อยากขอเตือนคนไหนที่ชอบทานอาหารแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ เนื้อเด้งๆ แดงๆ เลิกเสียเถอะค่ะถ้าไม่อยากต้องมาป่วยหรือเสียใจภายหลัง เพราะว่าการรับประทานอาหารที่ไม่สุกสมบูรณ์เสี่ยงมากต่อการได้รับพยาธิเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งพยาธิเหล่านี้จะคอยกัดกินและทำให้คุณป่วยหนักจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
เรื่องราวที่ว่านี้เกิดขึ้นจริงๆกับมนุษย์ หากใครต้องการทราบว่าเป็นอย่างไร ตามมาดูกันได้เลยค่ะ
อุทาหรณ์เรื่องนี้ ขอเตือนคนชอบทาน “ของดิบ” เพราะมีผู้ป่วยท่านหนึ่งตรวจพบ “ถุงพยาธิตืดหมูขนาด ใหญ่เบ้อเริ่มในศีรษะ” กินพื้นที่สมองไปเกินครึ่ง น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 450 กรัม ทั้งที่ผู้ป่วยเป็นแค่เด็กหญิงวัย 12 ปี และถุงนี้ก็มีสิทธิ์ระเบิดแตกและคร่าชีวิตได้ตลอดเวลา เรื่องราวจะเป็นอย่างไรมาติดตามดูกันเลย
นิตา จักกี เด็กหญิงชาวอินเดีย เริ่มต้นป่วยด้วยอาการชัก ปวดศีรษะและอ่อนเพลียมาเป็นเวลามากกว่า 2 ปี จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมาอาการของเธอเริ่มรุนแรงขึ้น ร่างกายซีกขวาของเธอกลายเป็นอัมพาต เป็นเหตุให้อวัยวะซีกขวาไม่สามารถใช้งานได้
คุณพ่อพยายามพาลูกสาวไปรักษากับแพทย์หลายแห่ง แต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จนกระทั่งเมื่อ 2 เดือนก่อน ได้มีโอกาสไปพบกับศัลยแพทย์ระบบประสาทและกระดูกสันหลัง ที่โรงพยาบาลในรัฐคุชราต จึงพาตัวลูกสาวไปตรวจอาการอย่างละเอียด รวมไปถึงการตรวจเช็คและสแกนสมอง
ซึ่งแพทย์ก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่า…
เด็กหญิงนิตามีเป็น “โรคพยาธิตืดหมูในระบบประสาท Neurocysticercosis” ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ยาก สาเหตุเกิดจากตัวอ่อนของพยาธิตืดหมูเข้าไปฝังตัวในเนื้อเยื่อและมีถุงน้ำเกิดขึ้น พยาธิตัวอ่อนนั้นก็จะเติบโตขึ้นภายในถุงน้ำนั้นและทำให้ถุงมันใหญ่ขึ้น เรื่อย ๆ
จากผลการเอกซเรย์พบว่า ถุงน้ำพยาธิตืดหมูที่พบในกะโหลกศีรษะของเด็กหญิงมีขนาดใหญ่มากเทียบเท่ากับ ขนาดของผลแตงโม น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 450 กรัม และเติบโตจนกินพื้นที่สมองไปมากกว่าครึ่งเลยทีเดียว
ซึ่งศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่า
“ถุงน้ำพยาธิตัวตืดนี้เติบโตขึ้นมาช้า ๆ ตลอดระยะเวลา 8-10 ปีที่ผ่านมา และคาดว่ามันจะโตขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะมันมีโอกาสที่จะระเบิดแตกออกและคร่าชีวิตเธอได้ตลอดเวลา”
[ads]
โรคพยาธิตืดหมูในระบบประสาทนี้ มักพบในสัตว์กินพืช อาทิ แกะ วัว และกระบือ และภายหลังมีพบบ้างในสัตว์กินเนื้ออย่างสุนัขและแมว ทั้งนี้สามารถมีโอกาสเกิดขึ้นในมนุษย์ได้เช่นกัน อันเกิดจากการทานอาหารสกปรกสุก ๆ ดิบ ๆ ที่มีพยาธิปะปนอยู่
อย่างไรก็ตาม ทีมศัลยแพทย์ได้ทำการผ่าตัดให้เด็กหญิงนิตาเป็นเวลา 2 ชัวโมงครึ่ง การผ่าตัดดำเนินไปด้วยดี และสามารถนำถุงน้ำพยาธิดังกล่าวออกมาได้สำเร็จ โดยเธอได้นอนพักรักษาตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก็เริ่มหายกลับสู่ภาวะปกติ
หากไม่อยากเป็นเหมือนกับเธอคนนี้ ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารตั้งแต่วันนี้ เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ หรือได้มาตรฐาน เพื่อร่างกายที่แข็งแรงไร้โรคภัยเช่นนี้ตลอดไป เพราะคนไทยก็มีคนนิยมทานอาหารสุกๆดิบๆอยู่ไม่น้อย จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราต้องระมัดระวังเอาไว้ให้มาก
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก manyum.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ