ผักผลไม้ที่มีสีม่วงหรือสีแดงเข็ม ที่เป็นสีพิเศษที่เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นกัน ล้วนแต่เป็นแหล่งของสารอาหารคุณภาพดี ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ แครอทม่วง รวมไปถึง ”กะหล่ำปลีสีม่วง” ก็เป็นแหล่งของสารอาหารที่ดีทั้งนั้น
อย่างที่วันนี้เราจะมานำเสนอคุณประโยชน์ที่ดีของ “กะหล่ำปลีม่วง” ซึ่งหลายคนอาจจะไม่กล้ากิน เพราะคิดว่าสีม่วงดูแปลกตาไปจากกะหล่ำปลีทั่วๆไปที่เราเคยกินกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สีม่วงที่เราเห็นนี้เป็นแหล่งของสารอาหารที่เราควรหามาทานให้ได้ทุกวัน ยิ่งทานยิ่งดีต่อสุขภาพจริงๆ เพราะนอกจากสีสันที่ดูแปลกตาแล้ว กะหล่ำปลีม่วงยังอุดมไปด้วยคุณค่าและสารอาหารมากมายอีกด้วย
ประโยชน์ของกะหล่ำปลีสีม่วง
1. รักษาแผลในกระเพาะ
ใครที่ปวดท้องเนื่องจากมีแผลในกะเพราอาหาร ให้กะหล่ำปลีม่วงเยียยาคุณสิค่ะ เพราะกะหล่ำปลีม่วง มีสาร เอส-เมทิลเมไธโอนีล (S-methylmethionine) หรือเรียกอีกอย่างว่าวิตามินยู ซึ่งใช้ในการสมานแผลในกระเพาะอาหารได้ ดังนั้น จึงช่วยบรรเทาอาการปวดท้องที่เกิดจากแผลในกระเพาะอาหาร และช่วยให้น้ำย่อยหลั่งเป็นปกติได้
นอกจากนี้ กะหล่ำปลีม่วงยังมีสารอินไทบินคอยกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนไปหล่อเลี้ยงระบบย่อยอาหาร รวมถึงอวัยวะต่างๆโดยรอบได้ดี จึงทำให้เราสามารถย่อยอาหารได้ดีขึ้น
2. แก้แฮงค์ได้ด้วย
คนไหนที่รักการสังสรรค์ยามราตรีต้องชอบประโยชน์ข้อนี้ของกะหล่ำปลีม่วงแน่ๆ เพราะถ้าทานกะหล่ำปลีม่วงคู่ไปกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กะหล่ำปลีม่วงจะช่วยแก้แฮ้งก์หลังดริงก์อย่างหนักได้
ทั้งนี้ก็เพราะ ผักชนิดนี้มีน้ำเป็นส่วนประกอบมาก เมื่อรับประทานเข้าไป…น้ำภายในผักจะไปเจือจางแอลกอฮอล์ในร่างกาย ทำให้การดื่มแอลกอฮอล์ของคุณมีความสุขมากขึ้นยังไงละค่ะ
3. บำรุงสมองเจ้าตัวน้อยในครรภ์
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ต้องฝึกทานกะหล่ำปลีม่วงเข้าไปด้วย เพราะกะหล่ำปลีม่วงมีกรดโฟลิกสูง สารตัวนี้ช่วยเสริมสร้างสมองของทารกในช่วงสร้างอวัยวะได้ อีกทั้งยังป้องกันความผิดปกติของ DNA รวมถึงเซลล์ต่างๆ ของทารก ลูกน้อยของคุณจะได้เจริญเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงไงค่ะ
นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถเอามาประคบเต้านมเพื่อบรรเทาอาการปวดตึงคัดเต้านมได้อีกต่างหาก คุ้มสุดๆไปเลย
[ads]
4. วิตามินซีสูงกว่า และช่วยบำรุงประสาท
เมื่อเทียบวิตามินซีในกะหล่ำปลีม่วงและกะหล่ำปลีปกติแล้ว พบว่า การทานในปริมาณเท่ากัน คุณจะได้รับวิตามินจากกะหล่ำปลีม่วงมากว่าถึงสองเท่าตัว
นอกจากนี้ กะหล่ำปลีม่วงยังมีสารซัลเฟอร์ที่ช่วยบำรุงระบบประสาท ทำให้นอนหลับง่ายด้วย
ข้อควรระวังในการกินกะหล่ำปลี
1. การรับประทานกะหล่ำปลีดิบ ๆ ครั้งละมาก ๆ อาจมีผลเสียต่อร่างกายเพราะในกะหล่ำปลีมีสาร Goitrogen ซึ่งจะขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทำให้ต่อมไทรอยด์นำไอโอดีนที่อยู่ในเลือดไปใช้ได้น้อย และทำให้เกิดภาวะขาดไอโอดีนนั่นเอง
2. สาร Goitrogen จะหายไปเมื่อนำกะหล่ำปลีไปลวกสุกก่อนรับประทาน
แม้ว่ากะหล่ำปลีสีม่วงจะนิยมนำมารับประทานสด หรือเป็นเมนูสลัดมากกว่า แต่ก็สามารถนำมารับประทานในรูปแบบอื่น ๆ ได้เช่นกัน คุณสามารถรับประทานในรูปแบบเดียวกับกะหล่ำปลีปกติได้เลย แถมยังได้ประโยชน์ที่มากกว่าด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผักแต่ละชนิดจะมีประโยชน์แค่ไหน แต่ควรกินแต่พอดีและกินสลับกับผักอื่นๆ บ้างเพื่อให้ได้ประโยชน์ครบทุกด้าน และร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ลองดูสิค่ะ!
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก ch3.sanook.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ