แจกฟรี! สูตร ‘ปลาทูต้มเค็ม’ รสเลิศ ก้างเปื่อย สูตรไม่ลับตำรับชาววัง ที่ชาวบ้านก็ทำกินเองได้





วันนี้เราจะมาเปิดเผยสูตร ‘ปลาทูต้มเค็ม’ ฉบับชาววัง สูตรตำหนักสวนสุนันทากัน รับรองว่าอร่อย ก้างเปื่อยละลายจนทานได้ทั้งตัว และรสชาติที่ได้ก็ซึมเข้าเนื้อปลาทู เหมาะอย่างยิ่งกับการทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆสักจาน วิธีการและเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ตรงไหน มาจดสูตรไปพร้อมๆกันเลยค่ะ

 

เริ่มต้นที่วัตถุดิบกันก่อน เคล็ดลับความอร่อยอย่างแรกที่ต้องให้ความสำคัญ ก็คือ การเลือกปลาทู โดยปลาทูที่ดีต้องมีเนื้อแข็ง ตาใส ไม่มีคราบติดบนตัวปลา ส่วนหัวกับส่วนลำตัวจะต้องไม่หลุดออกจากกัน กลิ่นสด ไม่เหม็นหืน เหม็นเปรี้ยว หรือว่าเหม็นเน่า ซึ่งแสดงถึงความสดใหม่ และถ้าเราใช้วัตถุดิบดี รับรองว่าอาหารจานนี้อร่อยแน่

 

ตามมาด้วยเครื่องปรุงอื่นๆที่สำคัญ พร้อมทั้งวิธีทำที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ดังต่อไปนี้

 

อุปกรณ์และเครื่องปรุงหลัก

1) ปลาทูสดตัวโต ๆ 

2) ท่อนอ้อยผ่าบาง ๆ ขนาดพอดีหม้อ

3) มันหมู

4) มะขามเปียก

5) น้ำปลาหรือเกลือ

6) น้ำตาลปีบหรือน้ำตาลมะพร้าว

 

ขั้นตอนการทำ

1. ล้างปลาทูให้สะอาด ผ่าไส้

 

1464.3

 

2. วางปลาทูเรียงลงบนท่อนอ้อย ซึ่งวางรองก้นหม้อไว้ก่อนแล้ว ท่อนอ้อย นอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติ ยังช่วยป้องกันหม้อไหม้ได้ด้วย แถมเนื้อปลาจะไม่เละแม้จะเคี่ยวหลายวันก็ตาม

 

3. หั่นมันหมูเป็นชิ้นๆ โรยลงบนตัวปลาให้ทั่ว

 

[ads]

 

4. เตรียมน้ำปรุงรส โดยขยำมะขามเปียก น้ำตาลปีบ เกลือหรือน้ำปลาเข้าด้วยกัน จะใช้ปริมาณเท่าใด ขึ้นอยู่กับจำนวนปลาทูที่นำมาทำ ชิมรสชาติให้มีรสเปรี้ยวหวานนำ ตามด้วยรสเค็ม

 

5. ราดน้ำปรุงรสให้ทั่วตัวปลา ยกหม้อขึ้นบนเตา เติมน้ำเปล่าให้ท่วมตัวปลา เพื่อให้น้ำปรุงรสซึมเข้าเนื้อปลา ปิดฝาเคี่ยวจนกว่าจะเดือด

 

1464.2

 

1464.1

 

6. เมื่อน้ำลดลงให้เติมน้ำเปล่าให้ท่วมตัวปลาแล้วอุ่นจนครบ 3 วัน ชิมรสชาติและปรุงรสเพิ่มนิดหน่อย

 

7. นำมันหมูออก ตักปลาใส่จาน หั่นพริกชี้ฟ้าแดงเป็นเส้น ขิงซอย หอมซอย โรยหน้าปลา ตกแต่งด้วยผักชีเพิ่มสีสัน ราดน้ำพอขลุกขลิก

 

1464.4

 

ถ้าได้ข้าวสวยร้อนๆสักจานก็คงจะดีแน่ๆ รับรองว่ากินกันได้อย่างจุใจสุดๆไปเลย

หลายคนอาจมีคำถามว่าทำไมต้องเคี่ยวนานขนาดนี้ คำตอบก็คือ การใช้เวลาเคี่ยวถึง 3 วัน จะทำให้ก้างเปื่อยและปลาทูได้รสชาติมากขึ้น มีรสเปรี้ยวหวานนำ ตามด้วยรสเค็ม เนื้อปลาแข็งไม่ยุ่ย ก้างเปื่อยละเอียด กินได้ทั้งตัว แต่ถ้าใครอยากทานแบบทันทีก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ความอร่อยอาจจะลดลงเท่านั้นเอง

 

แต่ใครอยากกินแบบไม่ต้องเสียเวลาสามารถหาซื้อรับประทานได้ที่ตลาดดอนหวาย ที่นี่เขามีชื่อเสียงค่อนข้างมาก แต่อาจจะไม่ได้ความภูมิใจสักเท่าไหร่ ลองทำกินเองดีกว่าเนอะ

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก sunandhanews.com และ bansuanporpeang.com

 

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: