(ประสบการณ์น่าคิด) โชคดีที่ทำประกันไว้ ไม่อย่างนั้นต้องรับผิดชอบค่ารักษาเกือบ 2 แสน





กรมธรรม์ประกันภัยในปัจจุบันมีความหลากหลายมากจนขนาดที่ว่าบริษัทต่างๆ พากันแข่งจัดโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้า และเราก็มักจะได้ยินข่าวร้ายในมุมมองผู้บริโภคกันมาบ้างเกี่ยวกับการถูกเอารัดเอาเปรียบของตัวแทนหรือบริษัท จนหลายคนเริ่มหวาดระแวงไปแล้วว่าบริษัทประกันเอาเปรียบผู้บริโภค ไม่น่าไว้วางใจ แต่อย่างไรเสียอีกด้านหนึ่งมันก็คือความคุ้มครองสมชื่อ "ประกัน" ที่ทำให้เราอุ่นใจได้บ้างว่าหากเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย เราก็ไม่ต้องกระอักเลือดรับผิดชอบคนเดียวเพียวๆ กับค่าใช้จ่ายแสนสาหัส ถ้าจะกล่าวง่ายๆ ก็คือ "ก็พอจะมีกรมธรรม์ที่จริงใจต่อลูกค้าบ้าง แต่ลูกค้าก็ต้องฉลาดเลือกกันหน่อย"

ดังเช่นประสบการณ์ของชาวพันทิปSherlockoam ที่ลูกของเขาป่วยจนต้องนอน รพ.เอกชน 11 วัน โดนค่าใช้จ่ายไป 196,714 บาท โชคดีที่เขาทำประกันกับบริษัทหนึ่งไว้ จึงไม่ต้องแบกภาระแสนโหดนี้ไว้ลำพัง

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงการบอกเล่าประสบการณ์เพื่อให้ผู้อ่านได้คิดวิเคราะห์ถึงการบริโภคอย่างคุ้มค่า มิได้มีเจตนาแฝงโฆษณาหรือดิสเครดิตแต่อย่างใด

ฤดูฝนเป็นช่วงที่การเจ็บไข้ได้ป่วยมาเยี่ยมเยียนเราได้บ่อยที่สุด ถ้าเกิดกับผู้ใหญ่เองก็ไม่น่าห่วงเท่าไร แต่ถ้าเกิดกับลูกน้อยของเราๆ ท่านๆ แล้วมันสงสารเด็กจับใจครับ

ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้เพราะต้องการแชร์ประโยชน์ในการทำประกันสุขภาพ ลูกผม อายุ 1 ปี 9 เดือน ต้องนอนรพ.เป็นเวลา 11 วัน เนื่องจากในชีวิตของผมไม่เคยต้อง Admit เลย พอลูกต้องเข้า Admit เลยไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรยังไง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายอันแสนโหดร้าย ออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ได้ขายประกัน ไม่ได้มีอาชีพเกี่ยวข้องกับประกันนะครับ แค่อยากแชร์ประสบการณ์

ลูกผมเข้า Admit ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งแถวซอยศูนย์วิจัยเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 57 – 18 ส.ค. 57 ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 11 วัน ด้วยอาการไข้สูง 40 องศา จนมีอาการชัก ผล Lab ออกมาว่าลูกผมติดเชื้อไวรัสชื่อ RSV (http://www.tinyzone.tv/HealthDetail.aspx?ctpostid=2783) ซ้ำร้ายไปกว่านั้น พอ RSV ใกล้ๆจะหาย ดันเป็นไข้หวัดใหญ่อีก กว่าจะหายก็นู่นแหละครับ 11 วัน ไข้สูงสลับกับไข้ต่ำสลับกับบางวันก็ไม่มีไข้ ไปๆมาๆไม่ได้ออกจากรพ.ซักที

มาถึงวันที่ได้ออกจากรพ. วันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ผมแจ้งความประสงค์กับทาง รพ.ไปแล้วว่าใช้ประกัน 2 ฉบับคือฉบับแรก กรุงไทย AXA และฉบับที่สอง AIA  ทาง รพ.ก็ไปจัดการเรื่องทำเคลมอะไรของเขาเอง ผมได้มารู้ยอดเอาก็ตอนที่เดินเรื่องเรียบร้อยแล้ว พอมาเห็นบิลถึงกับ เงิบบบบบบบบบบบบบ

เด็กยังไม่ 2 ขวบ นอนรพ. 11 วัน ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 196,714.00 บาท คืออีก 3 พันกว่าบาทครบ 2 แสน surprisesurprisesurprise
ผมนี่คิดเลยว่าหากไม่มีประกันนี่ จุกแน่นอนครับท่าน บางคนเก็บเงินกี่ปีครับ 2 แสน ละลายภายใน 11 วัน เดี๋ยวผมจะให้ดูบิลครับ

pk1

pk2

สองรูปข้างบนคือบิลค่าใช้จ่ายทั้งหมดครับ และเป็นบิลที่ รพ.แฟกซ์เคลมไปยัง AXA ซึ่งเป็นการเคลมฉบับแรกและข้างล่างนี้คือใบตอบรับการเคลมจาก AXA ครับ

pk3

ที่ผมวงสีแดงไว้คือยอดเรียกเก็บจาก รพ. สีเขียวคือยอดที่ประกันอนุมัติจ่าย และสีเหลืองคือยอดส่วนเกินกรมธรรม์ครับ AXA คุ้มครองผมรวมทั้งสิ้น 164,679.50 บาท จากยอดทั้งหมด เหลือค้างชำระอีก 32,034.50 บาทซึ่ง รพ.จะทำการเรียกเก็บยอดนี้กับ AIA ซึ่งยื่นเคลมเป็นฉบับที่สองดังรูปข้างล่างครับ

pk4

ด้วยว่า รพ.อาจมีข้อตกลงกับประกันยังไงไม่ทราบ AIA ได้ส่วนลดจาก รพ.ไปอีก 2 พันกว่าบาท เหลือยอดที่เคลมจริงๆคือ 29,816.37 บาทซึ่ง AIA ส่งใบตอบรับการเคลมมาดังนี้ครับ

pk5

AIA คุ้มครอง 29,727.37 บาท ทำให้ผมเหลือยอดที่ต้องชำระอยู่ที่ 89 บาท และด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบ รพ.ลดให้ผม 9 บาท (ใจดีฝุดๆ ซึ้งงงงง ถุ๊ยยยยส์) ดังใบเสร็จข้างล่างนี้ครับ

pk6

สรุปว่าประกันจ่ายแทนผมไปเรียกได้ว่า 100% ไม่งั้นผมคงอ่วมอ่ะครับ smiley
ท้ายนี้ผมอยากฝากพ่อ-แม่ทุกท่านนะครับ ทำประกันสุขภาพแล้วไม่ได้ใช้อ่ะ ดีที่สุดครับ แต่มันเหมือนกับว่าทำให้เราวางแผนค่าใช้จ่ายในเรื่องค่ารักษาพยาบาลของลูกได้ง่ายขึ้นครับ บางคนอาจจะบอกว่าโห ถ้าต้องจ่ายเบี้ยปีละ 7-8 หมื่นสู้เก็บเงินไว้จ่ายค่ารักษาเองไม่ดีกว่าเหรอ ผมคิดยังงี้นะครับ 

1. ถ้าการรักษานั้นใช้เงินเกือบล้านล่ะครับ ไม่ใช่ 2 แสนแบบเคสผม จะยังคุ้มอยู่มั้ยครับกับการจ่ายเงินก้อนขนาดนั้น
2. เราจ่ายเบี้ยประกัน เรารู้ล่วงหน้าครับว่าเราต้องจ่ายเมื่อไหร่ จ่ายเท่าไหร่ ทำให้การวางแผนการเงินเราง่ายขึ้นครับ ถ้ารอจ่ายตอนหาหมอ คุณคาดเดาไม่ได้เลยนะครับว่าจะป่วยเมื่อไหร่ หนักแค่ไหน ต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ 
3. จริงอยู่ที่ประกันอาจจะไม่คุ้มครองค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100% แต่สมมติจากที่คุณต้องจ่าย 3 แสน เหลือจ่ายเองแค่ 5 หมื่นจะดีกว่าไหมครับ จะช็อคน้อยกว่าไหมครับ
4. แน่ใจเหรอครับว่าถ้าไม่จ่ายเบี้ยแล้วเงินจำนวนนั้นคุณจะเก็บออมไว้ได้ ไม่เอาไปใช้

ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับประกันมากนัก อาจเพราะผมไม่เคยป่วยจนต้องนอน รพ.เลยก็ได้ พอเห็นค่าใช้จ่ายการพักฟื้นที่รพ.สมัยนี้แล้วแบบ โอ้วววววววว กลับมาทบทวนใหม่ทันที

ฝากไว้ให้แม่ๆที่เข้ามาอ่านลองพิจารณานะครับ ส่วนจะเลือกประกันเจ้าไหน ตัวแทนไหน ก็ตามสบายครับ ดูความคุ้มครองให้เหมาะสมกับตัวท่านครับ
 


ขอบคุณข้อมูลจาก ล็อกอินSherlockoam เว็บไซต์http://pantip.com/topic/32483024
เรียบเรียงใหม่โดย Thaijobsgov

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: