“มนุษย์แม่ลูกสอง” อดีตหมอนวดแผนไทย หนี้สินบานตะไท ฮึดสู้แบบ “สตรอง” จนขึ้นแท่นแม่ค้าเบอร์หนึ่งที่ จ.เชียงใหม่





 เกิดเป็นมนุษย์แม่ ต้องทำทุกๆ อย่าง เพื่อให้ลูกกินอิ่มนอนหลับสบาย เหมือนกับชีวิตของคุณแม่ลูกสองอย่าง คุณแอน สุพัตรา สาวสตรองเลือดนักสู้ จาก อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เจ้าของเฟสบุ๊ค Ann Whitesoft ที่ชีวิตของมนุษย์แม่ลูกสองรายนี้ ต้องผ่านมรสุมรุมเร้าแบบกระอักเลือด และต้องใช้ชีวิตหากินแบบตายเอาดาบหน้ากับสามีอยู่นานหลายปี จนกลายมาเป็นคนที่มีหนี้สิ้นติดตัว แต่แล้วเหมือนฟ้ามีตา ทำให้เธอพบทางสว่าง ด้วยการผันตัวไปเป็นแม่ค้าในโลกออนไลน์ แต่การเป็นแม่ค้าในโลกออนไลน์ ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับเธอ เพราะเธอต้องเจอกับเหล่าไวรัสปากหมา ที่ชอบมากัด มาแขวะ ดูถูกเหยียดหยาม ว่าน้ำหน้าปลวกๆ จั๊ดง่าวอย่างเธอ ทำอะไรไม่ก็เคยสำเร็จ แต่ดัดจริตคิดจะมาเป็นแม่ค้าออนไลน์ ชาตินี้ทั้งชาติจะสะกดคำว่า รวย เป็นหรือเปล่า แต่สารพัดคำดูถูกดูแคลนเหล่านี้ กลับกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เธอและสามี ต้องขับเคลื่อนหนีพลังงานความยากจน และหนี้สิน จนกลายเป็นแม่ค้าออนไลน์เบอร์หนึ่งของ จ.เชียงใหม่ ที่หลายๆ คนการันตีถึงความมีน้ำใจงามแต้ๆ ของมนุษย์แม่ (ค้า) ลูกสองคนนี้

S__3268616

          “ชีวิตแอนก็เป็นเหมือนแม่บ้านคนหนึ่ง ที่เราต้องหาเช้ากินค่ำ ยิ่งเรามีลูกสองคน ก็ต้องยิ่งหาเงินเพิ่มมากขึ้น ตัวแอนทำงานมาหลายอย่างมาก ทั้งเป็นลูกจ้าง ค้าขาย บางวันก็แทบจะไม่มีกินเลย คือตัวแอนอดได้ แต่ลูกต้องไม่อด สามีของแอนก็เคยขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แล้วมาเปิดร้านซ่อมรถเตอร์ไซค์เล็กๆ ก็ทำมาได้สักพัก แต่ชีวิตความเป็นอยู่ก็ไม่ได้ดีขึ้น คือชีวิตเราสองคนผัว-เมีย ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด อย่างตัวแอนก็เคยขายเสื้อผ้ามือสองแบบรับมาเป็นกระสอบ ขายตัวละ 20-30 บาท กำไรก็แทบจะมองไม่เห็น และด้วยความที่เราไม่ได้เรียนจบสูงๆ มา งานที่แอนเลือกทำได้ ก็เป็นงานรับจ้างทั่วไป แอนเคยเป็น พนักงานนวดฝ่าเท้ามาก่อน ต้องมานั่งนวดตอนดึกๆ เลิกงานเกือบเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ได้ชั่วโมงละ 80-100 บาท ถามว่าคุ้มไหม วันไหนลูกค้าเยอะมันก็คุ้มบ้าง เพราะได้ทิปจากลูกค้านักท่องเที่ยวด้วย แต่ที่ไม่คุ้มเลย คือการต้องเสี่ยงชีวิตทุกวัน แอนต้องขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านตอนดึกๆ ประมาณ 20-30 กิโล แล้วถนนหนทางก็มืดเปลี่ยวมาก เลยมาคิดว่าถ้าตัวเองต้องมาเป็นอะไรไป แล้วลูกๆ จะอยู่ยังไง

12226729_529450860541769_592690616_n

         จากนั้นแอนก็ไปเรียนเพ้นท์ร้องเท้ากังฟู แล้วก็ขยับมาเป็นเพ้นท์เล็บ มันเป็นช่วงที่ฮิตกันมาเรื่อยๆ แอนยอมเสียค่าเรียนไปหลายพัน เพราะตอนนั้นอยากหางานอะไรที่ทำอยู่กับบ้าน เลยเปิดร้านเพ้นท์เล็บแถวๆ บ้าน ตอนนั้นรายได้ถือว่าดีมาก แต่ความ โชคดี ก็มีความโชคร้ายเข้ามาปน คือแอนแพ้สีอะคริลิคทาเล็บ คือเวลาเราเพ้นท์เล็บ เราจะต้องก้มหน้าไปติดกับเล็บลูกค้า แล้วเราก็สูดดมสารระเหยเข้าไปด้วย มันก็ไปสะสมไปเรื่อยๆ จนมันวันหนึ่งแอนแสบจมูกมาก แล้วสิวผื่นก็ขึ้นมาบนหน้าเพียบ พอไปหาหมอก็รู้เราว่าแพ้สารระเหยจากสีอะคริลิค ก็เลยต้องเลิกทำไป จนได้มาขายข้าวสารอยู่กับบ้าน แบบตักเป็นลิตร ขายเป็นกิโล ตอนนั้นเราก็ไปหายืมเงินมาได้ 10,000 บาท เพื่อมาลงทุนขายข้าวสาร แต่พอขายไปๆ มาๆ กลับเจ๊ง ที่เจ๊งเพราะเราใจดี ยอมให้เขาเอาข้าวสารไปก่อน บางเจ้ามายกข้าวสารไปเป็นกระสอบๆ บอกว่าจะมาเคลียร์เงินช่วงสิ้นเดือน แล้วเขาก็หายไปเลย เราก็ไม่กล้าไปทวง กลายเป็นเจ้าหนี้ ที่กลัวลูกหนี้ซะงั้น

12207710_529450320541823_1118283241_n

           แล้วช่วงนั้นพวกธุรกิจออนไลน์กำลังมาแรงมาก จนเราไปเจอพวกเครื่องสำอางขายส่งชิ้น 20 บาท เราก็ไปตามหาว่าเขาไปรับมาจากไหน พอเจอแหล่งซื้อ-ขาย เขาก็ไม่ขายให้เรา เขาบอกที่ จ.เชียงใหม่ เขาขายให้เฉพาะเจ้าที่จ่ายเงินเป็นแสนๆ เงินหมื่นสองหมื่น เขาไม่เอาหรอก ตอนนั้นแอนเริ่มท้อแล้ว นั่งคิดอยู่กับตัวเองว่าชีวิตต่อจากนี้จะทำอะไร จนมาได้คำพูดของลูกสาวนี่ละ เขามาพูดว่า แม่ทำนั้นทำนี่มาหลายอย่าง แม่เก่ง แม่มีไอเดีย แม่สู้มาเยอะ คือเขาพูดอะไรหลายอย่างมาก จนตัวแอนเริ่ม สตรอง (หัวเราะ) ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง แอนก็สืบหาเลยว่าเขาไปรับเครื่องสำอางพวกนี้มากจากไหน จนรู้ว่าเขาไปรับมาจากประเทศจีน แอนเลยรวบรวมเงินเก็บ รวมไปถึงเงินกู้ยืมเรียนตั้งแต่มัธยมปลายของลูกสาว ที่เข้ามาในบัญชีทุกเดือน ลูกสาวแอนเขาไม่เคยใช้เลย เขาเก็บได้ประมาณ 20,000 กว่าบาท แอนก็เอามาเป็นรวมเป็นทุน แล้วบินไปประเทศจีน ย่านกวางโจว ไปถึงก็ตกใจมากเพราะเครื่องสำอางชิ้นหนึ่งอยู่ที่หลักบาท พอได้ของมาแอนก็เปิดขายในอินสตาแกรมเลยเครื่องสำอางชิ้นละ 19 บาท ตัดราคากันไปเลยหนึ่งบาท แล้วก็ขายดีมาก เลยตัดสินใจไปกู้เงินแสนมาลงทุนเพิ่ม แต่พอตลาดมันเปิดกว้าง คนเริ่มแห่ทำตาม สินค้าก็เริ่มขายไม่ค่อยออก ยิ่งเวลาออเดอร์สินค้าไปทางจีน เขาก็จะส่งมาผิดสี ผิดแบบ สินค้าเสียหายเยอะมาก ของแตก เละเทะ ขายไม่ได้ แล้วเป็นช่วงที่แอนทะเลาะกับสามีหนักมาก

997089_453472471472942_966949169588840158_n

            จุดเปลี่ยนของแอนก็เริ่มต้นอีกครั้ง หลังจากที่แอนมาเรียนรู้ว่า ถ้าเราต้องมาง้อ มานั่งรอสินค้าของคนอื่น เราจะไม่มีทางโตได้อย่างแน่นอน แล้วช่วงนั้นแอนก็เจอมรสุมลูกใหญ่เข้ามาอีกระลอก คือแม่แอนต้องขายบ้านที่เชียงใหม่ เพราะแม่ประสบปัญหาทางด้านการเงิน แอนกับสามีและลูกอีก 2 คนอยู่ เลยจำเป็นต้องไปหาที่อยู่ใหม่ ทำให้แอนกับสามีต้องหาเงินก้อนหนึ่ง ซึ่งเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิต ตอนนั้นแอนก็เริ่มที่จะมองหาช่องทางใหม่ๆ ในการขายของ เลยลองทำสบู่กลูต้า แล้วขายสอดแทรกกับพวกเครื่องสำอาง 19 บาท แล้วกลายเป็นว่าสบู่ ก็ขายดีมาก มีคนมาถาม มาขอซื้อ จนกลายเป็นสินค้า แบบปากต่อปากไปทั้ง จ.เชียงใหม่ เหมือนแอนเริ่มมีชีวิตใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง และคิดว่าเราคงเดินมาถูกทางแล้ว

S__3268642

            แอนเลยศึกษาการทำแบรนด์ และหันมาทำผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเอง ตอนที่ทำใหม่ๆ ก็โดนคนมาดูถูก ว่าจะไปรอดหรือเปล่าเพราะแอนไม่ได้มีหน้าตาสวยๆ ชวนให้คนอยากซื้อ ไม่ได้มาแจกของอะไรแพงๆ แบบเวอร์วัง บางคนมาถามแอนว่าทำผลิตภัณฑ์ ขายของออนไลน์ มันจะรวยจริงหรอๆ ซึ่งตอนนั้นแอนก็ไม่รู้หรอกว่า มันจะรวยไหม แต่รายได้ที่เข้ามาจากหลักหมื่น หลักแสน ไปจนถึงหลักล้าน มันก็ทำให้แอนพอใจ กับสิ่งที่แอนตัดสินใจเลือกที่จะทำ แล้วทุกๆ วันนี้ตัวแอนยังได้มาร่วมงานกับคนประมาณ 2000 คนทั่วประเทศ ได้มาเจอกัลยาณมิตรที่ดี เพราะตัวแอนให้ความจริงใจกับทุกๆ คนที่ทำงานร่วมกัน สถานะชีวิตทุกไม่ได้คิดว่าตัวเองรวย ถ้าเรามีน้อย เราก็ใช้น้อย มีมาก เราก็ใช้พอประมาณ มีเหลือกิน เหลือเก็บ เราก็แบ่งบัน แล้วที่แอนมาถึงจุดนี้ได้ เพราะแอนมีจรรยาบรรณต่อทุกๆ คน แอนไม่ชอบเอาเปรียบใคร เพราะผ่าน เราโดนอะไรแบบนี้มาหมดแล้ว ทุกวันนี้ตัวแอนยังคงความเป็นสาวบ้านนอกเหมือนเดิม บางครั้งก็ขับรถมอเตอร์ไซด์ไปส่งของเองตลอด แอนยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่ติดหรู เราเป็นแม่คน เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกๆ ในการใช้ชีวิต”

12072778_522599377893584_4170735105809163772_n

 

          ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ของ คุณแอน สุพัตรา คุณแม่ลูกสองเลือดนักสู้แบบสตรองจาก อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เจ้าของเฟสบุ๊ค Ann Whitesoft

 

[ads=center]

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: