ผงชูรส ที่เราชอบกัน บางคนถึงกับขาดไม่ได้ ต้องใส่ลงไปในอาหาร ทำให้รสชาติอาหารเข้มข้นมากขึ้นไปอีก ถ้าไม่ใส่ก็เหมือนขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง แต่! เคยสังเกตุหรือไม่ ว่าทำไมรายการทำอาหาร ไม่เคยมีเครื่องปรุงที่เป็นผงชูรสอยู่ในวัตถุดิบเมนูอาหารเลย เขาทำยังไงกันนะ? และสมัยโบราณเขาเอาอะไรทำอาหารแล้วรสชาติออกมากลมกล่อมได้อย่างไร?
แม่บ้านสมัยใหม่ทำกับข้าวพอถูๆ ไถๆ แค่ฉีกถุงผงชูรสลงไปก็จบเลยรสชาติกลมกล่อมถูกใจ แต่บริโภคเป็นจำนวนมากก็ไม่ดี บางคนก็แพ้สารที่อยู่ในผงชูรสอีกต่างหาก ถ้าหันมาชูรสโดยวิธีธรรมชาติด้วยการหลีกเลี่ยงที่จะใช้น้ำต้มกระดูกหมู ไม่ก็ถั่วเหลืองแทน แต่กว่าจะเคี่ยวเพื่อนำไปทำอาหารก็คงจะไม่ทันใจสำหรับคนยุคนี้ แถมใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง หรือถ้าไม่อยากเคี่ยวกระดูกหมูให้ยุ่งยาก ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่ใช้แทนกันได้ มีชื่อเรียกว่า ผงนัว บ้างคนคงจะคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว เรามาลองทำ ผงนัว ไว้ใช้เองในครัวเรือนกันดีกว่า
ขั้นตอนและวิธีทำอาจจะยากนิดหน่อย แต่เพื่อสุขภาพของคนในครอบครัว และยังสามารถเก็บไว้ใช้ได้อีกนาน การทำผังนัวมีหลายสูตรด้วยกัน แต่เลือกสูตรที่คิดว่าง่ายที่สุด ลองทำตามกันดูจ้า
วัตถุดิบ
ตะไคร้ จำนวน 1 กิโลกรัม
ใบเตย จำนวน 1 กิโลกรัม
รากหม่อน จำนวน 1 กิโลกรัม หาซื้อได้ตามร้านยาจีนหรือยาไทย
ขิง จำนวน 2 กิโลกรัม
ใบมะกรูด จำนวน 1 กิโลกรัม
พริกไทย จำนวน 0.5 กิโลกรัม
ขมิ้นชัน ใช้พอประมาณ
วิธีทำ
1. นำทุกอย่างมาหั่นบางๆ แล้วนำไปตากแดดให้แห้งสนิท
2. นำวัตถุดิบแต่ละอย่างมาตำจนละเอียด ตำที่ละอย่างก่อน
3. เมื่อส่วนผสมทุกอย่างละเอียดจนเป็นผงเล็กๆแล้ว นำทุกอย่างผสมเข้าด้วยกัน
4. เมื่อได้ผงนัวแล้วใส่ขวดโหลปิดฝาให้มิดชิด
อาจจะยุ่งยากหน่อย แต่ทำครั้งเดียวเราก็สามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน เราก็ได้ผงชูรสที่ทำเองและไม่เป็นอันตรายด้วย แถมยังทำมาจากสมุนไพรที่ให้ประโยชน์อีกต่างหาก ลองมาทำกันเองดีกว่า เพื่อสุขภาพของคุณและคนที่คุณรัก
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก food.mthai.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ