หมดปัญหา “เล็บขบ”…ด้วยวิธีการแก้ตั้งแต่ต้นจนหาย ไม่ต้องกลัวเป็นซ้ำ





“เล็บขบ” เป็นอาการที่แสนเจ็บปวดทรมาน  ยิ่งหนองแตกยิ่งปวดหนักเป็นสองเท่า ใครเป็นหนัก ๆ ถึงกับต้องถอดเล็บไปเลยก็มี หากใครไม่อยากใกล้ชิดกับความเจ็บปวดแบบนี้ต้องรู้วิธีการป้องกันและวิธีตัวเองให้ดี ดังต่อไปนี้

 

1082.1

 

อย่าทำแบบนี้ถ้าไม่อยากเป็น “เล็บขบ”

1. อย่าใส่รองเท้าที่บีบเท้ามากเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อที่อยู่ด้านข้างของเล็บถูกบีบเข้ามา และเลยไปกดเนื้อด้านข้าง เมื่อเล็บงอกมันก็จะงอกลึกลงไปในเนื้อ ทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากๆ

 

2. อย่าตัดเล็บผิดวิธี อย่าตัดเล็บด้านข้างให้เป็นมุมแหลมชิดเนื้อหรือลึกเกินไป เพราะจะทำให้เล็บงอกใหม่ไปทิ่มที่ซอกเล็บจนเกิดแผลได้ และมีอาการปวดตามมา และอย่าขูดหรืองัดซอกเล็บบ่อย ๆ

 

3. รักษาเท้าให้สะอาด ระวังการติดเชื้อราที่เล็บ

 

4. อย่าคิดว่าไม่เป็นไร คุณต้องเพิ่มความระมัดระวังสักนิด เพราะอุบัติเหตุที่เล็บเท้า เช่น ปลายนิ้วเท้าชอบไปชนอะไรบ่อย ๆ จะทำให้เล็บฉีกขาดแทงเข้าไปในซอกเล็บได้

 

ทำอย่างไรดีเมื่อเป็น “เล็บขบ

วิธีที่ 1 รักษาทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ยังมีอาการไม่มาก ปวดบวมแดงเล็กน้อย และยังไม่มีหนอง ทำโดย

1. บรรเทาอาการปวดด้วยการแช่เท้าในน้ำอุ่น หรือน้ำเกลืออุ่น ๆ สัก 10 นาที

2. ตัดเล็บส่วนเกินที่ไม่เจ็บออก

 

1082.4

 

3. อาบน้ำล้างเท้าได้ตามปกติ โดยควรจะถูสบู่ที่ซอกเท้าและซอกเล็บ วันละ 2 ครั้งเพื่อกำจัดเชื้อโรค และหลังอาบน้ำเสร็จควรใช้แอลกอฮอล์ 70% เช็ดเล็บให้สะอาด ใช้ผ้าพันไว้ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก

4. หาวัสดุบางอย่างที่เล็ก ๆ บาง ๆ แข็ง ๆ พอสมควร เช่น เส้นด้าย ไหมขัดฟันสอดเข้าไปใต้เล็บ และงัดเอาเล็บขึ้นมา ควรทำอย่างเบามือที่สุด

5. เอาสำลีสอดลงไปบริเวณที่เล็บมันจิกขบอยู่ จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงได้

 

1082.2

 

6. ทานยาปฏิชีวนะประเภทเตตร้าซัยคลิน หรือแอมพิซิลลิน และยาแก้ปวดพาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดและการอักเสบจากการติดเชื้อ

 

 

วิธีที่ 2 รักษาด้วยสมุนไพร

สูตรที่ 1 ใบพลู หรือใบฝรั่ง

ใช้ใบพลูหรือใบฝรั่งประมาณ 3-5 ใบ นำมาตำรวมกับเกลือประมาณ 1 หยิบมือ พอกไว้บริเวณที่เป็นแผลและใช้ผ้าพันเพื่อปิดแผลไว้ เปลี่ยนผ้าพันทุกวัน วันละสองเวลา

 

สูตรที่ 2 ใบฝรั่งสดกับข้าวสุก

โขลกใบฝรั่งสด 2 ใบ เกลือ 1/2 ช้อนชา และข้าวสุก 2 ช้อนโต๊ะ ให้เข้ากัน พอกไว้บริเวณที่เป็นแผล

 

สูตรที่ 3 ไพล เกลือตัวผู้ กับข้าวสุก

ตำไพล 1 แง่ง เกลือตัวผู้ (เกลือที่เป็นเม็ดยาว ๆ) 7 เม็ด ข้าวสุก 1 กำมือให้ละเอียด พอกไว้บริเวณที่เป็นแผล ภายใน 20 นาทีจะทำให้หนองแตกออกมาและหายปวดได้

 

สูตรที่ 4 มะนาวกับปูนแดง

ฝานมะนาวตรงส่วนหัวออกให้พอสอดนิ้วเข้าไปได้ ใช้มีดคว้านเอาเนื้อในออกเล็กน้อย ทาปูนแดงบาง ๆ บริเวณที่เล็บขบ แล้วสอดนิ้วที่เป็นเล็บขบเข้าไปด้านในของมะนาว ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ทำวันละ 2-3 ครั้ง เช้า-เย็น อาการจะทุเลาขึ้น

 

[ads]

 

วิธีที่ 3 รักษาเล็บขบที่เป็นหนอง

กรณีต้องถึงมือแพทย์เท่านั้น โดยแพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียมาทา หรือรับประทาน แต่ถ้าใครเป็นหนัก คือ นิ้วโป้งบวมแดงมาก ปวดมาก หนองไหลมาก หรือมีก้อนเนื้อบริเวณข้างเล็บหนาตัวขึ้น แพทย์ก็จะช่วย “ถอดเล็บ” ให้

หลังจากการถอดเล็บ คนไข้ต้องพันแผลเอาไว้ และทายาฆ่าเชื้อจนแผลหายสนิท ทำความสะอาดแผลวันละ 2 ครั้ง และพยายามอย่าให้แผลเปียก ซึ่งปกติแผลจะหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์

 

การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่ถ้าเกิดมีโรคขึ้นมาแล้วก็ต้องรู้วิธีการดูแลที่ถูกวิธีด้วย  โรคหรือปัญหานั้นๆจะได้ทุเลาลงไปอย่างรวดเร็ว ขอให้โชคดีค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก chaoprayanews.com

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: