เคล็ดไม่ลับ ปราบสิวด้วยน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล





Apple-cider-vinegar

สิวจ๋า ขอลาก่อน รู้หรือไม่ว่าน้ำ้ส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลไซเดอร์มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว วันนี้ Thaijobs.com ขอเสนอการรักษาสิวและลดเลือนจุดด่างดำด้วยวิธีธรรมชาติโดยการใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ พูดแล้วก็มาทำความรู้จักกับประโยชน์ของน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลกับการเอามาใช้ในด้านความสวยความงามกันเถอะ

น้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้า (apple cider vinegar) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า น้ำส้มสายชูหมักจากผลแอปเปิล มีคุณสมบัติเป็นกรดผลไม้ (AHA) สูง รสเปรี้ยวจัด มีส่วนประกอบของกรด 5% (5% Acetic Acid) มีสีเหลืองคล้ายสีชา มีส่วนประกอบของธาตุโพแทสเซี่ยมสูง ธาตุโพแทสเซี่ยมมีคุณสมบัติช่วยในการแบ่งเซลล์ ถ้าร่างกายขาดธาตุนี้ ร่างกายจะมีอาการผิดปกติคือ เติบโตช้า แก่เกินวัย ผมร่วง และหงอกเร็ว ฯลฯ และน้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้า (apple cider vinegar) ยังประกอบด้วยธาตุอาหารกว่า 30 ชนิด มีวิตามินมากกว่า 6 ชนิด มีกรดอะมิโน และสารเพ็คติน ล้วนแต่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเป็นยาอีกด้วย คือ เป็นพวกยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อ และมีเอนไซม์หลายชนิดรวมอยู่ด้วย ซึ่งกรดไฮดรอกซิลฟ่าในน้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้านี้จะมีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นปัญหาแรกของการเกิดสิว และจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน และยังช่วยในการผลัดเซลล์ผิว นอกจากนี้ ยังช่วยในการปรับค่า PH ของผิวคุณ เพื่อให้ผิวเกิดความสมดุล ซึ่งจะทำให้ลดการเกิดสิวใหม่

how-to-use-apple-cider-vinegar-for-acne1

เราใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์กับการรักษาสิวและจุดด่างดำได้อย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
สูตรที่1 ผิวขาว ลดสิวและจุดด่างดำด้วย Apple Cider Vinegar Facial Toner 

วิธีทำ รผสมน้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้ากับน้ำแร่ โดยใช้อัตราส่วนน้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้า 1 ส่วน ต่อน้ำแร่ 3 ส่วน ผสมให้เข้ากันแล้วนำแช่ตู้เย็นไว้ เวลาต้องการใช้นั้น ควรเทเพียงเล็กน้อยใส่ถ้วยเล็ก และใช้สำลีชุบส่วนผสมแล้วนำไปแปะตรงที่มีรอยดำ รอยแดง แม้กระทั่ง ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือจะแปะให้ทั่วใบหน้าก็ได้ หรือจะเช็ดให้ทั่วใบหน้าเป็นประจำ แล้วปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที ควรหลีกเลี่ยงรอบดวงตา เพราะน้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์มีฤทธิ์เป็นกรด แล้วล้างออกด้วย น้ำสูตรนี้ยังช่วยให้ผิวสดชื่น และยังช่วยกระชับรูขุมขนด้วย
hqdefault
สูตรที่2 ขจัดสิ้วเสี้ยน ฆ่าเชื้อสิวและลบเลือนแผลเป็นจากสิวด้วย Apple Cider Vinegar Acne Face Mask/Scrub 
วิธีทำ ผสมน้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้า 1 ช้อนชา ชาเขียวเย็น 2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 5 ช้อนชาและน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาเข้าด้วยกัน จนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที สูตรนี้จะช่วยทำลายรอยแผลเป็น รอยแผลจากสิว และขจัดสิวเสี้ยนได้เป็นอย่างดี ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 อย่าง และควรทำอย่างต่อเนื่อง
สูตรที่3 รักษาสิวที่หลังด้วยการทา Apple Cider Vinegar
สูตรนี้วิธีการง่ายๆเลยค่ะ แค่เทน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลใส่สำลีแล้วเช็ดบริเวณสิวที่หลังเบาๆ ทำก่อนนอนทุกวัน หากใครที่ผิวบอบบางอาจจะระคายเคืองได้ง่ายๆ แนะนำให้เอาน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลผสมกับน้ำแร่ ใน่อัตราส่วน 1 ต่อ3 หรือ 1ต่อ 4 เพื่อเจอจางกรดในน้ำส้มสายชู วิธีนี้จะช่วยฆ่าเชื้อและลดการอักเสบของสิวได้อีกทั้งยังช่วยให้จุดด่างดำจากสิวจางลง หลังจากทาได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์จะสังเกตุได้ว่าสิวที่หลังเริ่มแห้งและหลุดออกมาเป็นหัวๆ วิธีนี้ทำเฉพาะก่อนนอนนะคะ เพราะกลิ่นค่อนข้างฉุน และควรใส่เสื้อสีเข้ม เพราะถ้าใส่สีขาวหรือสีอ่อนๆ อาจจะทำให้เกิดคราบเหลืองได้ อย่าลืมทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้นะคะ 
[ads]

ผลของการปรับสภาพผิวด้วยน้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้า นั้น จะช่วยในการกระชับรูขุมขนให้เล็กลง และใช้รักษาสิวเสี้ยนได้ ทั้งยังสามารถใช้ปรับสภาพผิวที่เสื่อมสภาพ หมองคล้ำ โดยเฉพาะผิวที่หยาบกร้านต่อแสงแดดมานาน ช่วยขจัดรอยเหี่ยวย่นเล็ก ๆ บนใบหน้า ช่วยให้ฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้าจางลง ทำให้สีผิวดูกลมกลืนมากขึ้น ช่วยให้ผิวนุ่มใส ดูอ่อนเยาว์ขึ้น และยังทำให้แผลเป็น รวมทั้งรอยด่างดำที่เกิดจากสิวตื้นขึ้นได้ และยังช่วยให้แต่งหน้าได้นวลเนียนขาวใสมากขึ้น และสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหน้ามาก ก็สามารถมีผิวดีขึ้นได้หลังการปรับสภาพผิว แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการดูแลรักษามากขึ้น นอกจากนี้ ในการที่จะปรับสภาพผิวหน้าด้วยน้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้านั้น หากเราทำโดยถูกต้องก็สามารถทำได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นผลที่สะสมจากการทำแต่ละครั้ง ดังนั้น ในช่วงแรกของการปรับสภาพผิวหน้าด้วยน้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้า จะต้องทำทุก 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้น อาจทำห่างกันออกไปเดือนละ 1-2 ครั้ง

เมื่อได้ทำการปรับสภาพผิวหน้าด้วยน้ำแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้าแล้ว ผิวอาจจะแห้ง มีขุยได้ ซึ่งขุยพวกนี้ก็คือ ขี้ไคลที่หลุดลอกออกมานั่นเอง และทุกครั้งหลังการปรับสภาพผิวหน้าควรล้างหน้าทำความสะอาด และบำรุงผิวหน้าด้วยครีมบำรุงผิว และทาครีมกันแดดเสมอ เนื่องจาก น้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์ เวนิก้า มีฤทธิ์เป็นกรดผลไม้ (AHA) ที่เข้มข้น ได้เข้าไปผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวที่มาทดแทนไวต่อแสงแดดมากขึ้น อาจจะมีอาการแดงร้อนในบริเวณที่ทา จึงแนะนำให้ทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนออกไปข้างนอก และควรป้องกันผิวจากแสงแดดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย

ข้อพึงระมัดระวัง ในการใช้น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ต้องทำการทดสอบอาการแพ้ก่อนนะคะ เพราะผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เนื่องจากน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลมีฤทธิ์เป็นกรดสูง จึงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ ฉะนั้นหากทดสอบแล้วผิวหนังเกิดการระคายเคืองควรผสมน้ำเพื่อลดความเป็นกรด
ในการปรับสภาพผิวหน้าด้วยวิธีการนี้ คุณสาว ๆ จะต้องระวังและคอยสังเกตด้วยนะค่ะ หากใช้แล้วเกิดระคายเคือง หรือเกิดผื่น ควรหยุดใช้ทันทีและล้างออกด้วยน้ำเท่านั้น และควรล้างด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อยสามวัน เพื่อดูอาการ และหากไม่ดีขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
[ads=center]

 

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.howhunter.comthearokaya.co.thwww.youtube.comwww.vegkitchen.com

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: