โควิดยังมีป่วยเพิ่ม12.8% เตือน “คนแก่” ยังไม่ได้วัคซีน งดออกจากบ้าน





13 พ.ย.2565 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ในไทย สัปดาห์ที่ 45 วันที่ 6-12 พ.ย. 2565 มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยนอนรักษาใน รพ.เพิ่มขึ้น 12.8% เปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า จากการเฝ้าระวังในผู้ป่วยรักษาใน รพ. ผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อที่ดูแลที่บ้านผ่านรายงาน สปสช. และเฝ้าระวังสถานที่เสี่ยงใน 8 จังหวัด

เริ่มพบผู้ป่วยที่มารับการรักษาใน รพ.เพิ่มขึ้นทั้งใน กทม. ปริมณฑล จังหวัดท่องเที่ยว โดยเฉพาะภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่รับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น จัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมากขึ้น

ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิตยังมีแนวโน้มคงตัว แต่มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่ไม่รับวัคซีนโควิดและไม่ได้รับเข็มกระตุ้น ทำให้ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรค หากติดเชื้อโควิด 19 มีโอกาสป่วยหนักได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย และผู้ที่มีโรคประจำตัว ทั้งนี้ ยังเป็นไปตามคาดการณ์ ในช่วงเริ่มต้นการระบาดครั้งใหม่ที่มีลักษณะเป็น Small wave หลังปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ต้องเน้นมาตรการตรวจรักษากลุ่ม 608 ที่เริ่มมีอาการป่วย ทั้งมีไข้ ไอ และ ATK พบเชื้อ ให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว ทแพทย์อาจพิจารณาให้ LAAB โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวที่อาจจะสร้างภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้น้อย

สำหรับคำแนะนำช่วงนี้ ผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีนงดออกจากบ้าน คนในครอบครัววัยทำงาน มีเสี่ยงต่อการสัมผัสผู้ติดเชื้อนอกบ้าน เช่น ไปสถานบันเทิง ให้งดใกล้ชิดผู้สูงอายุ และพาพ่อแม่ ผู้สูงอายุ รวมทั้งเด็กเล็ก เด็กนักเรียน เข้ารับวัคซีน ทั้งเข็มแรกหรือเข็มกระตุ้นหากรับเข็มสุดท้ายเกิน 4 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงป่วยหนัก ลดระยะเวลารักษา ที่ญาติต้องลางานเพื่อดูแล

“กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียม ยา เวชภัณฑ์ วัคซีน LAAB ไว้เพียงพอเพื่อรองรับการระบาดที่กำลังเพิ่มขึ้น รวมทั้ง รพ.ทั้งภาครัฐ และเอกชน ทั่วประเทศ มีความพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนโควิด โดยสามารถสอบถามวันเวลาที่ให้บริการ ก่อนไปรับการฉีดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” นพ โสภณกล่าว

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: