เผยเทคนิค ‘ฝึกภาษาอังกฤษ’ จากการดูหนัง…ดูยังไงให้เก่งภาษา





ไม่แปลกที่คนไทยส่วนใหญ่จะยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เพราะการเรียนภาษาอังกฤษของหลายๆโรงเรียนในประเทศไทย ยังเน้นการเรียนด้านไวยากรณ์มากกว่าการให้เด็กได้ฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน เหมือนกับการใช้งานจริงๆในชีวิตประจำวัน เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้หลายๆคนพากันกลัว และไม่กล้าที่จะพูดออกไป เพราะคิดว่าตัวเองคงจะทำไม่ได้อย่างแน่นอน

หากคุณคิดอยากจะพูดภาษาอังกฤษให้เป็น ต้องลองฟังภาษาเหล่านี้ให้มากๆ ซึ่งหนึ่งในวิธีการง่ายๆที่เราทุกคนสามารถทำได้ ก็คือ “การฝึกภาษาจากการดูหนังฝรั่ง” แต่พอเอาเข้าจริงๆ เอ๊ะ! ทำไมดูไม่รู้เรื่อง แถมดูจนจบยังไม่ได้อะไรเลย เนื้อเรื่องก็ไม่เข้าใจด้วยซ้ำ  เพราะมัวแต่พะวงกับการแปลซับไตเติล หากคุณเป็นเช่นนี้เราจะมาแนะนำวิธีการดูหนังเพื่อฝึกภาษาให้ได้ผลกันดีกว่า ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง

 

ขั้นแรก ปรับ mindset

เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ “การเปิดใจ”  อย่ากลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง อย่าอายที่จะหัดพูดตาม และอย่าคิดว่ามันยากเกินไปสำหรับเรา หากเราคิดว่าเราทำได้ เราก็จะทำได้ ขอแค่พยายามให้มากที่สุดเท่านั้นก็พอ

 

ขั้นตอนที่สอง เลือกหนัง

การเลือกหนังจะต้องเลือกไปเลยว่าต้องการฝึกภาษาแบบหนัง American หรือหนัง British เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่ทั้งสองชาตินี้กลับออกสำเนียงที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น จึงควรเลือกฝึกในแบบใดแบบหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนในการออกเสียง อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ฝึกแบบ American จะดีกว่า เพราะจะมีหนังให้ดูเยอะกว่า และภาษาค่อนข้างแพร่หลายมากกว่า

 

มาต่อที่ประเภทของหนังที่เลือกดู ซึ่งควรเลือกเป็นหนังดราม่าหรือหนังโรแมนติกจะดีที่สุด เพราะสองประเภทนี้มักจะมีบทพูดค่อนข้างเยอะ ส่วนใครชอบหนังแอนนิเมชันก็พอจะใช้ฝึกได้ แต่ไม่แนะนำเท่าไรเพราะเราจะไม่เห็นวิธีการออกเสียง อีกทั้งเสียงที่พูดออกมาก็มักจะถูกดัดแปลงให้เข้ากับตัวการ์ตูนด้วย ส่วนใครที่ชอบหนังบู๊แอคชันและอยากใช้หนังแบบนี้ในการฝึกภาษาก็อยากให้คุณคิดใหม่ เพราะหนังประเภทนี้จะมีศัพท์เทคนิคค่อนข้างจะเยอะ และคุณอาจจะเพลิดเพลินกับมันจนลืมฝึกฟังฝึกพูดไปเลยก็ได้

[ads]

ขั้นตอนที่สาม ลงทุน

หากต้องการจะฝึกภาษาจริงๆ แนะนำให้ลงทุนกันสักเล็กน้อยโดยการไปซื้อหนัง DVD มาดูดีกว่าการโหลดเอาจากอินเตอร์เนต เพราะการเลือกดูจาก DVD จะทำให้เราได้ภาษาที่แม่นยำกว่า ซับไตเติลที่ได้มาจะมีภาษาที่ค่อนข้างชัวร์มากกว่า ไม่ใช่เป็นการแปลมั่วๆจนทำให้เราเกิดความเข้าใจผิด

 

ขั้นตอนที่สี่ ลุย!

หลังจากที่เราเลือกหนังมาได้สักเรื่องแล้ว ก็มาเริ่มกันเลย….โดยวิธีการดูหนังให้ได้ผลควรดูอย่างน้อย 2 รอบ! ขึ้นไป โดยเริ่มฝึกดังนี้

– รอบแรก ให้ดูโดยเปิด soundtrack พร้อมกับซับไตเติลภาษาไทย ไปก่อน เพื่อให้เราทำความเข้าใจกับเนื้อเรื่อง และอารมณ์ของหนัง

– รอบสอง ให้เปิด sountrack + ซับไตเติลภาษาอังกฤษ เพื่อดูว่าคำแต่ละคำ เขาพูดกันยังไง ออกเสียงกันยังไง

– รอบสุดท้าย ให้เปิด sountrack ภาษาอังกฤษอย่างเดียว โดยไม่มีซับไตเติลภาษาอะไรทั้งสิ้น แล้วใช้หูฟังอย่างเดียว

 

*Tips & Tricks

1. ควรเลือกหนังที่เราสนใจ เพราะมันจะก่อให้เกิดแรงจูงใจที่จะเข้าใจเนื้อหาของมันมากขึ้น

2. ระหว่างการดูหนังให้ลองสังเกตุการออกเสียง และรูปปากเวลาพูดของตัวละคร และพยายามออกเสียงตามไปดู

3. ควรจดและจำคำศัพท์ต่างๆที่น่าสนใจเอาไว้ เมื่อดูจนจบจึงค่อยมาหาข้อมูลต่อว่า ศัพท์นั้นมีความหมายว่าอย่างไร และใช้งานอย่างไร

 

การดูหนังคือการฝึกภาษาอังกฤษที่ดีและไม่น่าเบื่อวิธีหนึ่ง แต่ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้น  ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณจะเก่งภาษาอังกฤษขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตัวคุณ ถ้าคุณมั่นใจและฝึกฝน ไม่มีทางที่คุณจะไม่เก่ง ขอให้สนุกกับการดูหนังทุกคนค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก สมาชิกเวปไซต์พันทิปดอทคอมหมายเลข 1678860

เรียบเรียงข้อมูลโดย ThaiJobsGov.com

[ads=center]

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: