อันตรายแค่ไหนเมื่อ “ประจําเดือนเป็นสีดํา”  เรื่องที่ผู้หญิงทุกคนต้องรู้





ประจำเดือน เป็น ภาวะปกติของหญิงสาวที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ผู้หญิงที่มีรอบเดือนมาปกติจะมีระยะห่างของประจำเดือนประมาณ 21-35 วัน  ขึ้นอยู่กับช่วงวัยของหญิงสาวที่มีประจำเดือน และมีระยะเวลาการมีประจำเดือนอยู่ที่ 3-7 วัน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาของผู้หญิงหรือทำให้คุณผู้หญิงเป็นกังวลใจ ก็คือ การที่จู่ๆ ประจำเดือนเปลี่ยนจากสีแดงกลายเป็นสีดำ สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรกัน ผิดปกติหรือไม่ มาหาคำตอบกันค่ะ

 

อย่าเข้าใจผิด ๆ ว่าเลือดประจำเดือนสีดำ  คือ  “เลือดเสีย” ประจำเดือนมีสีคล้ำหรือสีดำ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ไม่ได้เป็นปัญหาสุขภาพ หรือเป็นโรคอะไรร้ายแรงแต่อย่างใด แต่ประจำเดือนสีคล้ำหรือสีดำที่เกิดขึ้นนี้อาจเกิดขึ้นได้จากการที่เลือดประจำเดือนไหลออกมาแล้วไปติดค้างอยู่ที่บริเวณช่องคลอดนานเกินไป จนทำให้เลือดสีแดงเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้น

 

1071.1

 

โดยส่วนใหญ่…คุณผู้หญิงมักจะเกิดประจำเดือนเช่นนี้ขึ้นในช่วงที่ประจำเดือนเริ่มมาใหม่ ๆ หรือช่วงที่ประจำเดือนใกล้จะหมด เนื่องจากช่วงนี้ เลือดจะค่อย ๆ ซึมออกมาช้า ๆ และมีโอกาสติดค้างอยู่บริเวณช่องคลอดเป็นเวลานาน ซึ่งกว่าจะไหลออกมาเลือดก็จะกลายเป็นสีคล้ำหรือสีดำไปซะแล้ว

 

เปรียบเทียบง่าย ๆ เวลาที่โดนมีดบาดใหม่ ๆ เลือดจะมีสีแดงเข้ม และจะค่อย ๆ แข็งตัวและเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้น ซึ่งก็เปรียบเหมือนกับเลือดประจำเดือนของเรานั่นเอง

 

[ads]

 

สีของประจำเดือนแบบอื่นๆบ่งบอกอะไรแก่เราได้อีกบ้าง

 

นอกจากประจำเดือนสีดำแล้ว เรายังอาจเจอกับประจำเดือนสีอื่นๆ ได้อีก ดังนี้

 

1. ประจำเดือนสีซีด เกิดจากการที่มีประจำเดือนมาน้อย แต่มีหลายวัน อาการเช่นนี้มักมาคู่กับอาการปวดท้องประจำเดือน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการนอนดึก พักผ่อนที่ไม่เพียงพอแบบเรื้อรัง ซึ่งส่งผลให้ตับอ่อนแอ วิธีแก้ไขทำได้ไม่ยาก แค่หันมาดูแลใส่ใจเรื่องอาหารให้มากขึ้น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ เท่านี้ก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้แล้ว

 

2. ประจำเดือนสีแดงเข้ม เกิดจากภาวะที่ร่างกายร้อนเกินไป ทำให้เลือดออกมาก และเลือดมีสีเข้ม วิธีแก้ไขทำได้ง่ายๆ แค่ดื่มน้ำเยอะๆ และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อปรับสมดุลของร่างกาย

 

แม้ว่าการเปลี่ยนสีของประจำเดือนอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่ากับปัญหาอื่นๆ  แต่สีของประจำเดือนก็สามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างในร่างกายได้ ซึ่งทำให้เราฉุกคิด และหันมาดูแลตัวเองได้ทันเวลา

 

นอกจากสีของประจำเดือนแล้ว สาวๆควรจดบันทึกช่วงเวลาที่ประจำเดือนมาในแต่ละเดือนด้วย รวมถึงสังเกตปริมาณเลือดว่ามากขึ้นหรือน้อยลงหรือไม่ โดยนับจากจำนวนผ้าอนามัยที่ใช้ในแต่ละวัน ทั้งนี้ก็เพื่อสังเกตหรือวิเคราะห์อาการผิดปกติด้วยตนเองเบื้องต้น หากเกิดความผิดปกติขึ้นจริง จะได้สามารถนำเอาความผิดปกติเหล่านี้ไปเล่าให้คุณหมอฟัง เพื่อหาสาเหตุที่ถูกต้องต่อไปได้

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก th.theasianparent.com

 

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: