ผ่อนบ้านอย่างไรให้หมดเร็ว…พร้อมตัวอย่างการคำนวณที่เข้าใจง่าย





การสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยการเป็นเจ้าของบ้านในยุคปัจจุบันนี้อาจไม่ใช่เรื่องยาก เพราะในปัจจุบันมีนโยบายมากมายที่จะช่วยผ่อน และทำให้คุณเป็นเจ้าของสินทรัพย์ได้ด้วยเงินก้อนเล็กๆที่ไม่ต้องมากมายนัก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็หมายความว่าคุณจะต้องมีคำว่า หนี้ ติดตัวไปอีกหลายปี และต้องพยายามหาเงินมาเพื่อชำระหนี้ก้อนโตที่คุณสร้างขึ้นมาเอง ยิ่งผ่อนนานมากเท่าไร สัดส่วนของเงินที่คุณต้องจ่ายก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามดอกเบี้ย วันนี้เราจึงอยากจะมานำเสนอวิธีการพื้นฐานที่จะช่วยลดภาระหนี้สินของคุณส่วนนี้ไปได้ ถ้าไม่อยากต้องจ่ายดอกเบี้ยเยอะๆ หรืออยากให้ภาระหนี้ก้อนนี้หมดเร็วๆ จะต้องทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกัน

 

965.1

 

สมมติว่าเรากู้ซื้อบ้าน 3 ล้านบาท แบบไม่ได้เข้าโครงการอะไรทั้งสิ้น

– การเลือกผ่อนสัก 10 ปี จะต้องจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 9 แสนบาท

– การเลือกผ่อนนานขึ้นเป็น 20 ปี จะต้องจ่ายทั้งหมดประมาณ 2.5 ล้านบาท

ซึ่งจะเห็นได้ว่า ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายสามารถเอาไปซื้อรถยนต์หรือบ้านอีกหลังสบายๆได้เลย ถ้าอยากให้ดอกเบี้ยส่วนนี้น้อยลง มี  3 เคล็ดลับ ดังนี้ค่ะ

 

เคล็ดลับที่ 1 เพิ่มยอดผ่อนในแต่ละงวด

การเพิ่มเงินผ่อนแต่ละงวดให้มากขึ้นอีกสักหน่อย จะช่วยให้หนี้หมดไวขึ้น เช่น

– การกู้ซื้อบ้าน 3 ล้านบาท ผ่อน 20 ปี จะผ่อนเดือนละ 22,300 บาท หรือคิดเป็นดอกเบี้ยทั้งหมดประมาณ 2.5 ล้านบาท

แต่ ถ้าผ่อนเพิ่มอีกเดือนละ 10% หรือ 2,230 บาท ระยะเวลาจะเหลือ 17 ปี และจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมดประมาณ 1.9 ล้านบาท ประหยัดดอกเบี้ยได้เกือบ 6 แสนบาท

แต่ ถ้าผ่อนเพิ่มอีกเดือนละ 30% หรือ 6,690 บาท ระยะเวลาจะเหลือ 12.5 ปี และจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมดประมาณ 1.4 ล้านบาท ประหยัดดอกเบี้ยได้ถึง 1.1 ล้านบาท

 

แค่เพิ่มเงินหลักพัน ก็สามารถประหยัดดอกเบี้ยได้เป็นแสนๆถึงล้านๆแล้ว

 

[ads]

 

เคล็ดลับที่ 2 โปะบ้านด้วยเงินก้อน

เมื่อได้รับเงินก้อนใหญ่ๆมา ต้องนำมาโปะบ้านเพื่อให้ยอดหนี้ลดลง เช่น

– การกู้ซื้อบ้าน 3 ล้านบาท ผ่อน 20 ปี จะต้องจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมด 2.5 ล้านบาท

แต่ ถ้าได้เงินก้อน 1 แสนบาท มาโปะเมื่อผ่อนบ้านไปแล้ว 1 ปี ดอกเบี้ยที่ประหยัดได้ตลอดระยะเวลาที่เหลือจะอยู่ที่เกือบ 3 แสนบาท และลดระยะเวลาลงเกือบ 1.5 ปี

 

แค่โปะบ้านเพียงครั้งเดียวด้วยเงิน 1 แสนบาท ก็ประหยัดดอกเบี้ยไปได้หลายแสนแล้ว ยิ่งถ้าโปะบ้านทุกครั้งที่ได้เงินก้อน ดอกเบี้ยที่จ่ายก็จะน้อยลงมากๆ

 

 

เคล็ดลับที่ 3 รีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ย

การรีไฟแนนซ์ คือ การย้ายสถาบันการเงิน หรือขอปรับลดดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินที่เราผ่อนบ้านอยู่ ทั้งนี้ อย่าลืมคำนวณค่าใช้จ่ายที่จะได้ตามมาจากการรีไฟแนนซ์ด้วย ซึ่งได้แก่

      1. ค่าธรรมเนียมในการจำนอง (จ่ายกรมที่ดิน) 1% ของวงเงินกู้ใหม่

      2. ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่

      3. ค่าประเมินหลักประกัน 2,700 บาท (ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร)

เช่น

การกู้ใหม่วงเงิน 3 ล้านบาท จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 + 1,500 + 2,700 = 34,200 บาท หากเดิมผ่อนบ้านอยู่ที่อัตราดอกเบี้ย 7.1% ต่อปี คิดเป็นดอกเบี้ยจ่ายในช่วง 3 ปี ประมาณ 6 แสนบาท

แต่ ถ้ารีไฟแนนซ์แล้วอัตราดอกเบี้ยลดเหลืออ 5.5% ต่อปี ดอกเบี้ยจ่ายในช่วง 3 ปี รวมกับค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ จะอยู่ที่เพียง5 แสนบาท ซึ่งช่วยประหยัดเงินไปได้ถึงหลักแสนเลย

 

โดยทั่วไป เราสามารถรีไฟแนนซ์ได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมหรือค่าปรับเมื่อผ่อนบ้านไปแล้วอย่างน้อย 3 ปี แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องศึกษาให้ละเอียด

 

เคล็ดลับ 3 ข้อ สามารถประหยัดเงินในกระเป๋าคุณไปได้อย่างเยอะ ช่วยลดดอกเบี้ยและย่นระยะเวลาการเป็นหนี้ลงได้ ถ้าคุณขยันเก็บเงินให้มากขึ้น โอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของบ้านอย่างเต็มตัวก็คงไม่ยากเกินไปแน่นอน

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก ddproperty.com และ k-expert.askkbank.com

 

 [ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: