แม่กินน้ำสมุนไพรเถื่อน “กระดูกสะโพกตาย” ลูกแจ้งความเอาผิดไม่ได้





แม่ปวดเข่ากินน้ำสมุนไพรเถื่อน กระดูกสะโพกตาย ยืน-เดินไม่ได้ ลูกโอดแจ้งความเอาผิดไม่ได้ เหตุไม่สามารถระบุที่มาของสารสเตียรอยด์

วันที่ 7 มิ.ย. 65 เพจ Drama-addict โพสต์แชร์เรื่องราวน้ำสมุนไพรเถื่อน หลังมีคนกินแล้วอาการหนัก โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้มีเคสที่ตำรวจบุกจับโรงงานผลิตยาน้ำสมุนไพรเถื่อน ที่ยัดยาสเตียรอยด์ ยาแก้ปวดลงไปแบบมหาศาล ล่าสุดมีลูกชายของคุณป้าท่านนึงติดต่อมา บอกว่าแม่เขาไปหลงซื้อน้ำสมุนไพรยี่ห้อนั้นมากิน จนเกิดภาวะ “หัวกระดูกสะโพกตายจากการขาดเลือด” ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบหลังการกินสเตียรอยด์โดสสูง ๆ ผลคือ หัวกระดูกสะโพกแม่เขาตายเลย เดินไม่ได้เลย ต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวกระดูกสะโพกเลย และตอนนี้เขาต้องการดำเนินคดีกับพวกขายยาน้ำพวกนี้ แต่ติดขัดเรื่องขั้นตอนการดำเนินคดี

ชายรายดังกล่าว เผยว่า แม่มีอาการเจ็บหัวเข่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม่เป็นแม่ค้าขายของในตลาดก็เลยมีเพื่อนเยอะ เพื่อนแนะนำให้กินยาน้ำสมุนไพรยี่ห้อหนึ่ง เพราะว่ายาตัวนี้มีเอกสารอนุญาตจาก อ.ย. ผมเลยอนุญาตให้กินได้ หลังจากกินไปได้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ อาการเจ็บเข่าของแม่ดีขึ้นต่อเนื่อง และยาน้ำขวดนั้นก็หมด แม่บอกให้ผมหาซื้อยาน้ำตัวนี้มาให้อีก ผมเห็นข้างกล่องมี QR code ของตัวแทนจำหน่าย ก็ทำการติดต่อกับคนขายจากช่องทางนี้และได้สั่งมาเพิ่มอีกเป็นจำนวน 1 ลัง ( 12 ขวด) 1,500 บาท รวมส่ง

แม่กินยาตัวนี้ทุกวันเช้ากับเย็น ผมสังเกตว่าแม่เริ่มอ้วนขึ้น แต่นั่นเป็นเรื่องปกติเพราะคนทั่วไปจะมีความเชื่อว่ายาสมุนไพรจะช่วยให้เจริญอาหาร กินข้าวได้มาก ผมก็ให้แม่กินต่อไปเรื่อยๆ จนครบ 1 เดือน

เข้าสู่เดือนที่ 2 อาการของแม่เริ่มเปลี่ยนไป แม่เริ่มเจ็บตามข้อต่อ หัวเข่า ข้อศอก สะโพก เอว รวมถึงกล้ามเนื้อไม่ค่อยมีแรง และแม่ก็เริ่มเดินไม่ได้ ในขณะที่ตัวของแม่ก็ยังอ้วนขึ้นต่อเนื่องจะรู้สึกว่าบวมมากกว่าอ้วนแล้ว แต่ผมยังให้แม่กินยาต่อไปเรื่อย ๆ เพราะคิดว่ายาสมุนไพรที่มีใบอนุญาตนี้ไม่น่าจะมีโทษต่อร่างกาย

กระทั่งช่วงเที่ยงของวันที่ 24 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ผมเห็นข่าวเรื่องตำรวจสอบสวนกลางและ อ.ย. ไปบุกทะลายโกดังผลิตยาน้ำสมุนไพร ซึ่งเป็นโรงงานที่ขอนแก่นและระยอง ซึ่งรูปผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเหมือนกับยาที่แม่ผมกำลังกินอยู่เลย ก็รีบพาแม่ไปโรงพยาบาลและนำตัวอย่างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปให้กับสาธารณสุขจังหวัดตรวจสอบ

ภายในวันเดียวกันก็ได้เดินทางไปที่คุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดระนอง เพื่อขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ก็ได้รับเรื่องเอาไว้พร้อมกับขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับเพื่อแจ้งความคืบหน้า 2 วันต่อมาก็มีโทรศัพท์จากสาธารณสุขจังหวัดโทรมาแจ้งเรื่องผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ยาดังกล่าว ตรวจพบสารสเตียรอยด์และยาแก้ปวดในขวดยาน้ำจริง ๆ

ระหว่างที่รอการรักษาของแม่เพื่อจะได้มีใบรับรองแพทย์ไว้เป็นหลักฐาน และรอโทรศัพท์จากคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดระนอง ก็ได้ไปขอคำปรึกษาจากสถานีตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เพื่อขอแนวทางในการดำเนินคดีกับผู้ผลิตและผู้จำหน่าย ทางตำรวจแนะนำให้เอาใบรับรองแพทย์และผลตรวจจากสาธารณสุขจังหวัดให้เอาไปยื่นให้กับคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดระนองด้วยตัวเอง

ตลอดระยะเวลา 2 เดือนตั้งแต่ทราบเรื่องการจับกุมผลิตภัณฑ์ยาตัวนี้ ผมต้องไปๆมาๆตามหน่วยงานราชการอยู่หลายครั้ง คุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดระนอง 3 ครั้ง ติดต่อสถานีตำรวจภูธรจังหวัดระนอง 2 ครั้ง ติดต่อสาธารณสุขจังหวัดระนอง 2 ครั้ง และพาแม่เข้าออกโรงพยาบาล 4 ครั้ง

โดยเฉพาะเรื่องการพาแม่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ทุกครั้งที่ออกจากโรงพยาบาล ในใบรับรองแพทย์ของแม่ไม่มีการระบุถึงสาเหตุของการเจ็บป่วยครั้งนี้เลยว่าเกิดจากอะไร หรือเกิดจากสารอันตรายตัวไหน มีแต่ระบุเอาไว้ว่าเกิดอาการหรือเสียหายอะไรขึ้นบ้างเท่านั้นเอง เนื่องจากไม่มีการระบุสาเหตุที่เกี่ยวข้องจากสารสเตียรอยด์ของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการเชื่อมโยงระหว่างผลิตภัณฑ์ไปถึงผู้ได้รับผลกระทบได้ เป็นผลทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีได้

สภาพอาการป่วยของแม่ผมตอนนี้ แม่ทำได้แค่นอนและลุกขึ้นมานั่ง บางครั้งก็พยายามฝึกยืนแต่ก็ยืนได้ไม่เกินครั้งละ 1 นาที ไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ตลอดเวลา ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากการกินผลิตภัณฑ์ตัวนี้ และอาจจะประสบปัญหาเดียวกับผมก็คือไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เลย

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: