อากาศร้อนๆ ถ้าได้น้ำหวานเย็นชื่นใจก็คงทำให้คลายร้อนไปได้เยอะ จึงไม่น่าแปลกใจที่เครื่องดื่มหวานๆในประเทศไทยจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะเมื่อดื่มแล้วจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และมีแรงมีพลังในการใช้ชีวิตต่อไป
แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า เครื่องดื่มน้ำหวานเหล่านี้ไม่ได้มีด้านดีด้านเดียว เพราะการดื่มมากๆก็ส่งผลให้คุณอ้วนได้ ที่สำคัญยังมีผลมากไปกว่านั้น เพราะมีนักวิทยาศาตร์ออกมายืนยันว่า การดื่มน้ำหวานมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเก๊าส์ด้วย
Dr.Hyon K. Chol นักวิจัยจากวิทยาลัยการแพทย์บอสตัน สหรัฐอเมริกา ค้นพบว่า
“การดื่มเครื่องดื่มรสหวานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เป็นสาเหตุให้คุณนักดื่มป่วยเป็นโรคเกาต์ได้”
โดยนักวิทยาศาสตร์ผู้นี้ได้ทำการวิจัยในอาสาสมัครหญิงว่า 78,900 คน และใช้เวลาทดลองเรื่องนี้เป็นเวลานานถึง 22 ปี ผลการทดลองพบว่า
“เมื่อสิ้นสุดการติดตาม สาวๆ ที่ร่วมทำวิจัยจำนวน 778 คนป่วยด้วยโรคเกาต์ และเมื่อสืบลึกถึงพฤติกรรมประจำวันที่ได้รับการบันทึกไว้ พบว่าพวกเธอเกือบทั้งหมดติดการดื่มน้ำหวานทุกวัน”
และจากสถิติที่ได้บันทึกไว้ พบว่า การดื่มน้ำหวานทุกวันเพียงวันละ 1 แก้ว (หรือมากกว่า) จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเกาต์ถึง 74% และหากยิ่งดื่มน้ำหวานมากขึ้น ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงขึ้นเป็นเท่าตัว
[ads]
ทั้งนี้ หากใครอยากทราบว่าความสัมพันธ์ของการดื่มเครื่องดื่มหวานๆ กับการเกิดโรคเกาต์มีความสัมพันธ์กันได้อย่างไร เราจะอธิบายให้ฟังค่ะ
รายงานการวิจัยจาก American College of Rheumatology กล่าวถึงสาเหตุที่เครื่องดื่มรสหวานเป็นตัวการก่อโรคเกาต์ในผู้หญิงว่า เครื่องดื่มรสหวานมักมีส่วนผสมของน้ำตาลฟรักโตสอยู่สูง
ซึ่งน้ำตาลฟรักโทส เป็นสารตัวสำคัญที่จะทำให้ระดับกรดยูริกในร่างกายผู้หญิงสูงขึ้น เมื่อกรดยูริกในร่างกายสูง โอกาสที่จะเป็นโรคเกาต์ก็มากขึ้นนั่นเอง
ไม่เพียงแค่นั้น ผลการสำรวจสุขภาพของประชาชนอเมริกัน ของสถาบันการแพทย์บอสตัน สหรัฐอเมริกา ยังพบว่า ผู้ที่มีกรดยูริกสูงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงมากกว่าคนทั่วไปถึง 40 %
ดังนั้น การดื่มเครื่องดื่มหวานๆบ่อยๆ จึงไม่ได้นำพาคุณไปพบเจอกับโรคอ้วนเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การเกิดโรคเกาต์ โรคความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคอื่นที่สามารถเกิดตามมาได้จากปัจจัยของน้ำหนักหรือไขมันที่มีมากเกินไป
ไม่น่าเชื่อว่าแค่อยากจะดับกระหายด้วยน้ำหวานจะน่ากลัวและเป็นอันตรายแบบนี้ อย่างไรก็ตาม คุณยังไม่จำเป็นต้องเลิกดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ไปเลยซะทีเดียว แค่พยายามลดให้น้อยลง ดื่มเป็นครั้งคราว และออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เท่านี้ก็เพียงพอให้มีสุขภาพดีๆแล้วค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://drsupherb.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ