แพทย์แนะวิธีปฏิบัติตัว หากเผลอเสริมซิลิโคนเถื่อนไปแล้ว อย่าตระหนก





18 ม.ค.2566 นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ กรรมการแพทยสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประชาชนที่รับบริการ “กรวินคลินิก” ที่มีการตรวจสอบพบการสั่งซื้อซิลิโคนที่ผลิตจากโรงงานเถื่อน โดยมีผู้รับบริการหลักพันคน ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ว่า ตามปกติแล้วการจะใส่ซิลิโคนเข้าไปในร่างกายจะต้องมีการตรวจสอบก่อนว่า เป็นซิลิโคนระดับไหน ซึ่ง “ซิลิโคน” มีทั้งแบบฟู้ดเกรด ที่นำมาทำอะไรที่ไม่ต้องเข้าไปในร่างกาย

นพ.สัมพันธ์ กล่าวต่อว่า เช่น ภาชนะ Couple Wear ทำสายน้ำเหลือ เป็นต้น, แบบเมดิคัล เกรด ก็จะดีขึ้นมาหน่อย ส่วนใหญ่ที่เอามาใช้จะอยู่ในระดับนี้ และยังมีที่ดีที่สุดคือ ซิลิโคนแบบสำหรับปลูกฝังในร่างกาย (Implant Grade) ที่มีการทดสอบว่าฝังในร่างกายแล้วเป็นอย่างไร มีปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อหรือไม่ มีสารก่อภูมิแพ้ในระยะยาวหรือสารก่อมะเร็งหรือไม่ มีผลที่เป็นพิษต่อเซลล์หรือไม่ (Cytotoxic) เป็นต้น ก็แล้วแต่ว่าสิ่งที่ใช้ไปเป็นเกรดไหน

“ส่วนใหญ่ต้องระมัดระวัง ถ้าราคาถูกมาก ๆ จะเป็นพวกฟู้ดเกรดระดับต่ำสุด แต่ไม่ได้บอกว่าถ้าใช้ระดับฟู้ดเกรดแล้วจะเกิดปัญหาทุกราย ดังนั้น ขอแนะนำว่าผู้ที่ไปรับบริการจากคลินิกดังกล่าวตามที่เป็นข่าว แล้วอาจจะไม่มั่นใจหรือกังวลใจ เบื้องต้นแนะนำว่า อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ยังไม่ต้องทำอะไรหรือยังไม่ต้องรีบไปเอาออก ขอให้ติดตามไปก่อนว่า มีผลกระทบอะไรหรือไม่” นพ.สัมพันธ์ กล่าว

นพ.สัมพันธ์ กล่าวอีกว่า แต่ถ้ามีปฏิกิริยา มีอาการบวมแดง ติดเชื้อ มีการรัดตัวแข็งตัวขึ้นมา ก็ให้มาเอาออก เมื่อเอาออกแล้วก็น่าจะหายได้ แต่ถ้ากังวลมาก ๆ จิตตก มีผลกระทบต่อจิตใจ นอนไม่หลับ ก็มาเอาออก หรือหากยังดูไปก่อนได้ ไม่ได้รีบร้อนอะไรก็ขอให้เฝ้าระวังติดตามดูไปก่อน

ถามถึงการฝึกซ้อมมือเหลาซิลิโคนของแพทย์ ต้องใช้เกรดระดับไหน นพ.สัมพันธ์ กล่าวว่า ถ้าฝึกซ้อมโดยไม่ใส่กับคนไข้ จะเหลากับอะไรก็ได้ บางคนเหลากับยางลบ เอาซิลิโคนหรือยางมาหัดเหลา ฝึกมือก็ต้องฝึกเช่นนั้นก่อน สมัยก่อนตนยังเคยฝึกกับยางลบ แต่ของพวกนี้จะเอาไปใส่ในคนไม่ได้อยู่แล้ว เอาซิลิโคนราคาถูก ๆ หรือแบบล็อกมาเหลา ต้องใช้ฝีมือ บางอันต้องใช้เวลาฝึกซ้อม 2-3 ชั่วโมง แต่ถ้าใส่กับคนไข้อย่างน้อยที่สุดต้องเป็นเมดิคัลเกรดและ Implant Grade

นพ.สัมพันธ์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้น หากการใส่ซิลิโคนราคาต่ำมาก ๆ ต้องระวังว่าจะเอาวัตถุดิบอะไรมาทำ ย้ำว่า ซิลิโคนมีหลายบริษัทที่ได้รับรองจาก อย. หรือ FDA ของสหรัฐฯ กระบวนการผลิตซิลิโคนที่ถือว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ จริง ๆ แล้วก็ต้องมี ISO กำกับ คือ ISO13485

ถามต่อว่า แพทย์ที่จะมาผ่าตัดใส่ซิลิโคนนอกจากที่ต้องมีการเรียนการฝึกแล้ว ต้องผ่านการทดสอบฝีมือให้ได้มาตรฐานด้วยหรือไม่ นพ.สัมพันธ์ กล่าวว่า แพทย์ที่จะมาทำการผ่าตัดจะต้องศึกษามาอย่างดี ทั้งทฤษฎี การเป็นผู้ช่วยและฝึกผ่าตัด เป็นเรื่องปกติจะต้องมีการฝึกอยู่แล้ว เตรียมตัวมาอย่างดี แต่ว่าคงไม่ได้มีมาตรฐานขนาดนั้น ถ้ามีก็ต้องมีการสอบ แต่เรายังไม่มีหลักสูตรแบบนั้น แต่ทุกอย่างผลของการผ่าตัดก็เป็นสิ่งที่แพทย์ต้องรับผิดชอบ ถ้าผ่าตัดแล้วมีปัญหาสุดท้ายคนไข้ก็จะไม่ไปเอง

“สิ่งที่อยากฝากคือ ประชาชนต้องให้ความสำคัญกับสารหรือวัตถุดิบที่จะใส่ในร่างกาย ต้องดูที่มาที่ไป มี อย. ไหม ISO มีหรือไม่ ต้องติดตาม ส่วนแพทย์นี่ปฏิเสธไม่ได้เลย ตามกฎหมายเลยจะต้องใช้ยา เครื่องมือแพทย์ที่ผ่านการรับรองหรืออนุญาตโดย อย. ไม่ว่าจะนำเข้าหรือผลิตในประเทศ อย่าสุกเอาเผากิน ไม่ดีและไม่แฟร์กับคนไข้” นพ.สัมพันธ์ กล่าว

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: