การขูดผิวหนัง“กัวซา” ศาสตร์การล้างพิษ 5,000 ปี





เราเชื่อว่าผู้ที่ชื่นชอบวิถีธรรมชาติบำบัด ไม่มีใครไม่รู้จักการกัวซา แต่ด้วยภาพปื้นสีแดงทั้งเข้มทั้งอ่อนที่แผ่กระจายเต็มแผ่นหลังของผู้ที่ได้รับการกัวซาดังที่เราเห็นก็บ่อยๆ  ดูน่าจะทั้งเจ็บ ทั้งแสบอยู่ไม่น้อย เเต่หากเราได้ทำความเข้าใจในกลไกการบำบัดด้วยกัวซาแล้ว เจ้าปื้นสีแดงบนแผ่นหลังของพวกเรา นับเป็นความเจ็บและแสบที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว

 

[ads]

 

   ศาสตร์การขูดกัวซานั้น มีความเป็นมายาวนานถึง 5,000 ปีเลยทีเดียว กล่าวกันว่า เกิดจากการค้นพบโดยบังเอิญของผู้หญิงคนหนึ่งขณะที่เธอกำลังอาบน้ำอยู่ที่ริมแม่น้ำ ทุกครั้งที่เธออาบน้ำ  เธอจะนำหินจากแม่น้ำขึ้นมาขัดผิวกายของเธอและค่อยๆ สังเกตได้ว่าการทำเช่นนี้เป็นประจำ มันทำให้เธอผ่อนคลายและเลือดลมไหลเวียนได้ดีขึ้น ต่อมาเมื่อใครมีอาการปวดศรีษะ ปวดตามร่างกายหรือเป็นไข้ พวกเขาก็จะนำช้อนกระเบื้องมาขูดในบริเวณที่มีอาการจนเกิดรอยจ้ำแดงๆ อาการปวดบริเวณดังกล่าวก็จะหายไป

 

 

*กัวซา มาจาก คำว่า กัว-การขูด และ ซา-รอยจ้ำสีแดงบริเวณผิว และซานี่เองเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการสะสมของพิษในร่างกายของเราที่ปรากฏออกมาทางผิวหนัง*

จุดเด่นของการทำกัวซา

-ทำง่าย สะดวก ได้ผลดีและสามารถทำได้ทุกวัน ในประเทศเวียดนาม ทุกๆ ครอบครัวจะสามารถทำกัวซาได้ เมื่อมีคนในบ้านมีอาการปวดหัว ปวดท้อง  ปวดหลัง  หรือเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดเชื้อ ก็จะทำการรักษาด้วยกัวซาเป็นอันดับแรก และในประเทศมาเลเซีย การกัวซาได้รับการยอมรับจนมีการตั้งโรงเรียนสอนการทำกัวซาโดยเฉพาะขึ้น

   ส่วนในด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน การขูดกัวซาจะมีผลทำให้เส้นเลือดฝอยที่มาเลี้ยงบริเวณผิวหนังมีการขยายตัวกว้างขึ้นหลายเท่าตัว เลือดจึงไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณนั้นได้มากขึ้นหลายเท่าตัวด้วย นอกจากนี้การขูดผิวหนังยังทำให้เกิดการซึมของเลือดออกมาเป็นน้ำเหลืองจำนวนมาก ซึ่งมีผลให้เกิดการหมุนเวียนน้ำเหลืองอย่างมีประสิทธิภาพ

   สรุปได้ว่า “กัวซา” เป็นการกระตุ้นและส่งเสริมให้การทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและน้ำเหลืองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหลายเท่าตัว ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขจัดพิษออกจากระบบทั้งสองนี้ดีขึ้นหลายเท่าตัวตามไปด้วย

***โดยหลักการขูดกัวซาที่ถูกต้อง จะต้องขูดในทิศทางเดียวกับการไหลเวียนของน้ำเหลืองที่กลับเข้าสู่เส้นเลือดดำใหญ่บริเวณไหปลาร้าทั้งด้านซ้ายและขวา***

กัวซาภาพ:http://thearokaya.co.th

กัวซาสามารถขจัดพิษได้

ความแตกต่างระหว่างกัวซากับการบำบัดด้วยวิธีอื่นก็คือ กัวซาสามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย จึงสามารถขจัดพิษที่เกิดการการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะทั้งจากอาหารการกิน ความเครียด ตลอดจนมลภาวะต่างๆ เมื่อพิษถูกสะสมในกระแสเลือดของเรา เซลล์เม็ดเลือดแดงซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ก็จะนำพิษสะสมเหล่านี้ไปด้วย ช่องทางปกติที่ร่างกายจะขับพิษเหล่านี้ออกได้ก็คือทางอุจจาระ  ปัสสาวะ และเหงื่อ เซลล์เม็ดเลือดแดงเก่าๆ และพิษ จะถูกกำจัดด้วยการทำงานของม้าม แต่พิษสะสมบางส่วนก็จะยังคงอยู่ในเซลล์ เนื้อเยื่อ  ใต้ผิวหนัง และอวัยวะต่างๆ อยู่ จึงเป็นเหตุให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้น ซึ่งกัวซาสามารถช่วยเปิดรูขุมขนเพื่อขจัดพิษสะสมเหล่านี้ออกมาได้เช่นเดียวกับการขับเหงื่อ

***สำหรับผู้ที่มีสุขภาพดี ซาที่ได้จะมีสีแดงอมชมพู แต่ถ้าหากเลือดเป็นกรดเนื่องจากมีพิษสะสมมาก ซาจะปรากฎเป็นสีแดง หรือม่วง และหากไม่รีบรักษา สีของซาจะกลายเป็นเลือดนกหรือแดงคล้ำจนเกือบดำ***

  1. ข้อแนะนำในการทำกัวซา

  2. – ไม่ควรทำในเวลาที่หิว และควรทำหลังอาหารประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป

  3. – แจ้งให้ผู้บำบัดทราบหากมีอาการเจ็บหรือบาดเจ็บในบริเวณที่จะทำกัวซา

  4. – งดอาบน้ำหลังทำกัวซาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

  5. – ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ภายหลังการทำกัวซา

 

 

[ads=center]

  1. ขอบคุณเนื้อหาจาก: http://thearokaya.co.th
  2. อ้างอิง http://guasatherapyhandbook.com/
  3. หนังสือหยุดแก่…หยุดป่วย…ด้วยการล้างพิษ โดย นายแพทย์บุญชัย อิสราพิสิษฐ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: