ครม.อนุมัติ3มาตรการยกเว้นภาษี-ลดหย่อน2เท่า





27 ธันวาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบมาตรการทางภาษี 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ให้กิจการของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยมาตรการที่กล่าวมาทำให้ จัดเก็บรายได้ภาษี ลดลง 2,187 ล้านบาท

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. จำนวน 2 ฉบับ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการภาษี ทั้ง 2 มาตรการ ดังนี้ 1. มาตรการเพื่อส่งเสริมโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่เกิดจากการขายคาร์บอนเครดิตในประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2570

“2. มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการดำเนินโครงการภาคีสนับสนุนป่าชุมชนลดโลกร้อน โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีของบุคคลธรรมดาให้สามารถหักลดหย่อนเงินที่บริจาคให้แก่กรมป่าไม้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2570 มาตรการดังกล่าวนอกจากจะช่วยลดภาวะโลกร้อนแล้ว ยังเป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นการเติบโตอย่างยั่งยืน และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ด้วย”

นายลวรณ กล่าวว่า ครม. หลักการ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา ได้แก่ 1. ให้ยกเลิกพระราชกฤษฏีกาฯ (ฉบับที่ 420) พ.ศ.2547 และ พระราชกฤษฏีกาฯ (ฉบับที่ 655) พ.ศ.2561 ตั้งแต่วันถัดจากวันที่พระราชกฤษฏีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

2. ให้ผู้บริจาคให้แก่สถานศึกษาดังต่อไปนี้ สถานศึกษาของรัฐ โรงเรียนเอกชน แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนนอกระบบ สถาบันอุดมศึกษาเอกชน สถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ และ สถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ ได้รับสิทธิหักลดหย่อนหรือหักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับการบริจาคผ่านระบบ e-Donation ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

“มาตรการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้สถานศึกษาสามารถพัฒนาศักยภาพของนักเรียน นิสิต และนักศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อีกทั้งยังช่วยให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น อันเป็นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมให้แก่ประชาชน” นายลวรณ กล่าว

นายลวรณ กล่าวว่า นอกจากนี้ กรมสรรพากร ได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. จำนวน 1 ฉบับ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการดังกล่าว จึงกำหนดให้กิจการของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เฉพาะรายรับจากการให้กู้ยืมเงินตามโครงการสนับสนุนเอสเอ็มอี ผ่านกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 เป็นกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 ซึ่งเป็นวันที่โครงการเริ่มมีดอกเบี้ยรับ เป็นต้นไป

“มาตรการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุน การดำเนินโครงการสนับสนุนอสเอ็มอี รายย่อยผ่านกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ช่วยบรรเทาภาระภาษี อีกทั้งจะเป็นการช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีรายย่อย สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ตลอดจนเสริมสร้างสภาพคล่องในการลงทุน ปรับปรุง และขยายกิจการต่อไป” นายลวรณ กล่าว

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: