สำคัญมาก! วิธีดูแลสุขภาพผิวช่วงหน้าฝน





653_thaihealth_a9hiw7yeu1dv

        ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนทำให้มีฝนตกและมีน้ำเจิ่งนองตามท้องถนน รวมถึงน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เป็นสาเหตุทำให้เชื้อโรคหลายชนิด แพร่ระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะโรคที่เกิดขึ้นกับผิวหนังซึ่งเกิดจากความเปียกชื้นและรักษาความสะอาดไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียหรือ เชื้อราและการอักเสบของผิวหนังตามมาโดยโรคที่พบได้บ่อย คือ โรคน้ำกัดเท้า ซึ่งเกิดจากการแช่น้ำหรือเดินย่ำน้ำนานเกินไปจนเป็นเหตุให้ผิวหนังเปื่อย ยุ่ย และเกิดอาการระคายเคือง โรคเท้าเหม็น มักพบในผู้ชายที่มีเหงื่อเยอะหรือใส่ถุงเท้าที่ทำจากใยสังเคราะห์หนาๆ ซึ่งเวลาถอดรองเท้าอาจมีกลิ่นเหม็นโชยออกมา ผื่นภูมิแพ้ การอาบน้ำอุ่นจัดหรือร้อนเกินไปจะทำให้ผิวแห้ง เกิดอาการคันและผิวหนังอักเสบได้ง่าย โดยหลังจากอาบน้ำให้ใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำ

        นอกจากนี้ ผู้ที่ออกกำลังกาย เหงื่อออกหรือตากฝนแล้วไม่อาบน้ำ ทำให้ร่างกายชื้นแฉะ เป็นเวลานานมีโอกาสทำให้เกิดโรคเกลื้อน โดยจะมีลักษณะเป็นวงด่างๆ สีขาวหรือสีเนื้อ ในบางคนอาจขึ้นเป็นวงสีน้ำตาลร่วมกับมีขุยสีขาวเล็กๆ มักขึ้นบนผิวหนังบริเวณหน้าอกและลำตัว อาจมีอาการคันร่วมด้วย นอกจากการติดเชื้อที่ผิวหนังแล้ว ยังส่งผลให้เกิดกลิ่นอับ กลิ่นตัว เพราะเหงื่อจะระเหยได้ยากมากยิ่งขึ้น สำหรับเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทย คือ ผ้าที่ตัดเย็บจากผ้าฝ้ายบริสุทธิ์ เพราะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ สวมใส่สบาย แห้งง่าย ส่วนเนื้อผ้า ที่ต้องระวัง คือผ้าขนสัตว์ ผ้าไนลอน เพราะทำให้ผิวหนังเกิดระคายเคือง โดยมากมักเกิดผดผื่นคัน เพราะเนื้อผ้าจะกันเหงื่อไม่ให้ระเหยออกมา วิธีการป้องกันอาการแพ้เสื้อผ้า คือการซักเสื้อผ้าให้สะอาด หลังจากนั้นให้นำเสื้อผ้ามาผึ่งแดดจนแห้งสนิท โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ ควรทำความสะอาดและตากแดดให้แห้งสนิทจริงๆ เพราะเนื้อผ้าประเภทนี้หากเปียกน้ำ มักแห้งช้ากว่าผ้าปกติทั่วไป ทำให้เกิดความอับชื้น และอาจเป็นที่มาของเชื้อโรคได้

skin-rain

      สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ควรลดน้ำหนักตัวลงให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะคนอ้วนเสื้อผ้า มักจะเสียดสีกับผิวหนังทำให้เกิดการระคายเคืองและอับชื้นได้ เวลานอนควรสวมใส่เสื้อผ้า ที่โปร่งสบาย ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดชั้นในเวลานอน เพื่อให้จุดอับชื้นต่างๆ ของร่างกายได้มีการระบาย

สิ่งควรทำในการดูแลสุขภาพตนเองและสุขภาพผิวช่วงหน้าฝนคือ การดูแลร่างกายตนเองให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีวิตามิน C,E และเบต้าแคโรทีน เช่น ข้าวโพด แครอท ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ ดื่มน้ำสะอาดพักผ่อนให้เพียงพอและเมื่อเกิดความผิดปกติของผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยตรง

 

เรียบเรียงโดย Thaijobsgov

ข้อมูลจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพแห่งชาติ

รูปภาพจาก Google.com

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: