แค่ 1 บาทก็เป็นเจ้าของสินค้าได้ เป็นใครก็ต้องตาลุกวาวกับกลยุทธนี้ ยิ่งเป็นสินค้าที่ในท้องตลาดขายในราคาค่อนข้างสูง เช่น เครื่องสำอาง, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์, อุปกรณ์เสริมต่างๆ มีหรือที่จะไม่สนใจเข้ามาดูและลองกันเล่นๆ บ้าง?
และยิ่งประกอบกับช่องทางการแลกเปลี่ยนที่สะดวกสบาย เช่น ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกรรม เพราะเหตุนี้เองแหละถึงทำให้เว็บประมูลสินค้าหลายๆ เว็บถึงเป็นที่นิยมในสาวกนักช็อปออนไลน์
จริงหรือที่มันเป็นการดีลที่สุดคุ้ม? จ่ายเพียงแค่ไม่กี่บาท (บางเว็บก็แค่1บาทด้วยซ้ำ) แล้วจะได้สินค้ามูลค่าแพงเป็นการตอบแทน มันง่ายขนาดนั้นจริงหรือ? Thaijobsgovขอยกตัวอย่างอุทาหรณ์ของคนที่เคยประมูลของจากกระทู้ตัวอย่างhttp://pantip.com/topic/34650883 และ http://pantip.com/topic/32456605 สรุปรวมให้เข้าใจง่าย รู้ทันกันทีละข้อ
หมายเหตุ
Thaijobsgovขอสงวนการยกตัวอย่างชื่อเว็บไซต์ เพราะเราต้องการเสนอข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่ไม่สามารถฟันธงได้แน่ชัดว่าจริงหรือเท็จ เพราะยังไม่มีการตรวจสอบโดยองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสิทธิผู้บริโภค โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ภาพประกอบจาก fcbusiness.co.uk
กลยุทธของเว็บประมูลของก็ไม่ต่างกับการล่อแมงเม่าเข้ากองไฟ
1. ความโลภของคนเราอย่างหนึ่งก็คือ "เมื่อรู้ว่ามันต้องแลกด้วยวิธีที่เจ็บตัวน้อยที่สุดก็จะเอา" จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าใด หากเว็บประมูลของบางเว็บตั้งราคาขั้นต่ำไว้ในเรทที่น่าตกใจมากๆ แต่คนจำนวนมากกลับสนใจ และอยากลองดู โดยลืมคิดถึงเงื่อนไขอื่นๆ ที่จะตามมา
2. เมื่อในหัวของผู้ประมูลโฟกัสที่ 'ราคาถูก' จึงไม่แปลกใจเช่นกันหากผู้ประมูลบางคนจะประมูลหลายรายการ (คล้ายๆ กับอารมณ์ของคนหิวข้าวมากๆ แล้วเปิดเมนูสั่งหลายอย่างตั้งโต๊ะ ผลสุดท้ายก็กินไม่หมด หรือกินหมดก็ต้องจ่ายในราคาแพง)
3. สินค้าถูกแล้วดีจริงหรือไม่? เป็นการดีลที่คุ้มค่ารึเปล่า? ให้ลองนึกภาพ สมมติว่ากล้องถ่ายรูปในราคาท้องตลาดอยู่ที่ 12,000-15,000 บาท แต่เว็บประมูลของให้ดีลเริ่มต้นที่ 1 บาท ผู้ประมูลชนะแต่ละครั้งมักจะชนะที่ราคา 3,000-5,000 บาท ถ้าเป็นอย่างนี้บ่อยๆ ในความเป็นจริง บริษัทก็ต้องขาดทุนมากๆ แน่นอน ดังนั้น ทางเลือกของบริษัทจึงมีอยู่แค่ 2 ทาง คือ 1)จำกัดรอบการประมูล แต่หลอกล่อให้เพดานการประมูลสูงไปเรื่อยๆ เทียบเท่าหรือแพงกว่าที่วางขายในท้องตลาด 2)สินค้าที่นำมาประมูล ภายนอกดูหรูหรา แต่ไส้ในต้นทุนต่ำ คุณภาพต่ำ
4. เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าในเว็บนั้นเป็นการประมูลโดยคนทั่วไป หรือมีหน้าม้ามาปั่นราคา หรือมีการตั้งระบบอัตโนมัติเอาไว้เพื่อล่อให้เราประมูลในราคาที่สูงขึ้น (ดังนั้น ในการประมูลมันมีโอกาสน้อยมากที่เราจะชนะในราคาถูกแบบหลายเท่าตัวของราคาที่วางขายทั่วไป)
5. ไม่ว่าคุณจะประมูลได้ในราคาใดก็ตาม ต้องบวกภาษีอีก 7-10% ของราคาที่ประมูลได้ทั้งหมด และบวกค่าขนส่งสินค้าไว้ด้วยอีกจำนวนหนึ่ง
6. น้อยคนนักที่จะทราบว่า 'เราสามารถยกเลิกสินค้าที่ประมูลได้' โดยการสรุปรายการซื้อ แล้วจดหมายเลขใบสั่งซื้อส่งอีเมล์ไปยังบริษัทว่า 'ขอยกเลิกการสั่งสินค้าหมายเลขxxxxx' เนื่องจากไม่มีบอกในนโยบายอย่างชัดเจน อีกทั้งไม่มีปุ่มยกเลิกสินค้าหลังการขาย มีแต่ปุ่ม 'ชำระเงิน' บางคนจึงโดนใบแจ้งหนี้ย้อนหลัง
7. เหตุที่บางคนโดนใบแจ้งหนี้ตามมาถึงบ้านได้ ทั้งที่ไม่ได้ยินยอมจะจ่าย?นั่นก็เพราะหน้าแรกของขั้นตอนการทำธุรกรรมหลังประมูลของชนะ จะบังคับให้กรอกชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรให้ครบ ก่อนที่จะข้ามไปขั้นตอนต่อไปได้
8. เว็บประมูลบางเว็บอาศัยช่องโหว่ในการเคลมของให้ยุ่งยาก โดยการให้พนักงานแสตนบายแค่อีเมล์ของบริษัทและโทรศัพท์เท่านั้น ไม่เพิ่มช่องทางการติดต่อให้ครบทุกช่องทางเพื่ออำนวยความสะดวกได้ครบวงจร เพื่อที่ใครสะดวกทางไหนก็จะได้ตามเรื่องจากทางนั้น (น้อยคนที่จะใช้อีเมล์หรือโทรติดต่อธุระในการเคลม เพราะมันยุ่งยาก) อีกทั้งยังใช้เวลานานในการให้สิทธิลูกค้าคืนสินค้าหากไม่พอใจ (เช่น 14 วันหลังจากได้ของแล้ว)
แต่ก็มีบ้างสำหรับคนที่ชนะการประมูลแล้วได้รับของรางวัลจริง ส่งถึงที่ในสภาพที่ครบ การใช้งานที่โอเค (ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก) ดังนั้น หากใครคิดจะประมูลสินค้าเพราะเห็นแก่ของถูก หรืออยากลองเล่นดู ก็โปรดใช้วิจารณญาณด้วยตนเอง อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยและคุ้มค่ามาก่อนราคาสินค้าที่ชวนล่อใจ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ