สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของดิฉันที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเตือนทุกคน เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ดิฉันพึ่งเจอมา เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2558 เวลาโดยประมาณ 18.19 น. สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของสรุป คราวๆ ดังนี้
ตอนเย็นของวันที่ 23/1/16 หลังจากเลิกงานดิฉัน(ตอนนั้นไปคนเดียว) ได้ แวะกดตังผ่านตู้ธนาคาร กสิกร หน้าร้านทองซอยรุ่งนภา สาขานิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กทม. (ตู้นี้ติดถนนใหญ่ ผู้คนเดินผ่านไปมาค่อนข้างเยอะ) แล้วก็เจอเหตุการณ์นี้ขึ้น
มิจฉาชีพ A : ทำรายการผ่านตู้ ATM หลายอย่าง ใช้เวลานานร่วม 10 นาทีเห็นจะได้
เรา: รอกดเงินต่อ จากมิจฉาชีพ A ไม่นานก็มีผู้หญิงมายืนรอต่อคิวถัดจากเรา พอมิจฉาชีพ A ทำรายการเสร็จ เราก็เลยเข้าไปกดต่อ ทำรายการเรียบร้อยก็เดินออกจากตู้ไปได้ประมาณ 100 เมตร
มิจฉาชีพ A : ตะโกนตามหลัง บอกว่าเงินมันค้างอยู่ในตู้ 20,000 บาท ฝากไปแล้วแต่ยอดเงินไม่ครบ จากนั้นมันก็หาว่าเราเอาตังไป เพราะเราทำรายการต่อจากมัน พร้อมวิ่งมาหาเรา จะพาเราขึ้นรถมัน เพื่อไปหาตำรวจที่ สน.
เรา: เลยเดินตามมันกับมาหน้าตู้ ATM ที่เกิดเหตุ มิจฉาชีพ A เดินไปหาผู้หญิงที่ต่อคิวหลังเรา คิดว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพเหมือนกัน ขอใช้ชื่อว่ามิจฉาชีพ B แล้วกัน
มิจฉาชีพ B : ยืนรออยู่หน้าตู้ พอเราเดินไปถึง มิจฉาชีพ B ก็บอกกับ A ว่า เรากดตังก่อนหน้านะ ตัว มิจฉาชีพ B ยังไม่ได้กด มีอะไรให้ เรา กับมิจฉาชีพ A ไปเคลีย ที่ สน. กันเอง
เรา : เราเลยพูดกับ มิจฉาชีพ A ไปว่า ไม่ไปอะพี่ เดียวให้พี่โทรหาตำรวจ เอาตำรวจมาค้นตัวเลย เพราะเราไม่ได้นำเงินเค้าไปจริงๆ
มิจฉาชีพ A : ไม่ยอม จะพาขึ้นรถไปหาตำรวจที่ สน. อย่างเดียว พร้อมโวยวายว่าเราเอาเงินไป จากนั้นมิจฉาชีพ C ก็ออกจากรถมาพร้อมเด็ก
เรา : เลยบอกกับ มิจฉาชีพ A ให้โทรหาเจ้าของตู้. ATM แล้วโทรตามตำรวจมา เดียวยืนรออยู่นี่
มิจฉาชิพ A: สงสัย มิจฉาชิพ พึ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องโทร หาเจ้าของตู้ มันเลยโวยวายใส่มิจฉาชีพ C ให้มิจฉาชีพ C โทรหาตำรวจ ส่วนมันจะโทรหาเจ้าของตู้เอง
[ads]
มิจฉาชีพ C : ทำท่าทางโทรหาตำรวจ
มิจฉาชีพ A : ทำท่าทางโทรคุยกับเจ้าของตู้
เรา: เรานั่งรอสักพัก นึกขึ้นได้ถ้า มิจฉาชิพ เรียกตำรวจปลอมมาทำไง เลยจัดการโทรหา ตำรวจเอง โทรไป 191 เจ้าหน้าที่รับเรื่องดีมาก ให้ตำรวจสายตรวจมาพร้อมเบอร์ติดต่อ สน. ฉลองกรุง มา
มิจฉาชีพ A : พอรู้ว่าเราโทรหาตำรวจ มันรีบเดินมาหา พร้อมบอกว่ามันคุยกับเจ้าของตู้แล้ว บอกผมขอโทดนะน้อง ผมส่งเรื่องให้เจ้าของตู้ตามให้แล้ว ไม่มีอะไรแล้ว แยกย้ายกันกับบ้าน
เรา : เราก็กลัวว่าเรื่องจะไม่จบ เลยบอก มิจฉาชิพว่าให้รอตำรวจ แล้วค้นตัวเลยจะได้รู้ว่าเราไม่ได้เอาเงินไป
สรุปพอตำรวจมา มิจฉาชีพ A ใช้ช่วงฉุกละหุกรีบเดินไปหาตำรวจบอกเคลียกันเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว…แล้วก็รีบเดินหนีขึ้นรถไปเลย…..
จากการสันนิษฐาน เบื้องต้น
1. หากเงินหายจริงๆ เหตุใด ถึงรีบหนี ไม่คุยรายละเอียดกับตำรวจ หรือลงบันทึกประจำวันไว้
2. ตอนที่คนร้ายบอกเงินฝากไม่ครบนั้น คนร้ายเอาสลิปมาให้ดู ซึ่งเราว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจาก การฝากเงินจะต้องให้เราตรวจสอบยอดเงินฝากก่อน หากฝากเงินไม่ครบตามจำนวนที่ต้องการ จะมีสลิปออกมาจากตู้ได้อย่างไร.
3. คนร้ายพยายามให้เราไป สน. กับเค้า โชคดีที่เราไม่ไป และรอดมาได้ จึงไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าเกิดตอนนั้นเราตัดสินใจไปกับเค้า ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
สุดท้ายนี้ จึงอยากฝากเรื่องของเรา ไว้เตือนภัยให้คนใช้ตู้ ATM ด้วยนะคะ และฝากทางเจ้าของดู ATM ช่วยประกาศเตือนด้วย คลาดว่าคนร้ายน่าจะเลือก ตู้ที่สามารถทำรายการฝาก-ถอนเงินสดได้ ซะเป็นส่วนใหญ่
ปล.
– มิจฉาชีพ แต่งตัวดูดี มีรถขับ พาเด็ก กับ คนเจ็บ (ท่าทางเหมือนขาไม่ดีเนื่องจากใช้ไม้เท้า) มาด้วย ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า มันอาจเอามาเพื่อให้เยื่อตายใจ จะได้หลงไปกับมันง่ายๆก็ได้
– เรื่องนี้เราได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน. แล้ว…
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก นุชจรีย์ มณีเด้ง สมาชิคเวปไซต์พันทิปดอทคอม
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ