ไทยจับมือกัมพูชาปราบ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ลงนาม11ก.ค.นี้





5 ก.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคม ของประเทศกัมพูชา ว่าด้วยความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ Hybrid Scam ที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับจำนวนมาก และมักจะดำเนินการจากนอกประเทศไทย

ขอให้ระมัดระวังเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย ไม่ได้บันทึกไว้อย่าไปรับ จะถูกแอบอ้าง ซึ่งถ้าเรามีภูมิคุ้มกันจะดีกว่า ดังนั้นใครจะพูดกับใครขอให้เมมเบอร์ไว้ อย่าไปรับโทรศัพท์”

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อตกลงการร่วมมือครั้งนี้ เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศ ได้ใช้มาตรการที่เหมาะสม มีความสอดคล้องกับกฎหมายภายในของทั้ง 2 ประเทศ แลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับปราบปรามผู้กระทำผิด ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งไทย และกัมพูชา เพื่อผลักดันมาตรการต่างๆร่วมกัน

รัฐบาลถือว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นเร่งด่วน เนื่องจากมีคนไทยได้รับผลกระทบและเสียหายจากการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ในลักษณะนี้จำนวนมาก”

สาระสำคัญของความตกลงระหว่างไทย และกัมพูชา จะมีกิจกรรมที่ผ่านการตัดสินใจร่วมกัน ดังนี้

  • แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญเชิงเทคนิค และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการปราบปราม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ Hybrid Scam ภายใต้ระบบ กรอบการทำงานร่วมกัน เช่น กลไกสนับสนุนทีนส่งเสริมส่งผ่านข้อมูลข้ามพรมแดน
  • แต่งตั้งผู้ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสืบหาหลักฐานในไทย และกัมพูชา และขยายการสืบสวนเพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิดโดยหลักฐานดังกล่าวอาจจะรวมถึงข้อมูลที่อยู่ผู้ใช้บริการการสื่อสารทางเสียงผ่านอินเตอร์เน็ต และบันทึกการใช้โทรศัพท์ของผู้กระทำความผิดที่ได้กระทำระหว่างก่ออาชญากรรมทั้ง 2 ประเทศ
  • ประสานงานและอำนวยความสะดวกในกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตามสนธิสัญญาระหว่างไทยและกัมพูชาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน รวมทั้งกฎหมายและกฎระเบียบภายในประเทศของผู้เข้าร่วมทั้ง  2 ฝ่าย
  • ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของทั้งไทยและกัมพูชา
  • ความร่วมมืออื่นๆ ตามที่ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน

ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจที่ทำร่วมกันนี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 3 ปีนับแต่วันลงนาม และอาจขยายระยะเวลาบังคับได้อีก 3 ปี ด้วยการจัดทำความตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร โดยจะมีการลงนามวันที่ 11 ก.ค.นี้ ที่กัมพูชา ซึ่งนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส จะเดินทางไปเยือนกัมพูชาด้วย

 

ข่าวจาก : thaipbs

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: