โอมิครอน ลามแล้ว 95 ประเทศ เผย ไทยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 104 ราย





ศบค. เผย โอมิครอน ลามแล้ว 95 ประเทศทั่วโลก ไทยพบแล้ว 104 ราย สหรัฐฯ เจอแล้ว 73% ของผู้ติดเชื้อ อิสราเอลห้ามเดินทาง 10 ประเทศ

วันที่ 22 ธ.ค.2564 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค เป็นตัวแทน ศบค.แถลงสถานการณ์โควิด 19 ว่า สายพันธุ์โอมิครอนแพร่กระจายไปแล้ว 95 ประเทศ ระบาดในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 47 รัฐ คิดเป็น 73% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในสหรัฐฯ โดยเพิ่มจากสัปดาห์ที่แล้วที่อยู่ 12.6%

พญ.สุมนี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ อิสราเอลได้ห้ามประชาชนเดินทางไป 10 ประเทศปลายทาง ได้แก่ เบลเยียม เยอรมนี ฮังการี อิตาลี โมร็อกโก โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี สหรัฐฯ แคนาดา เพื่อหวังสกัดโอมิครอน และงดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนคนอิสราเอลจะเข้าประเทศต้องกักตัวทุกราย แม้ฉีดวัคซีนครบแล้ว สำหรับประเทศไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รายงานโอมิครอน 104 ราย มีทั้งอยู่ในระบบการรักษา และบางส่วนหายดีออกจากโรงพยาบาลแล้ว

พญ.สุมนี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ระงับการลงทะเบียนผู้เดินทางเข้าประเทศรูปแบบ Test&Go และ Sandbox ชั่วคราว ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และการกักตัว มีผลตั้งแต่วันนี้ (22 ธ.ค.) จนถึง 4 ม.ค.2565 ส่วนผู้ที่ได้รับอนุมัติ Test&Go ก่อนหน้านี้ มีประมาณ 2 แสนคนยังเข้ามาได้ มีมาตรการเพิ่มเติม คือ เมื่อถึงไทยตรวจ RT-PCR เป็นลบ เดินทางต่อได้

พญ.สุมนี กล่าวอีกว่า แต่ต้องติดตามตัวตลอดเวลา ติดตั้งแอพพลิเคชัน “หมอชนะ” ทุกคน และตรวจ RT-PCR ซ้ำในวันที่ 5 หรือวันที่ 6 ก่อนครบ 7 วันกับโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน ซึ่งค่าตรวจครั้งที่ 2 รัฐจะออกให้ โดย ศบค.จะติดตามอย่างใกล้ชิดและประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 4 ม.ค.2565 ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวหลุดจากระบบติดตาม ขอให้ทุกหน่วยงาน โรงแรมที่รับนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ฯลฯ ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ เพราะขณะนี้เราอยู่ระหว่างการสกัดกั้นโอมิครอน หากมีการระบาดในประเทศก็ต้องระบาดให้น้อยที่สุด

พญ.สุมนี กล่าวต่อว่า วันนี้ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก โดยกรมการกงสุล รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาสนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ที่ประมาณ 10,787 คน ภูเก็ตประมาณ 2,546 คน ผอ.ศบค.ชุดเล็กได้ให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จัดศูนย์ปฏิบัติการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้เดินทางที่มาทางท่าอากาศยานทุกช่องทาง ให้ติดตามการเดินทางจนเข้าที่พัก และติดตามการตรวจครั้งที่ 2 ให้ครบทุกรายในช่วง 7 วัน

พญ.สุมนี กล่าวด้วยว่า ซึ่งมีหน่วยงานเกี่ยวข้องต่าง ๆ ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข การบินพลเรือน กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น รวมไปถึงผู้ประกอบการ โรงแรม และโรงพยาบาลคู่ขนานปฏิบัติงานร่วมกับโรงแรมทุกแห่งด้วย

“ที่สำคัญต้องสื่อสารแนวทางปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวทุกคน และต้องให้ตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อน จึงจะให้ออกจากห้องพักได้ ทุกวันนี้ยังมีคนที่ยังไม่รอผลแต่ออกไปก่อน ซึ่งเสี่ยงมาก และเมื่อผลเป็นลบออกไปได้ แต่ระหว่างการเดินทางต้องปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรการความปลอดภัย ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพราะมีรายงานว่า นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทย เมื่อผลเป็นลบยังพบไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งถือว่าไม่ปลอดภัย เพราะตรวจครั้งแรกไม่พบ แต่ครั้งที่สองยังไม่ได้รับการตรวจ ยังเสี่ยงอยู่” พญ.สุมนี กล่าว

พญ.สุมนี กล่าวว่า ขอให้เข้มงวดมาตรการทุกมาตรการ อย่างคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ขอให้ชะลอหรือยกเลิกการเดินทางที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะเดินทางไปประเทศทางยุโรป อเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง ขอย้ำมาตรการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งมาตรการกลับภูมิลำเนา และมาตรการในการกลับเข้าสถานประกอบการ ที่ทำงาน (ตรวจATK ทั้งไปและกลับ) และหลังปีใหม่ ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐให้มีมาตรการเจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้าน Work From Home มากที่สุดในช่วงแรก เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: