ใครชอบทานผักผลไม้ต้องรู้! เรียงลำดับ 13 ผักผลไม้ที่มี “สารพิษ” ตกค้างมากที่สุด พร้อมแนะวิธีลดสารพิษที่ดีที่สุด





ใช่ว่าทานผัก ทานคลีน แล้วจะได้รับแต่ประโยชน์ เพราะหากคุณเลือกรับประทานผักผลไม้บางชนิดที่มีสารตกค้างของยาฆ่าแมลงสูง ก็จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาได้

 

ตามที่เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือ ไทยแพน (Thai-PAN) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบสารพิษในผักผลไม้ชนิดต่างๆ พบการตกค้างของสารพิษ ที่นับได้ว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคพอสมควรหากได้รับเข้าไปมากเป็นระยะเวลานานๆ

 

13 ผักผลไม้ตกค้าง “สารพิษ” จากยาฆ่าแมลงมากไปน้อย พร้อมเปอร์เซ็นการตรวจพบสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างที่เกินมาตรฐาน ดังต่อไปนี้

 

1. พริกแดง 100%

2. ส้ม 100%

3. ฝรั่ง 100%

4. แก้วมังกร 71.4%

5. มะละกอ 66.7%

6. กะเพรา 66.7%

7. ถั่วฝักยาว 66.7%

8. คะน้า 55.6%

9. มะม่วงน้ำดอกไม้ 44.4%

10. ผักกาดขาวปลี 33.3%

11. ผักบุ้งจีน 22.2%

12. มะเขือเทศ 11.1%

13. แตงกวา 11.1%

 

1439.1

 

1439.2

 

นอกจากนี้ยังพบว่า จำนวนตัวอย่างของผักและผลไม้ซึ่งจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดซึ่งผู้บริโภคต้องจ่ายแพงกว่ากลับมิได้มีความปลอดภัยมากกว่าตลาดสดโดยทั่วไป เพราะมีจำนวนตัวอย่างการตกค้างเกินมาตรฐานถึง 46% ในขณะที่ตลาดสดมีสัดส่วนมากกว่าเล็กน้อยที่ 48%

 

[ads]

 

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่า แล้วเราจะกินอะไรได้บ้างละทีนี้ นู้นก็เป็นพิษ นี่ก็อันตราย ไม่ต้องกินเสียเลยดีไหม? อย่าเพิ่งเป็นกังวลไปค่ะ เพราะเราสามารถลดสารพิษต่างๆก่อนเอาอาหารเหล่านี้เข้าปากได้

 

 

โดยก่อนเลือกซื้อผักผลไม้มาทาน อย่าคิดว่าแม่ค้าหรือชาวสวนทุกคนจะขายของดี ปลอดสารพิษให้แก่เรา อย่างน้อยก็ควรล้างทำความสะอาดด้วยวิธีที่ถูกต้องให้เรียบร้อยก่อนลงมือประกอบอาหารทุกครั้ เพื่อลดการตกค้างของสารฆ่าแมลง หรือเชื้อโรคต่างๆ และเพื่อป้องกันมิให้เกิดโรคอุจจาระร่วง หรือโรคร้ายแรงอื่นๆ เพราะวิธีการนี้จะช่วยลดการสะสมของสารพิษได้ไม่มากก็น้อย ด้วยวิธีเหล่านี้

 

 

1. ใช้มือคลี่ใบผักและเปิดน้ำจากก๊อกให้ไหลแรงพอประมาณ ปล่อยให้น้ำไหลผ่านผักประมาณ 2 นาที  วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษฆ่าแมลงได้ประมาณ 25-39 % แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ค่อนข้างจะเปลืองน้ำและยังไม่สามารถกำจัดสารพิษได้ถึงในระดับที่ปลอดภัย

 

1439.3

 

2. หากผักชนิดใดมีเปลือกชั้นนอกก็ให้ลอกหรือปอกเปลือกชั้นนอกออก เช่น กะหล่ำปลี ควรเด็ดผักเป็นใบๆ แล้วแช่น้ำสะอาด

 

3. หากยังไม่มั่นใจว่าผักสะอาดดีแล้วหรือไม่ ให้ใช้น้ำส้มสายชู (5%) ช่วยในการล้างผัก โดยผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 1 กะละมัง แช่ผักทิ้งไว้ 10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรืออาจจะใช้น้ำยาล้างผักก็ได้ถ้ามี วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษได้ประมาณ 60-84 %

 

4. หากคิดว่ายังไม่ดีพอให้นำผักไปแช่ในน้ำเบกกิ้งโซดา ที่ความเข้มข้นเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำอุ่น 20 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ 15 นาทีเช่นกัน วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษได้ถึง 90-95 %

 

5. การใช้ความร้อนโดยการนำเอาผักไปลวกหรือต้ม สามารถลดปริมาณสารพิษตกค้างได้เช่นกัน แต่จะลดได้เพียงแค่ 50% เท่านั้น และความร้อนอาจส่งผลให้วิตามินบางชนิดที่อยู่ในผักสูญเสียไปด้วย

 

ไม่มีใครดูออกหรอกค่ะว่าผักผลไม้นั้นๆมีสารตกค้างอยู่มากน้อยเท่าไหร่ ยิ่งผักผลไม้ดูสวยมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะมีสารตกค้างอยู่มากก็เป็นไปได้สูง ในทางตรงกันข้าม ก็ไม่ใช่ว่าผักที่ไม่สวยจะไร้สารตกค้างเสมอไป

 

การล้างผักให้สะอาดจึงย่อมจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดก่อนที่จะป้อนเอาอาหารเหล่านั้นเข้าสู่ปากตัวเอง หากทุกคนป้องกันตัวเองขั้นต้นได้ รับรองว่าคุณจะมีสุขภาพที่แข็งแรงได้มากกว่าเดิมแน่นอน

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก thaipan.org

 

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: