ถกสนั่น! ครูอ้าง ‘ตัดผมสั้น’ แยกม.ต้น-ปลาย หลังว่อนคลิป จวกน.ร.ไม่ติดแพทย์ ไม่ควรมีปากเสียง
สืบเนื่องจากกรณีที่คลิปวิดีโอบันทึกภาพเหตุการณ์ ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ประกาศหน้าเสาธง อธิบายเรื่องระเบียบทรงผมต่อหน้านักเรียน โดยมีใจความว่า
“มาพูดว่าทำไมต้องมองเรื่องทรงผม ทำไมไม่มองในสิ่งที่อยู่ในสมอง ใช่ ท่านพูดถูก เขาสอบแพทย์ติดเป็นห้องๆ ของเรามีแพทย์ติดสักห้องไหมฮะ เขาสอบเข้าคณะวิชาในมหาวิทยาลัยเป็นห้องๆ แต่ของเรายังทำแบบนั้นไม่ได้ ฉะนั้นเมื่อเรายังทำไม่ได้ เราก็ไม่ควรจะมีสิทธิมีเสียง…”
ก่อนเฟซบุ๊ก กลุ่มนครเสรีเพื่อประชาธิปไตย จะออกมาโพสต์ถึงกรณีดังกล่าวว่า
“ครูโรงเรียนสิชลคุณาธารวิทยา เผยกับนักเรียนว่าสาเหตุที่ต้องให้นักเรียนม.ต้นต้องตัดสั้น เพราะครูแยกไม่ออกว่าอันไหน นักเรียนระดับชั้น ม.ต้น หรือนักเรียน ม.ปลาย เผยกับนักเรียนว่าสาเหตุที่ต้องให้นักเรียนม.ต้นต้องตัดสั้น เพราะครูแยกไม่ออกว่าอันไหน นักเรียนระดับชั้น ม.ต้น หรือนักเรียน ม.ปลาย
อยากบอกกับครูนะครับถ้าหากใช้เหตุผลที่ต้องตัดผมสั้น ครูควรจะตัดติ่งหูด้วยเพราะแยกไม่ออกว่าอันไหนครูอันไหนแม่บ้าน คุณครูน่าจะมีปัญหาในเรื่องของการแยกแยะ จะสอนเด็กให้แยกแยะชั่วดีได้อย่างไรถ้าเรื่องง่ายๆแค่นี้ครูยังแยกไม่ได้ในส่วนของจริยธรรมครูคงเข้าไม่ถึง”
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ ลักษขณาอดิศร อดีตผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคก้าวไกล ได้แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวในทวิตเตอร์ว่า
“โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้อธิบายเรื่องระเบียบทรงผมให้นักเรียนทราบประมาณว่า ถ้านักเรียนยังไม่มีผลการเรียน ที่สามารถสอบแพทย์ได้ สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ นักเรียนก็ไม่ควรมีสิทธิมีเสียง ผมคิดว่าคนที่พูด ไม่น่าจะเป็นครูนะครับ เพราะคนที่เป็นครูไม่น่าจะมีความคิดคับแคบ และล้าหลังได้ขนาดนี้”
“ถ้าทรงผมมีประโยชน์ไว้แค่แยกแยะเด็ก ผมแนะนำว่ายกเลิกให้นักเรียนได้มีเสรีภาพในการไว้ทรงผมที่เขามั่นใจที่จะมาโรงเรียนดีกว่าครับ เสรีภาพจะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และการเคารพความแตกต่าง ของนักเรียนได้ดีมากๆ เลยครับ”
โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้อธิบายเรื่องระเบียบทรงผมให้นักเรียนทราบประมาณว่า
ถ้านักเรียนยังไม่มีผลการเรียน ที่สามารถสอบแพทย์ได้ สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ นักเรียนก็ไม่ควรมีสิทธิมีเสียง
ผมคิดว่าคนที่พูด ไม่น่าจะเป็นครูนะครับ เพราะคนที่เป็นครูไม่น่าจะมีความคิดคับแคบ และล้าหลังได้ขนาดนี้ pic.twitter.com/BfOrR5jZmj
— Wiroj 77 (@wirojlak) May 26, 2022
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ