หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มีอาการปวดศีรษะบ่อย ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดศีรษะข้างเดียว ปวดตุ้บๆ เป็นจังหวะ ปวดมากขึ้นเมื่อขยับร่างกาย หรือปวดมากจนไม่สามารถทำอะไรได้เลย ให้ระวังตัวไว้ได้เลยว่า คุณนั้นมีความเสี่ยงต่อการเป็น “โรคไมเกรน” สูง
โรคไมเกรนเป็นโรคเรื้อรังที่สร้างความทรมานอย่างไม่หยุดหย่อน จากสถิติพบว่า ผู้ป่วยไมเกรนประมาณร้อยละ 80 จะมีอาการปวดศีรษะเพียง 1 ถึง 2 ครั้งต่อเดือน แต่มีเพียงไม่กี่คนที่จะปวดบ่อยแทบทุกวัน อาการปวดเหล่านี้รักษาให้หายขาดได้ยาก ทำได้เพียงเฝ้าระวังและตัดต้นเหตุของอาการปวดเท่านั้น ดังนั้น ผู้ป่วยไมเกรนจึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับอาการปวดนั้นๆ อยู่เสมอ
ซึ่งหนึ่งในวิธีการป้องกันที่ดี ก็คือ “การควบคุมอาหาร” เพราะมีอาหารบางอย่างที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นให้ผู้ป่วยรู้สึกปวดศีรษะมากยิ่งขึ้นหรือลดอาการปวดศีรษะให้ลดลงได้ ดังนี้
ตัวอย่างสารอาหารที่มีผลกระตุ้นอาการปวดไมเกรน
– ไทรามีน พบได้ใน เนยแข็ง เครื่องในสัตว์ ถั่วลิสง ช็อกโกแลต กะหล่ำปลีดอง ไส้กรอก กล้วยสุกงอม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สารตัวนี้ทำให้ผู้ป่วยปวดไมเกรนมากขึ้น เนื่องจาก มันจะเข้าไปลดระดับสารเซโรโทนินในสมอง ทำให้อาการปวดหัวอย่างรุนแรงมากขึ้น
– แทนนิน พบได้ใน น้ำแอ๊ปเปิ้ล ชา กาแฟ ช็อกโกแลต หรือไวน์แดง
– สารเจือปนอาหาร เช่น น้ำตาลเทียมหรือผงชูรส
[ads]
ตัวอย่างสารอาหารที่มีผลบรรเทาอาการปวดไมเกรน
– การรับประทานแคลเซียมร่วมกับวิตามินดี
– พืชสมุนไพรอย่างเก๊กฮวย
– อาหารที่มีวิตามินบีสูง ธาตุเหล็กสูง แมกนีเซียมสูง
– น้ำมันปลาหรืออาหารที่มีกรดโอเมก้า3
อาหารกระตุ้นหรือบรรเทาอาการปวดไมเกรนในผู้ป่วยแต่ละบุคคลอาจไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม การเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรน ร่วมกับการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง จะช่วยให้อาการปวดไมเกรนนั้นลดความรุนแรงและลดความถี่ในการปวดได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การใช้ชีวิตของผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความสุขเพิ่มขึ้นกว่ามากกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ