คนปกติควรจะต้องถ่ายอุจจาระทุกวัน แต่คนที่ถ่ายยากถ่ายเย็นนี่สิ น่าสงสารมากๆเลยนะคะ เพราะการที่เราไม่ถ่ายอุจจาระทุกวัน จะทำให้เกิดการสะสมและหมักหมมของสิ่งปฏิกูล และรวมออกมาเป็นก้อนอุจจาระที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายในอนาคตได้
ดังนั้น เราจึงควรเริ่มต้นสังเกตอุจจาระกันตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะคนไหนที่มักมีปัญหาถ่ายไม่ออก ยิ่งต้องศึกษาเรื่องนี้โดยละเอียด เพราะอุจจาระที่เราขับถ่ายออกมาในทุก ๆ วัน มันไม่ใช่แค่ของสกปรกที่เราต้องเบือนหน้าหนี แต่ทั้งสี กลิ่น และขนาด สามารถบ่งบอกถึงภาวะสุขภาพของเราได้มากมาย
สัญญาณเตือนจากอุจจาระ
1. อุจจาระแข็ง และเป็นเม็ดกลม ๆ เล็ก ๆ
อาการแบบนี้แสดงว่าร่างกายได้รับน้ำและไฟเบอร์ไม่เพียงพอ น้อยไปที่จะกำจัดของเสียออกจากร่างกาย หรือหมายความว่าก้อนอุจจาระนั้นอยู่ในร่างกายของเรานานเกินไป
วิธีแก้ไขคือ เพิ่มปริมาณน้ำที่ดื่มในแต่ละวัน และเพิ่มการรับประทานอาหารที่มีเส้นใย หรือไฟเบอร์
2. อุจจาระมีสีดำ
สีเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติภายในร่างกาย หากอุจจาระมีสีเข้มไม่เหมือนสีของเลือดสดๆ นั่นอาจจะบ่งบอกได้ว่า กำลังเกิดปัญหาในระบบการย่อยอาหาร หรืออาจเป็นผลกระทบจากการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก หรือจากยาบางชนิดที่รับประทานเข้าไป
วิธีแก้ไขคือ เมื่อพบความผิดปกติแบบนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน
3. ถ่ายเหลว แต่ไม่ถึงกับท้องเสีย
อาการถ่ายเหลวอาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นอาหารที่บูดหรือเน่าเสียเสมอไป แต่เป็นเพียงแค่อาหารบางอย่างที่รบกวนระบบการย่อยของร่างกายก็เป็นได้ ซึ่งอาหารเหล่านี้จะทำให้ร่างกายสร้างมูกหรือเมือกขึ้นมา และทำให้อุจจาระเหลวกว่าปกติได้
วิธีแก้ไขคือ หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้มีการถ่ายเหลวได้ เช่น อาหารจำพวกนม ไข่ และกลูเตน
4. อุจจาระมีกลิ่นเหม็นมาก หรือเหม็นมากกว่าปกติ
กลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะอุจจาระตกค้างอยู่ในร่างกายนานเกินกว่าที่ควรจะเป็น ยิ่งอยู่นานเท่าไหร่…แบคทีเรียในลำไส้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น จนเกิดการหมักหมมและกลายเป็นกลิ่นเหม็นออกมาพร้อมอุจจาระ
วิธีแก้ไขคือ การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง และดื่มน้ำให้เพียงพอ แต่ถ้าลองแก้ไขแล้ว แต่กลิ่นยังคงเหม็นมากอยู่ อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ เพราะกลิ่นที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากพยาธิ เชื้อไวรัส หรือการอักเสบเนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรียก็ได้
5. อุจจาระมีสีซีด
เริ่มต้นจากการตรวจเช็คการทำงานของตับ โดยสีของอุจจาระที่เหมาะสมควรจะเป็น 'สีน้ำตาล' หากอุจจาระมีสีซีดมากเกินไป อาจจะเป็นผลมาจากการที่ตับผลิตน้ำดีได้ไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถขจัดสารพิษได้ดี
วิธีแก้ไขคือ ควรรีบปรึกษาแพทย์
6. อุจจาระมีเลือดปน
การมีเลือดปนออกมากับอุจจาระอาจมีสาเหตุหลายอย่างประกอบกัน เช่น เบ่งอุจจาระมากเกินไปทำให้เยื่อบุในทวารฉีกขาด ซึ่งกรณีนี้เลือดที่ออกมานั้น จะมีปริมาณไม่มาก (น้อยกว่าครึ่งช้อนชา) และจะรู้สึกเจ็บร่วมด้วย
แต่ทั้งนี้ การทีมีเลือดออก ก็อาจมีสาเหตุมาจากริดสีดวงภายใน หรือปัญหาในลำไส้ และระบบการย่อยอาหารก็ได้เช่นกัน
วิธีแก้ไขคือ เนื่องจากเกิดได้หลายสาเหตุ และมีอาการหลายระดับ จึงต้องให้แพทย์ตรวจเช็คอย่างละเอียด
[ads]
7. อุจจาระมีสีเขียวเหมือนสาหร่าย
การรับประทานผักมากๆก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะบางครั้งการรับประทานผักใบเขียวมากเกินไป อาจทำให้สีของอุจจาระกลายเป็นสีเขียวได้ แต่ก็มีบางกรณีเช่นกันที่สีของอุจจาระเปลี่ยนไปเพราะเกิดจากการที่อาหารผ่านระบบการย่อยที่รวดเร็วเกินไป ร่างกายไม่มีเวลาเพียงพอในกระบวนการเปลี่ยนสีของอุจจาระ ทำให้อุจจาระกลายเป็นสีที่ผิดปกติ
8. อุจจาระมีสีฟ้าหรือสีม่วง
การมีอุจจาระสีฟ้าหรือม่วงเป็นเพราะคุณรับประทานอาหารที่มีสีจัดมากไป สีของอาหารก็จะส่งผลต่อสีของอุจจาระได้เช่นกัน ดังนั้นกรณีนี้จึงไม่ต้องวิตกกังวลมากจนเกินไป
แล้วอุจจาระที่ดีต้องเป็นอย่างไร?
อุจจาระที่ดีควรมีสี "สีน้ำตาล" และมีรูปร่างเหมือน "กล้วยหอม"
ใครที่ถ่ายอุจจาระออกมาแบบนี้ ต้องยินดีด้วย เป็นอุจจาระที่ดี ประกอบด้วยน้ำ 75% แบคทีเรียและไฟเบอร์ 25% ยิ่งถ้าความยาวของอุจจาระประมาณ 1 ฟุต และมีความใหญ่ประมาณหลอดยาสีฟัน นั่นหมายถึงคุณได้ไฟเบอร์เพียงพอ และระบบการย่อยอาหารของคุณก็ทำงานเป็นปกติดี
ต่อจากนี้ต่อไป ก่อนจะหันไปกดชักโครก อยากให้ลองหันไปดูอุจจาระของตัวเองดูสักนิด หากพบความผิดปกติ หรือพบสิ่งน่าสงสัย ก็ไม่ควรดูดาย รีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นในร่างกายก็ได้
แค่เริ่มต้นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย เท่านี้ก็ช่วยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้แล้ว
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก health.sanook.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ