ลองเลย! สารพัดวิธีกำจัด “รา” ออกจาก”สิ่งของ” ภายในบ้าน ทำได้ให้ประโยชน์จริง!





ฝนตกเกือบทุกวัน จะทำอย่างไรได้กับก็เราไม่สามารถควบคุมดินฟ้าอากาศได้นี่หน่า และนอกจากฝนจะทำให้รถติดหรือไม่สบายแล้ว อันตรายอีกหนึ่งอย่างที่มาพร้อมกับความชื้น ก็คือ"เชื้อรา" ที่สามารถขึ้นได้เกือบทุกที่ที่มีความชื้น อากาศถ่ายเทไม่ถึง

รา ไม่ได้สร้างแค่ความรำคาญตา หรือรำคาญใจแก่เราเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคภูมิแพ้และโรคร้ายแรงต่างๆ ได้อีกด้วย

 

เชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ตาเรามองไม่เห็น แต่อาจเป็นพิษต่อมนุษย์ได้ไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ป่วยบางคนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งเชื้อรามักจะพบในสภาพแวดล้อมที่มืดและชื้น อากาศหน้านี้จึงเอื้อต่อการเติมโตของเชื้อราแบบสุดๆ  

เชื้อราจะพัฒนาเป็นเส้นใยเล็กๆและแพร่พันธุ์ด้วยการสร้างสปอร์ขนาดเล็กมากๆ ซึ่งมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความชื้นจะส่งเสริมต่อการเติบโตของเชื้อรา ดังนั้น ช่วงหน้าฝนแบบนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องระวังภัยจากเชื้อราให้มากๆ

 

สูดดม ‘รา’ เข้าไปจะเกิดอะไรขึ้น?

เราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงการรับสปอร์ของราได้ 100 % เพราะในสิ่งแวดล้อมมีสปอร์ของราล่องลอยไปมาอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ร่างกายก็มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นขนจมูกหรือระบบต่อต้านภายในร่างกาย แต่เมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอ การได้รับปริมาณเล็กน้อยก็อาจเป็นอันตรายได้ ส่วนคนที่มีอาการภูมิแพ้หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง ก็จะทำให้พวกเขามีอาการแย่ลงได้ อย่างไรก็ตาม การจะเป็นอันตรายหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับ ‘ชนิดของรา’ ด้วย ว่าเป็นชนิดที่ก่อให้เกิดโรคหรือไม่

 

ส่วนมากแล้ว เชื้อราเหล่านี้จะก่อให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้ ทั้งทางระบบหายใจหรือผิวหนัง  ซึ่งจะเกิดเฉพาะคนที่แพ้เท่านั้น ไม่เกิดกับคนทั่วไป  โดยอาการแพ้ที่อาจพบได้ เช่น น้ำมูกไหล หายใจไม่ออก น้ำตาไหล มีผื่น ผิวหนังอักเสบ จมูกอักเสบ เป็นต้น

 

กลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่ คนที่เป็นโรคเอดส์ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ  ผู้ที่กำลังมีการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์และเคมีบำบัด กลุ่มบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอด เช่นคนที่เป็นโรควัณโรค หรือ cystic fibrosis เป็นต้น

 

[ads]

 

อย่างไรก็ตาม เรามีวิธีการกำจัดราให้สิ้นซากมาฝากกัน จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูเลย

 

บริเวณพื้น, ผนัง, ประตูและหน้าต่าง : ห้ามฉีดน้ำเด็ดขาด

– พื้นกระเบื้อง ใช้แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาซักผ้าขาวที่ผสมน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 10 จากนั้นนำมาเช็ดคราบเชื้อรา ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 – 30 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำปกติ

– พื้นไม้ ใช้ผงฟูละลายน้ำ หรือใช้แอลกอฮอล์เช็ดคราบเชื้อราบนพื้นไม้ออกไป

1332.2

 

เสื้อผ้า, ผ้าม่าน : ควรแยกซักจากเสื้อผ้าอื่นๆ

วิธีที่ 1

1.  เทน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยรวมกับผงซักฟอก ใส่ลงไปในเครื่องซักผ้า

2. เลือกใช้โปรแกรมน้ำร้อนซักผ้า

3. ตากเสื้อด้วยแดดจัดๆ เพื่อให้แสงแดดและความร้อนช่วยกำจัดเชื้อรา

1332.3

 

วิธีที่ 2

1. ผสมน้ำมะนาวกับเกลือให้เป็นเนื้อข้นเหนียวพอเอาไปป้ายลงบนคราบเชื้อราให้ทั่ว

2. นำผ้าไปตากแดดจนแห้ง ก่อนนำมาซักด้วยน้ำร้อนและตากแดดจัดอีกรอบ

หมายเหตุ : ถ้าใช้น้ำมะนาวไม่ได้ผล ให้เปลี่ยนมาเป็นน้ำส้มสายชูที่มีฤทธิ์เป็นกรดมากกว่าแทน

1332.1

 

 

หมวก : ใช้แป้งฝุ่นเข้าช่วย

วิธีการคือ

1. โรยผงแป้งลงบนคราบเชื้อรา ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที

2. ใช้ที่ดูดฝุ่นขนาดเล็กดูดฝุ่นแป้งออก

หมายเหตุ : ไม่ควรใช้แปรงปัด เพราะฝุ่นเชื้อราจะฟุ้งกระจายในอากาศ

3. ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดฝุ่นที่ยังเหลืออยู่เบาๆ

4. นำหมวกไปตากแดด

 

 

รองเท้าหนัง : ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อน

วิธีการคือ

1. ทำความสะอาดรองเท้าด้วยสบู่อ่อนหรือครีมทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะ

2. นำไปตากแดดให้แห้งสนิท

1332.4

 

บริเวณห้องน้ำ : จัดการด้วยนำ้ส้มสายชูและเบกกิ้งโซดา​

วิธีการคือ

1. พ่นสเปรย์ส่วนผสมของน้ำส้มสายชูและน้ำลงบนบริเวณที่มีเชื้อรา ทิ้งไว้ 10-15 นาที

2. ใช้แปรงขัดบริเวณที่เป็นเชื้อราโดยรอบ

3. ขัดซ้ำด้วยผงเบกกิ้งโซดาและน้ำ

 

เต้นท์ : เกลือ มะนาว และนำ้เปล่าก็เอาอยู่

วิธีการคือ

1. แช่เต้นท์ลงในน้ำยาซักผ้า ทิ้งไว้ 30-45 นาที ใช้ฟองน้ำเช็ดถูให้ทั่ว

2. ล้างน้ำออกให้สะอาด

3. นำไปตากแดด โดยควรกลับด้านให้โดนแดดทั้ง 2 ฝั่ง

4. หากยังมีคราบเชื้อราเหลืออยู่ ให้ขัดบริเวณนั้นด้วยน้ำที่ผสมจากเกลือ 1 ถ้วย น้ำมะนาว 1 ถ้วย และน้ำ 2.5 แกลลอน จากนั้นปล่อยให้แห้ง

5. เคลือบด้านนอกของเต้นท์ด้วยน้ำยาที่ช่วยกันน้ำ

 

 

ข้อควรระวังเพิ่มเติม

1. ควรสวมหน้ากากและถุงมือก่อนกำจัดเชื้อราทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสูดดมและสัมผัสเชื้อรา

2. ระหว่างการทำความสะอาด ไม่ควรเปิดแอร์ฯ หรือพัดลม เพื่อป้องกันฟุ้งกระจายของเชื้อรา

3. หมั่นรักษาความสะอาดเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ให้สะอาด แห้งสนิท และไม่ควรเก็บไว้ในที่ที่มีความชื้นสูง

 

เมื่อสังเกตเห็นควรเชื้อรา ควรรีบกำจัดทันทีเพื่อไม่ให้เชื้อราขยายตัว แต่ทางแก้ที่ดีที่สุด คือ การพยายามจัดบ้านให้สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก และมีแสงแดดส่องถึง เพียงเท่านี้ชีวิตของคุณและคนในครอบครัวก็จะปราศจากการได้รับเชื้อรามาทำร้ายสุขภาพของคุณแล้วค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Liekr

 

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: