ใครชอบกินดึก กินแล้วนอนเลย ระวัง! “กรดไหลย้อน” ถามหา…เจ็บปวดและทรมานมาก





เรอบ่อย เรอเปรี้ยว รู้สึกมีรสขมของน้ำดีหรือมีรสเปรี้ยวของกรดในลำคอ มีอาการปวดแสบปวดร้อนหรือจุกแน่นบริเวณกลางอก  กลืนอาหารติดขัด  ไอเรื้อรัง  หรือเสียงแหบเรื้อรัง  อาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเป็น “โรคกรดไหลย้อน” ทั้งสิ้น ใครเริ่มรู้ตัวว่าเข้าข่ายรีบตามมาอ่านเลย

 

 “โรคกรดไหลย้อน” เป็นโรคที่มีปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  ซึ่งพบมากในคนที่รักความสบาย กินอิ่มแล้วนอนหลับเลย หรือคนที่ชอบกินข้าวดึกๆ ไม่มีเวลาย่อยอาหารที่มากพอก่อนที่จะนอนหลับ ปัญหานี้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร!

 

985.2

 

โรคกรดไหลย้อน คือ ภาวะที่มีกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร การที่กรดหรือน้ำย่อยอยู่ผิดที่ผิดทางย่อมมีผลต่ออวัยวะบริเวณใกล้เคียง ที่ร่างกายไม่ได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันการกัดกร่อน ทำให้ผู้ป่วยมีการอักเสบของหลอดอาหาร และเกิดความเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก โรคนี้เกิดได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่เกิดมากที่สุดใน “คนอ้วน” จงระวังตัวให้ดี!

 

แต่สำหรับใครที่ทนความเจ็บปวดได้ และปล่อยทิ้งไว้นาน ๆโดยไม่รักษาประมาณ  5-10 ปี นอนาคตคุณก็จะมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง มีพังผืด กลืนอาหารลำบาก และเพิ่มโอกาสเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหาร เป็นต้น

 

[ads]

 

 

ถ้าไม่อยากให้สายเกินไป มาดูวิธีการป้องกันกันดีกว่า…
 

1. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้หูรูดกระเพาะอาหารหลวม เช่น อาหารทอด อาหารไขมันมาก อาหารเผ็ด ช็อกโกแลต หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูงอย่างชาหรือกาแฟ เป็นต้น


 

2. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเป็นกรดหรือจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ผลไม้ประเภทส้มหรือมะนาว มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ น้ำอัดลม เครื่องเทศ พริกไทย เป็นต้น


 

3. ห้ามนอนทันทีหลังรับประทานอาหารอิ่ม ควรทิ้งระยะเวลาให้ห่างจากเวลาเข้านอนประมาณ 3 ชั่วโมง หรือพยายามเลื่อนการรับประทานมื้อเย็นให้เร็วมากขึ้น นอกจากจะไม่เป็นกรดไหลย้อนแล้วยังไม่อ้วนอีกด้วย

 

4. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างตอนนอนหลับ เช่น การนอนหนุนหัวเตียงให้สูงขึ้น 6-8 นิ้ว  การนอนตะแคงซ้าย  เป็นต้น

985.1

 

5. หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าหรือเข็มขัดที่คับแน่นจนเกินไป เนื่องจากความอึดอัดจะดันเอาน้ำย่อยขึ้นมาสู่หลอดอาหารได้ง่ายมากขึ้น

 

6. ลดน้ำหนักตัว น้ำหนักเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาการนี้หนักมากขึ้น

 
โรคกรดไหลย้อนเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ ถ้าคุณเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ อย่ามัวนิ่งนอนใจกับพฤติกรรมแบบผิดๆ เพราะมันจะบั่นทอนชีวิตของคุณให้สั้นลง และเพิ่มความเจ็บปวดที่เรื้อรังไปอย่างยาวนาน

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก  matichon.co.th


[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: