้ารับการตรวจร่างกายทุก ๆ 6 เดือน – 1 ปี เพื่อป้องกันและรักษาอาการอย่างทันท่วงที
[ads]
สำหรับโรคที่เพิ่มโอกาสของการเป็น “โรคหลอดเลือดสมอง” มากขึ้น ซึ่งหากคุณเองก็กำลังเป็นโรคนี้อยู่ ก็ให้รู้ไว้เลยว่าเสี่ยงมากที่จะเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง กลุ่มอาการดังกล่าวได้แก่
1. กลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม
2. เบาหวาน
3. โรคหัวใจชนิดต่าง ๆ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ลิ้นหัวใจรั่ว
4. ความดันสูง
5. โรคมะเร็งเม็ดเลือด
6. โรคแพ้ภูมิตนเอง
ทั้งนี้เพราะอาการเหล่านี้จะส่งผลให้หลอดเลือดผิดปกติ หลอดเลือดแดงแข็งตัวหนา ผนังหลอดเลือดอักเสบ ฉีกขาด เกิดลิ่มเลือดได้ง่ายจนเกิดการอุดตันของหลอดเลือดสมองในที่สุด
อันตรายไม่น้อยเลยสำหรับโรคที่กล่าวมานี้ และเชื่อว่าคงไม่มีใครที่ต้องการที่จะเป็นอย่างนี้หรอกใช่ไหมค่ะ เพราะมันอาจจะทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงไปเลย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เหมือนเก่า และต้องรอคอยความช่วยเหลือจากคนรอบข้างด้วย
ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง คุณจึงต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง งดเว้นการสูบบุหรี่ เลิกดื่มเหล้า โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคกระตุ้นปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ หรือมีอายุเกินกว่า 45 ปี ยิ่งต้องสังเกตอาการความผิดปกติ และ ตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอด้วย
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก ch3.sanook.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ