เรื่องเล่าสยองขวัญ!! ใครคิดจะเสริม “นม” คิดดีๆก่อนถ้ายังไม่ได้อ่านบทความนี้





‪#‎มีเรื่องเล่าของเพื่อนฝากมาแชร์ประสบการณ์นะสาวๆ‬ 


สวัสดีค่ะเพื่อนๆวันนี้เรามีเรื่องราวมาแชร์
เผื่อบางคนที่กำลังตัดสินใจทำหน้าอก จะได้คิดให้ดีๆ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะว่าเราไม่ได้มีเจตนาจะมาประจานใครทั้งสิ้น แค่อยากจะให้หลายๆคนที่สวยดูดีอยู่แล้ว ให้คิดดีๆว่าการศัลยกรรม มันไม่ได้ทำครั้งเดียวแล้วสวย หรือทำออกมาแล้วต้องดูดีทุกคน อยากให้เผื่อใจว่าการทำศัลยกรรม อาจโชคไม่ดีและอาจดูแย่กว่าเดิม อยากให้ทุกคนพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี
เราทำงานอิเว้นท์ MC/PT ทั่วไปเลยอยากเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง เลยตัดสินใจไปทำหน้าอก แต่ตอนที่ไปทำไม่ได้ศึกษาอะไรเลย คือรู้จักพี่คนนึงเขาไปทำมาแล้วบอกว่าดี ว่าสวยและถูกหมอเก่ง เราเลยตัดสินใจ เดินเข้าไปในคลินิกเลย

12278800_1726513450918279_2624740787679079541_n

 

[ads]

 

(15.9.57) ‪#‎ย่านประตูน้ำ‬ พอไปก็ได้ทำเลย เพราะเขาดึงเข้าคิวจร (คือคิวแทรกสำหรับคนที่ไม่ได้จองล่วงหน้า) วันที่ทำก็กลัวๆเพราะเราไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อนในชีวิต ตอนหมอถามว่าจะเอาไซส์เท่าไหร่เราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าไซส์อะไรมันใหญ่แค่ไหนเพราะหมอก็ไม่ได้เอาตัวอย่างมาให้ดู หมอก็พูดเร็วมากราวกับว่าทำเวลา หมอเลยถามว่าเราทำงานอะไร เราตอบตามตรงว่าเป็นMC หมอเลยจัดให้ 450 CC เรากลัวมันใหญ่ไปเราเลยขอหมอลดลง หมดแนะนำ380CC แต่อกเราข้างซ้ายมันเล็กกว่าหมอเลยให้ข้างซ้าย 410CC ข้างขวา380CC พอผ่าตัดเสร็จตอนที่ยากำลังหมดฤทธิ์ เราก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้ (ซึ่งนั่นก็คือเราเอง คงอาจเป็นเพราะจิตใต้สำนึกกลัวมากและประกอบกับความเจ็บเลยร้องออกมาอัตโนมัติ) เราก็ได้ยินหมอตะคอกว่ามึงจะร้องทำไมนักหนา (ตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใคร คือยังมึนๆเบลอๆยาสลบและควบคุมตัวเองอะไรไม่ได้ทั้งนั้น) และยังร้องหนักมาก มารู้ตัวอีกทีตอนที่หมอ…ตบหน้าดังเพลี๊ยะหน้าหันเลย รู้เลยว่าเสียงร้องนั้นคือเรา(คือได้ยินทุกอย่าง รู้สึกทุกอย่างแต่ทำอะไรไม่ได้)

12311230_1726513484251609_5736887505902743892_n
พอผ่าตัดเสร็จก็ต้องเคลื่อนย้ายมาอีกห้องข้างๆเพื่อพักฟื้น เราเข้าห้องผ่าตัด ตอน 19.45น. และรู้สึกตัวตอนเที่ยงคืนกว่าๆ เลยต้องนอนที่คลินิค ที่นั่นก็จะมีคนเฝ้าผู้ป่วย เราก็เข้าใจเค้าว่าผู้ป่วยเยอะทำงานหนักเขาอาจหงุดหงิด พอเราตื่นเราก็หิวมาก (เพราะอดอาหารก่อนไปไปทำ ตอน3ทุ่มของวันก่อน ได้ทำอีกวันตอนเกือบ2ทุ่ม และตอนนั้นมันก็เที่ยงคืนกว่าแล้วรวมเวลามันก็เกิน25ชม. แล้วที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย) พอเรารู้สึกตัวมันปวดมาก ขยับตัวไม่ได้เลยและหิวมากเราเลยถามคนดูแลว่ากินอะไรรองท้องได้ไม๊ เขาก็ตอบมาว่า….กินไม่ได้ นอนๆไป บอกให้นอนฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง!!!!! เราก็ถามว่างั้นแค่น้ำกับยาแก้ปวดได้ไม๊คือตอนนี้ปวดมาก เขาก็ตอบมาว่า….บอกว่าให้นอน…กินอะไรไม่ได้ทั้งนั้น…พูดไม่รู้เรื่องเหรอ อยากตกเลือดตายรึไง!!!! คืออออ….ตอนนั้นด้วยความที่เราไม่มีแรงจริงๆ เราก็ไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไร แต่ปวดทรมานมาก เราก็ทำใจมาแล้ว แต่ไอ้ที่ไม่ได้ทำใจมาล่วงหน้าคือเราต้องโดนคนดูแลของคลินิคพูดจาแบบนี้ เราทำอะไรไม่ได้ตอนนั้น เลยคิดแค่ว่าพยายามหลับๆไปและเราก็หลับไปและตื่นอีกทีประมาณ 7.00น. คราวนี้เราปวดฉี่มาก เราเลยอยากไปเข้าห้องน้ำ แต่ด้วยความปวดเราขยับตัวไม่ได้เลย เราเลยบอกคนดูแลว่า…พี่คะ หนูรบกวนพาหนูไปฉี่หน่อย และเราก็ได้คำตอบที่น่ารักมาว่า….ก็ลุกขึ้นมาเองสิ ทีนมยังทำได้ แค่ลุกแค่นี้ทำเป็น!!! คือเราตกใจมากแต่ตอนนั้นจะราดแล้ว ด้วยความที่เราหวังว่าที่นี่มีคนดูแลเราก็อุ่นใจเพราะเขาคงจะช่วยเราเล็กๆน้อยๆได้แค่ประคอง แต่ไม่เลย เราเลยโมโหและรวบรวมพลังตอบโต้ไป และถามว่า ขอโทษนะคะที่นี่ไม่มีคนพูดจาดีๆเป็นเหรอคะ ทำไมต้องด่า ทำไมต้องตะคอก เราเข้าใจนะว่าคุณเหนื่อย แต่เราก็เจ็บมากขยับตัวไม่ได้เลยไม่ได้มีเจตนาจะรบกวนหรือแกล้งเลย พูดดีๆไม่ได้เหรอคะ แล้วเขาก็มองตาขวางบ่นพรึมพรำๆ เราก็เลยคิดว่าถ้าไม่พาลุกเราก็ฉี่ใส่นี่แหละ ซักพักเลยมีอีกคนมาดึงขึ้น แต่แบบดึงจริงๆไม่ประครองหลังซึ่งทำให้เราปวดแผลมาก (คือตอนนั้นมันทำให้เรานึกไปถึงคนที่แก่มากๆและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แล้วเขาขอความช่วยเหลือลูกหลานและคนข้างๆแล้วไม่มีใครช่วย เขาเลยต้องนอนร้องไห้ เราเข้าใจอารมณ์นั้นเลย) สุดท้ายเราก็ได้ไปเข้าห้องน้ำ และกลับมานอนจนถึง8โมง เราก็ได้กลับ วันนั้นด้วยความที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยว่าจะได้ทำรึเปล่าเราเลยไม่ได้บอกใครและไม่มีใครมารับ เราก็นั่งแท็กซี่กลับคนเดียว หมอนัดให้มาดูแผลอีก 3วัน และตัดไหม7วัน เราก็ไปตามนัด ผ่านไปได้12วันแล้ว เราก็ยังปวดและขยับตัวไม่ได้เลย เราเลยสงสัยมากเพราะคนอื่นบอกว่าทำแค่3วันก็ทำงานได้เลย แต่ทำไมเราขยับตัวไม่ได้เลย ลุกก็ยังต้องมีคนประคอง (โชคดีมากตอนนั้นพักอยู่กับญาติห่างๆซึ่งเขาดูแลดีมากถือว่าโชคดีจริงๆ อันนี้ต้องขอบคุณญาติด้วย) เราเลยตัดสินใจนั่งรถไปหาหมอ หมอก็บอกไม่มีอะไรเด๋วจะพันผ้าให้ใหม่ แล้วเราก็ไปตรวจตามนัดจนแผลหาย
ผ่านไป6เดือน หน้าอกเราก็เริ่มมีปัญหา หย่อนและบิดเบี้ยว (เราก็คิดกนักทำไมเบี้ยวทั้งที่ไม่เคยจับไม่เคยบีบไม่เคยอะำรทั้งนั้น เราไม่มีแฟนเราด้วย)และมันทำให้เจ็บ เราก็เป็นกังวลมาก เพราะเราทำตามหมอบอก ห้ามทาอะไร ห้ามกินยาอะไรที่หมอไม่ให้สั่ง ห้ามนวด ห้ามลงน้ำทะเลก่อนเวลาที่แนะนำ เราก็ทวนทุกอย่างว่าเราพลาดอะไรไม๊ และด้วยความปวดเราก็เลยตัดสินใจไปพบหมอ หมอบอกว่าซิลิโคนมันพลิก เด๋วหมอกลับให้ก็ไม่มีอะไรละ เราก็สบายใจหายกังวัล แต่หลังจากกลับไปได้1อาทิตย์ก็พลิกอีกเราเลยไปหาหมออีก และหมอก็ยังคงแนะนำเหมือนเดิมว่าห้ามนวด ห้ามโน่นนี่นั่น…..เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นอย่ามาโทษหมอนะ ด้วยความที่เรากลัวหน้าอกไม่สวยเราก็ทำตาม แต่ก็ยังพลิกตลอดจนเราหัดกลับด้านมันเอง และกลับเองเป็น
และผ่านไปอีกประมาณเดือน8 (9.5.58) เราก็ทนกับอาการซิลิโคนพลิกไม่ได้ เราก็เลยไปถามหมอจริงจัง ไปถึงเราก็ขอพบหมอเลย พอได้เจอหมอ (ในห้องจะมีผู้ช่วยยืนอยู่ด้วยคอยฟังและจำข้อมูลว่าหมอบอกอะไรบ้าง) หมอก็ตรวจและถามอาการหลายๆอย่าง ซึ่งดูละเอียดกว่าทุกๆครั้งที่เคยเจอหมอ (ประมาณเกือบ5นาที ถ้าคนที่ทำที่เดียวกันอาจรู้ว่าหมอไม่เคยคุยกับใครนานเกิน2นาทีกับเคฟอลโล เพราะลูกค้าหมอเยอะมาก) หมอเลยให้เรานอนหงานและกลับซิลิโคนให้ ในขณะนั้นเราก็ใช้โอกาสนั้นถามหมอว่าหนูไม่อยากเป็นแบยนี้อีกต้องทำยังไง หนูรู้สึกแย่ที่ทำมาแค่6เดือนแล้วมีปัญหา พอจะทำยังไงได้บ้างคะหมอ หมอเลยบอกว่าถ้าจะแก้ไขไม่ให้เป็นอีกก็ต้องเปลี่ยนซิลิโคน ทำใหม่แค่ข้างที่มีปัญหาหมอจะรับผิดชอบเอง (อันนี้เราได้ยินก็สบายใจมาก) หมอบอกแต่ไม่ต้องรีบเอาไว้คุณว่างและมีเวลาจริงๆค่อยมาทำ ตอนนั้นเราก็2จิต2ใจจะทำดีไม๊ (เพราะยังจำเหตุการณ์ความเจ็บปวด ความกลัวกับคนดูแล มันยังจำฝังใจ) เราเลยตอบหมอไปว่าขอคิดดูก่อน แต่ใจหนูอยากทำเลยเพราะหนูหยุดงาน2เดือนตอนนี้ หมอเลยบอกให้คิดดูก่อนคุณไม่ต้องรีบ และหมอก็เดินไปตรวจห้องอื่น ทั้งที่เรายังพูดไม่จบ และหมอก็ตรวจอีดคนและรีบขึ้นไปห้องผ่าตัดแล้ว ในขณะที่เราเดินไปเคาน์เตอร์เพื่อไปบอกเจ้าหน้าที่ว่าหมอสรุปว่าไง เราก็บอกไปตามที่หมอบอก ว่าต้องทำใหม่ และหนูอยากทำวันนี้เลยยอกหมอได้ไม๊เมื่อกี๊หมอไม่ทันฟังเลยแล้วเดินไปก่อน ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งแทรกมาอย่างดังว่า หมอบอกไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องทำอะไร หมอบอกตอนไหนว่าต้องทำใหม่ แค่นั้นแหละก็มีอีกเสียงดังมาว่า อ้าวทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ทำไมไม่พูความจริงตามที่หมอบอก ไอ้เราก็งง เร่ก็ยืนงง และตอบไปเบาๆว่าก็ตอบไปตามหมอพูดนิคะ ก็หมอบอกแบบนี้จริงๆ และแล้วมันก็กลายเป็นเรื่องราวถกเถียงกันเสียงดัง ต่อหน้าคนที่มารอคิวผ่าตัดประมาณเกือบ30คนได้ ไอ้เราก็เสียใจมากพออยู่แล้วที่หน้าอกเราผิดรูป และมีปัญหาตลอด ซึ่งทำได้แค่ไม่กี่เดือน แล้วมาเจอพนักงานหาเรื่องอีก สุดท้ายเราก็ไม่ได้ยืนให้เขาด่าเฉยๆเหมือนทุกครั้งแล้ว เพราะทุกคนรุมด่าเหมือนอยากทำให้เราอาย ยิ่งเห็นเราพูดค่อยและไม่ตอบโต้ก็ยิ่งด่าเราเสียงดัง มารุมด่าเราตั้ง3คน เราจึงตัดสินใจเอาวะไม่มีอะไรจะเสียละ ถ้าเกิดไม่รับผิดชอบไม่เป็นไร ไปที่อื่นก็ได้ เราเลยตัดสินใจด่ากลับ และรักษาสิทธิ์ สุดท้ายเราก็เลือกที่จะเดินออกไปจากร้านเพื่อไปสงบสติอารมณ์
หลังจากนั้นครึ่งชม.พอเราใจเย็นเราก็เลยโทรเข้ามาถามว่าสรุปจะแก้ไขให้ไม๊ พนักงานเลยบอกว่าให้กลับเข้ามาคุยกับหมอใหม่ พอไปถึงเขาก็ให้เราขึ้นไปพบหมอเลย พอหมอออกมาหมอก็แหกปากมาแต่ไกลและใครเครื่องถ่างโพรงนมชี้หน้าเรา และถามเราว่าคุณมาแหกปากโวยวายปุ่นคลินิคผมทำไม และบ่นๆๆๆๆไม่เปิดโอกาสให้เราพูเลย เราเลยถามคำเดียวว่าจะฟังไม๊ จะถามฉันซักคำไม๊ว่าเกิดอะไรขึ้น หมอก็ไม่ยอมหยุดเราเลยสวมบทปีศาจร้ายจนเขาต้องหยุดฟังเพราะเขาเถียงเาไม่ทัน และสุดท้าย เขาก็ยอมแก้ไขให้เราวันนั้น
ผ่านมาอีก2เดือน ปัญหาใหม่ก็เริ่มเกิดขึ้นอีก เนื้อนมเราฉีกขาด(ไม่ทราบสาเหตุอีกแล้วทั้งที่พยายามดูแลตัวเองดีมาก) ไปหาหมอๆก็บอกไม่มีอะไร ใจเย็นๆ ไปกี่ครั้งๆกี่ครั้งก็บอกไปไม่เป็นไร พอหลังจากผ่าแก้ไขไป3เดือนเราทนความปวดไม่ได้เลยไปหาหมอท่านหนึ่งที่จ.อุดรธานี (ตอนไปทำงานที่นั่น) ‪#‎พอท่านเห็นแค่นั้นแหละก็ตกใจมาก‬ ‪#‎และพูดประโยคแรกว่า‬ ‪#‎มันใกล้จะทะลุแล้วนะไปเอาออกเถอะ‬ แค่นั้นแหละเราหมดอาลัยตายอยากเลยต้องผ่าอีกแล้วเหรอ รู้สึกเหนื่อยใจจัง ต้องเสียเงินและเจ็บแค่ไหนถึงจะหายดี พอมาหาหมออีกทีที่กรุงเทพ หมอก็บอกไม่เป็นไร ดูตามภาพแล้วมันไม่เป็นไรจริงๆเหรอคะเพื่อนๆ จะนอนทีก็ปวดและเจ็บตรงที่มันฉีก และฉีกออกไปเรื่อยๆ‪#‎สรุปทำมาได้ปีกว่าๆเองปัญหาเยอะมาก‬ ทำการทำงานก็ต้องมาพะวงแต่เรื่องหน้าอก ห้ามอย่างโน้นห้ามอย่างนี้ ‪#‎เราควรทำไงแนะนำเราที‬!!??

 

12274218_1726513677584923_7297124981363769449_n

 

12301657_1726513604251597_7760714556913289897_n

‪#‎ใครจะทำหน้าอกให้คิดดีๆนะคะศึกษาดีๆ‬
หมอเก่งไม๊ไม่พอ การบริการหลังทำเป็นไง
ก่อนทำต้องเตรียมตัวทำไง หลังทำต้องทำไงบ้าง สถานที่ทำสะอาดได้มาตรฐานไม๊(เพราะเราอาจติดเชื่อได้นะ) ศึกษาเคสที่มีปัญหาเยอะๆเพื่อเตรียมตัวรับมือการเกิดปัญหากับเรา 
‪#‎บางทีถ้าเรายอมเพิ่มตั่งค์อีกซักนิดไปทำที่ดีๆได้มาตรฐานจะดีกว่าไม๊ก็ลองคิดดู‬ ‪#‎เพราะการศัลยกรรมทำแล้วจะเปลี่ยนไปตลอดกาลไม่รู้จะเแลี่ยนไปทางไหน‬ ‪#‎ฉะนั้นเราคิดว่าลงทุนอีกนิดหน่อยเถอะถ้าคิดจะทำอย่าไปเสียดายเพราะนั่คือร่างกายเรานะ‬ ‪#‎ทำก็ทำให้ดีไปเลย‬
‪#‎ทางที่ดีพอใจในสิ่งที่ตนมีนะสาวๆ‬ ‪#‎ใครที่ทำแล้วมีปัญหาก็สู้ๆนะ‬

★★ใครอยากแนะนำส่วนตัว ส่งข้อความมาได้นะคะที่ [email protected]

 

ขอบคุณเนื้อหาและรูปจากคุณ Idin Idea

 

[ads=center]

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: