ในช่วงเวลาที่น้ำมันขึ้นราคาเช่นนี้ ใครๆก็อยากจะใช้น้ำมันให้คุ้มค่ามากที่สุด และถ้าถามว่าเติมน้ำมันชนิดไหนจึงจะคุ้มที่สุด ก็คงจะมีคำตอบที่หลากหลายกันออกไป ซึงหนึ่งในคำตอบที่เราจะนำเสนอวันนี้เป็นแนวความคิดจากสมาชิคเวปไซต์พันทิปท่านหนึ่ง ที่มีการทดลองเก็บข้อมูลการเติมน้ำมันรถของตัวเอง เพื่อจะนำมาคำนวณความคุ้มค่าแบบลิตรต่อลิตร คำตอบจะเป็นอย่างไรตามมาดูกันเลยค่ะ
[ads]
สืบเนื่องมาจากว่า ผมซื้อรถมาประมาณครึ่งปี รถคันนี้บอกว่าเติมได้ทั้ง น้ำมัน e85 e20 gasohol95 เลยเกิดความสงสัยว่าแบบไหนประหยัดที่สุด พอดีกับงานที่ทำก็ต้องจดน้ำมันทุกวันอยู่แล้ว ก็เลยเริ่มจดน้ำมันและระยะทางที่รถวิ่งได้ แล้วมาลองคำนวนดูเล่นๆว่าอะไรคุ้มสุด
เริ่มจดตั้งแต่ปลายเดือน พฤษภาคม จนถึงตอนนี้ ก็ประมานเกือบๆ ครึ่งปี โดยผมจะเติมน้ำมันแบบละเดือน เช่น เดือน มิถุนาเติม95 เดือนกรกฎาเติมe20 เดือนสิงหาเติมe85 โดยจะเติมเต็มถังทุกครั้ง แล้วก็ขับจนรูปปั้มน้ำมันขึ้นสีแดงตรงหน้าปัดก็จดระยะทางที่วิ่งได้ตรงนั้น
เรื่องความเร็วผมassumeว่าขับทั้งเดือนพอๆกัน ผมขับไปทำงานจากบ้านค่อนข้างไกล เดือนหนึ่งเติมน้ำมันประมาณ 5 ครั้ง
สุดท้ายก็เอามาเฉลี่ยทั้งหมด ได้คำตอบคือ
95 14.3 กิโล/ลิตร
e20 13.56กิโล/ลิตร
e85 11.31กิโล/ลิตร
ตัวเลขที่ออกมา สรุปได้ว่า น้ำมันยิ่งมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เยอะขึ้น ก็จะวิ่งได้ระยะทางน้อยลง แต่ว่ายิ่งผสมมากราคาน้ำมันยิ่งถูกลง ดังนั้นผมเลยเอาราคาน้ำมันมาคิดคำนวณด้วย
ผมลองเปลี่ยนมาเป็นหน่วย บาท/กิโลเมตร คือ รถแล่นไป1กิโลเมตร เราจะเสียตังกี่บาท
ง่ายๆเลย เราขับไป1กิโลเมตร น้ำมันแต่ละแบบจะต้องจ่ายตังเท่าไหร่
ซึ่งหาราคาน้ำมันย้อนหลังจากที่นี่ (ref. http://www.pttplc.com/TH/Media-Center/Oil-Price/pages/Bangkok-Oil-Price.aspx) แล้วลองพลอตกราฟดู ทีนี้ได้เรื่องเลย (assume อัตราสิ้นเปลืองเป็นค่าคงที่ใช้ตามค่าเฉลี่ยนตามตัวเลขที่หาได้ข้างบน)
กราฟแต่ละสี คือน้ำมันแต่ละชนิด
สีน้ำเงินคือ น้ำมันgasohol95
สีแดงคือ e20
สีเขียวคือe85
ลากเส้นในแนวดิ่งขึ้นไปจากวันที่ข้างล่าง คือ อัตราสิ้นเปลืองเป็นบาท(รถผมนะครับ) ถ้าอยู่สูงก็แปลว่าแพง อยู่ต่ำก็ถูก
ยกตัวอย่างเช่น วันที่3/1/2015 ถ้าใช้น้ำมัน95 ก็อัตราอยู่ที่ 2.06บาทต่อ 1 กิโลเมตรที่ขับ /e20 1.93บาท ต่อ 1 กิโลเมตรที่ขับ/ e85 1.97บาทต่อ 1 กิโลเมตรที่ขับ
สรุปได้ว่าอะไรบ้าง?
1 กราฟที่อยู่สูง คือ มีอัตราสิ้นเปลืองมาก
2 กราฟเส้นสีแดง(e20) shift ลงมาจากเพื่อน แปลว่าเส้นสีแดงมีอัตราสิ้นเปลืองน้อยที่สุด เกือบจะตลอดทั้งปี
3 กราฟสีน้ำเงินกับสีเขียวสลับกันขึ้นๆลงๆ แปลได้ว่า ราคาน้ำมันที่ขึ้นลง บางที95ลงแต่ e85ไม่ลงหรือลงน้อย ทำให้ในบางช่วงเวลาเติม 95ประหยัดกว่า e85 และบางครั้ง เติมe85ประหยัดกว่า95
4 เส้นของกราฟสีแดงกับสีน้ำเงิน คล้ายกันเกือบตลอด แสดงว่า เมื่อ95มีการปรับราคา e20 ก็ปรับราคาในอัตราส่วนเดิมตลอด
5 ช่วง1-2เดือนมานี้ e85 ปรับลดลงมากระทันหัน(ลง2บาทจากเวปref.ข้างบน) ทำให้การใช้e85 ประหยัดกว่า 95 และพอๆกับe20
สรุปรวมทั้งหมดสิ่งที่ได้จากการศึกษานะครับ
น้ำมันทั้งหมด อัตราสิ้นเปลืองต่อกิโลเมตรต่างกัน ไม่เกิน0.1 นั้นคือ ถ้าปีนืงผมขับไป 50000กิโล ความแตกต่างของค่าน้ำมันก็ต่างกันไม่เกิน 5000 ก็เลือกกันเองครับว่าจะเติมอันไหน เรื่องน้ำมันแต่ละแบบมีคุณสมบัติต่างกันยังไง อันนี้ผมก้ขอไม่พูด(เพราะไม่รู้ 55)
ส่วน e85 จริงๆแล้วราคาต่อลิตรถูกกว่าแต่เมื่อเทือบราคาต่อระยะทางแล้วไม่ได้ประหยัดไปกว่า น้ำมันอื่นๆเลย ผมก็ไม่รุ้จะเติม alcoholใส่รถผมเยอะๆทำไม ในเมื่อมันไม่ได้ประหยัดกว่า e20 เลย
สุดท้ายผลการเปรียบเทียบนี้ assume มาจากอัตราสิ้นเปลืองคงที่ซึ่งมาจากการคิดคำนวนของผมเอง อัตราสิ้นเปลืองของรถท่าน ก็คงต้องลองไปคิดกันเอาเอง หากผิดพลาดประการใดขอโทษด้วยครับ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก สมาชิกหมายเลข 1164205 สมาชิคเวปไซต์พันทิป
เรียบเรียงข้อมูลโดย ThaiJobsGov.com
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ